โยฮันเนสเบอร์ก อัฟริกาใต้ เวลานี้ยังคงสนุกสนาน ปิติ ยินดีกับการคว้าแชมป์โลกรักบี้ของทีม Springbox ฉายาของทีมชาติอัฟริกาใต้ที่โด่งดังเหลือเกินกับกีฬาสุภาพบุรุษคนชนคน หลายปีมาแล้วที่พวกเขาไม่ได้ยินดีกันกับทีมชาติของเขาเท่าปีนี้เพราะห่างความเป็นแชมป์มาหลายปีกว่าจะมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง
ก่อนหน้าการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศเพียงหนึ่งสัปดาห์ ผมเดินทางไปเยือนโยฮันเนสเบอร์ก ตามหมายเชิญของ BMW ในหมายเชิญระบุว่า ไปร่วมงาน The BMW M Festival 2019 ซึ่งเป็นงานที่ BMW อัฟริกาใต้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 หลังจากประสบความสำเร็จในการจัดงานครั้งแรกเมื่อปี 2017 มีคนรัก BMW มาร่วมงานกว่า 20,000 คน !!! มากมายอย่างเหลือเชื่อ จนทนเสียงเรียกร้องจากแฟนไม่ไหวต้องจัดใหม่อีกครั้งในปีนี้และครั้งนี้นัยว่ายิ่งใหญ่กว่า คาดว่าจะมีคนมาร่วมงานมากกว่า 30,000 คน เป็นงานที่มีคนคนรัก BMW มาร่วมงานมากที่สุดในโลกอย่างแน่นอน และอย่างน้อยก็มีเพิ่มสื่อมวลชนจากไทยอีก 3 คนรวมผมในนั้นและ จอห์น กฤษฎา อุตตโมทย์ เจ้าสำนักสื่อสารองค์กรของ BMW ไทยด้วยอีกหนึ่ง ที่สำคัญรายการนี้ยังมีโอกาสได้ร่วมขับรถยนต์ BMW ตระกูล M รุ่นใหม่มากมายหลายรุ่น เท่านั้นก็สร้างความตื่นเต้น เร้าใจล่วงหน้าไว้แล้ว เพราะคงไม่มีโอกาสได้เล่นได้ลองของแรงครบสูตรแบบนี้บ่อยๆอย่างแน่นอน
โยฮันเนสเบอร์ก เป็นเมืองใหญ่สุดของ อัฟริกาใต้ เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นธุรกิจใหญ่ๆก็จะอยู่ที่เมืองนี้ รวมทั้งสำนักงานของ BMW และโรงงานประกอบ BMW ที่มีกำลังการผลิตกว่าแสนคันต่อปีที่น่าสนใจคือ 85% ของ BMW ซีรี่ส์ 3 ผลิตที่นี่และส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก ในขณะที่ตลาด BMW ในอัฟริกาใต้เองก็มีขนาดใหญ่กว่า 20,000 คันต่อปี และยังอยู่ในพื้นที่มากว่า 40 ปีแล้วทำให้มีประชากร BMW อยู่จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่สนับสนุนการจัดงาน The BMW M Festival จนมีผู้มาร่วมงานเรือนหมื่นคน อย่างที่กล่าวไว้ว่า เป็นการรวมพลคนรัก BMW ที่มากที่สุดในโลก!!!
แต่ก่อนจะพาไปเข้าสู่ M Town รายการแรกที่เจ้าภาพ BMW อัฟริกาใต้จัดไว้ให้คณะสื่อมวลชนคือ รายการ BMW Driving Experience ที่สนาม BMW X Drive Park อยู่ใกล้กับโชว์รูมและศูนย์บริการของเขานั่นเอง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ออกแบบไว้เพื่อการทดสอบหรือให้ทดลองขับรถ BMW ในประสบการณ์แบบ Off road
ในครั้งนี้เขาได้เตรียม BMW X3 ไว้ประมาณ 10 คัน ให้ได้ทดลองขับกันครบถ้วนทุกคน ในสนามทดสอบจำลองสภาพผิวถนนหลายรูปแบบ เป็นการแสดงให้เห็นขีดความสามารถด้านการใช้งานในสถานการณ์ Offroad ให้ผ่านสภาพเส้นทางยากๆไปได้อย่างง่ายๆ โดยมีตัวช่วยเช่น ระบบควบคุมความเร็วขณะขึ้นทางลาดชัน Hill-Start Assisant และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control เมื่อขึ้นและลงทางลาดชันกว่า 40 องศา โดยไม่ต้องใช้แรงมากนักในขาขึ้น และปล่อยให้รถเดินลงเองขณะขาลง ระบบจะจัดการรักษาความเร็วและรอบเครื่องยนต์รวมทั้งเบรคเองทั้งหมดโดยเราทำหน้าที่เพียงควบคุมพวงมาลัย เมื่อข้ามโขดหิน สะพานขอนไม้หน้าจอขนาด 10.25 นิ้ว จะแสดงภาพรถจากกล้อง 360 องศา ที่ประมวลภาพทั้งมุมหน้ารถด้านข้างและมุมบน แบบ realtime มาแสดงให้เห็นเพื่อนำทางได้อย่างชัดเจน ตะแคงขึ้นทางชันกว่า 45 องศา และไฮไลท์คือ ผ่านเส้นทาง ทรายร่วนหนากว่า 1 ฟุต ระยะทางประมาณ 50 เมตร ด้วยการออกตัวแบบ Launch control กดคันเร่งจากจุดนิ่งแล้วเลี้ยงพวงมาลัยผ่านเส้นทางนี้ไปได้ในลักษณะเหมือนเรือที่ลอยไปบนผิวทราย ซึ่งดูแล้วน่าจะติดอยู่ในหลุมทรายมากกว่าจะผ่านไปได้อย่างง่ายๆ นั่นเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจมาก และสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องมีทักษะการขับขี่แบบ offroad มากมายนักกับ BMW X3 ซึ่งรถที่จำหน่ายในบ้านเราก็มีระบบช่วยการขับขี่เช่นนี้ให้ใช้ง่ายเช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่า จะมีโอกาสได้ใช้หรือหาสถานที่มาลองใช้งานกันได้หรือไม่เท่านั้น
เอาละได้เวลาพาท่านผู้ชมเข้าสู่สนาม Kyalami Grand Prix Circuit สนามแข่งรถที่มีประวัติเคยใช้สำหรับการแข่งขัน F1 มาแล้วในอดีตและเพิ่งจะปรับปรุงใหม่ สวยงามสภาพดีเยี่ยมใช้งานมาได้ประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมานี้เอง เราเข้ามาในสนามก่อนวันจัดงาน The BMW M Festival หนึ่งวันเพื่อที่จะทำภารกิจสุดเร้าใจตามที่เกริ่นนำไว้เบื้องต้นนั้นคือ ขับบรรดา M ตัวแรงทั้งหลายที่จัดไว้ไล่เรียงไปคือ
M5 ขุมพลังเบนซิน V8 4.4 ลิตร 4,395 ซีซี. Bi-turbo พร้อมเทคโนโลยี M TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 600 แรงม้า ที่ 5,600 – 6,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 5,600 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ M Steptronic
X4M Competition เครื่องยนต์แบบ 6 สูบเรียง 24 วาล์ว ขนาดความจุ 2,993 ซี.ซี. พัฒนาขึ้นมาให้มีกำลังมากมายถึง510 แรงม้าที่ 6,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร เริ่มจาก 2,600 ไปจนถึง 5,950 รอบต่อนาที
M340i เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร 6 สูบ กำลังสูงสุด 374 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 500 นิวตันเมตร รองรับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive
และ M2 Competition เบนซิน 6 สูบเรียง ทวินเทอร์โบชาร์จเจอร์ ความจุ 2,979 ซีซี. กำลังสูงสุด 410 แรงม้า ที่ 5,250 – 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ที่ 2,350 – 5,200 รอบ/นาที
เราใช้เวลากับความสนุกสนานตื่นเต้นไปกับบรรดา M ทั้งหลายนี้ครบทุกคัน หมุนเวียนกันไป คันละ 2 รอบสนามแข่ง โดยมี Instructor แนะนำสนาม บอกline ในการขับและชวนคุย? นั่นเพราะเป็นสนามแข่งที่ไม่เคยขับมาก่อน ความยาวสนามประมาณ 4.5 กม. กับ 16 โค้ง ที่น่าตื่นเต้น บวกกับ ฝูง M ระดับความแรงต่ำสุด 374 แรงม้า เป็นใคร Heart rate ก็ต้องพุ่งปรี้ดทั้งนั้นละครับ ที่น่าจะประทับใจที่สุดคงต้องเป็น M2 Competition อาจจะเป็นเพราะรอบหมุนเวียนการขับมาตกถึงมือผมเป็นคันสุดท้ายพอดี ทำให้รู้จักสนามแข่งจำโค้งพอได้บ้างแล้ว เลยสนุกกับ M2 ได้มากขึ้น สุ่มเสียงมาก่อนเป็นอันดับแรก คำรามผ่านท่อจริงแบบไม่ได้สังเคราะห์เร้าใจสุดๆ อาการเกรี้ยวกราดแบบดิบๆ พร้อมที่จะลงสนามแข่งขันจริงได้แบบไม่ต้องทำอะไรมากไปกว่านี้ มันทำให้ต้องเตรียมใจมากกว่า M ตัวอื่น กดคันเร่งเป็นถึงเป้าหมายทุกครั้งไป สมแล้วกับเครื่องยนต์ใหม่ S55B30 เทอร์โบคู่ ที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ภายใน 4.2 วินาที นี่มันซูเปอร์คาร์ไซส์ S ชัดๆ สนุกครับท่านผู้ชม M2 Competition ตัวนี้มีราคาค่าตัวในบ้านเรา 6.299 ล้านบาท ถามหากันได้เลยนะครับ
ของแถมสำหรับวันนี้คือ ได้นั่งในรถแข่ง M4 GT4 โดยนักแข่งสาว Beitske Visser ชาวเนเธอร์แลนด์ มือระดับ GT4 European Series มาขับ Hotlap ให้นั่ง1 รอบสนาม ก็รู้สึกตื่นเต้นสนุกไปกับเธอ แอบชำเลืองมองที่เรือนไมล์ดิจิตอลอยู่ตลอดเวลาเพราะนั่งอยู่ในเบาะที่ต่ำติดพื้นรถแทบจะมองข้างหน้าไม่เห็น สังเกตว่าเธอทำความเร็วไม่มากนักเพียงในโค้งที่ผมเข้าประมาณ 100 กม./ชม.นั้นเธอเข้าเกือบ 200 กม./ชม.เท่านั้นเอง
วันรุ่งขึ้นเรากลับมาที่ Kyalami Grand Prix อีกครั้ง เป็นวันเสาร์ที่นี้สนามแข่งถูกเนรมิตให้เป็นเมืองแห่งมอเตอร์สปอร์ตที่เรียกง่ายๆว่า M Town เข้าสู่บรรยากาศของงาน The BMW M Festival 2019 ผู้คนหลั่งไหลกันเข้าสู่สนามอย่างไม่ขาดสาย ทั้งชวนเพื่อน หอบลูก จูงแฟน พาพ่อแม่มาเข้างานกันมากหน้าหลายตา บัตร VVIP มูลค่าประมาณ 6,000 บาทไทยถูกจองขายหมดไปก่อนหน้าจะถึงวันงานแล้วทั้งสองวันเสาร์อาทิตย์ของการจัดงาน ผู้จัดประเมินว่าปีนี้จะมีผู้เข้าชมรวม 2 วันประมาณ 30,000 คน ที่เป็นเช่นนั้นเพราะแทบจะทุกพื้นที่ของสนามแข่ง Kyalami ถูกใช้เต็ม
แน่นอนในสนามนั้น สามารถจองคิวไปนั่งรถ BMW ตระกูล M ทั้งหลายได้โดยมี Instructor ขับให้นั่ง และ ถ้าโชคดีจะได้นั่งรถแข่ง M4 GT4 หรือ BMW DTM ด้วยก็ได้ และยังมีการแข่งขัน Sprint ระยะควอเตอร์ไมล์แบบสนุกๆแต่เอาจริงของบรรดา ตัว M ทั้งหลายด้วย เรียกความสนใจให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี
ในขณะที่ส่วนในอาคารมีการจัดแสดงนิทรรศการรถแข่งของ BMW ไว้มากมาย รถBMW ซีรีส์ 5 ที่ประกอบขึ้นในโรงงาน BMW ที่นี่เมื่อ 40 ปีที่แล้ว กลายสภาพเป็นรถผุพังถูกนำกลับมาบูรณะใหม่โดยทีมช่างชุดที่เคยประกอบรถคันนี้ให้กลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์เหมือนออกจากโรงงานใหม่อีกครั้งหนึ่ง รถแข่งอีกหลายคันมีประวัติทางมอเตอร์สปอร์ตอย่างโชกโชน รวมทั้งรถโชว์อย่าง BMW M1 รถแต่งโชว์ในรูปแบบต่างๆ การเปิดตัวรถใหม่ 2 รุ่นด้วยกันคือ X5 M และ X6M เครื่องยนต์ทรงพลัง V8 M twinPower Turbo Technology 625 แรงม้า พร้อมชุดแตก M เต็มรูปแบบทั้ง 2 คัน และมุมรถใหม่มีการขนรถทั้งหมดของ BMW มาจัดแบ่งโซนเป็นกลุ่มๆพร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ ลดราคาเฉพาะในงานนี้ 2 วันน่าสนใจตรงที่ราคารถใหม่ที่นี่ถูกกว่า ยกตัวอย่าง 320i จะราคา ประมาณ 1.8 ล้านบาท ในขณะที่บ้านเราเครื่องยนต์เบนซิน ก็เริ่มต้นที่ 330 I อยู่ที่ 3.359 ล้านบาท แถมลูกค้าที่จองรถในงานจะมีส่วนลดเงินสดอีกประมาณ 10-15 % ผู้บริหารเขาคาดว่าจะมียอดจองประมาณ 200 คัน ก็ไม่น่าจะผิดไปจากนั้นเว้นแต่จะขายได้มากกว่าเป้าเสียมากกว่าเท่านั้น
อีกส่วนสันทนาการนั้นเขามีทั้งเครื่องเล่นสวนสนุก ออกร้านขายอาหาร ขายของมากมาย ไม่เว้นแม้แต่ร้านตัดผม และ ที่เป็นแม่เหล็กของงานคือเวทีคอนเสิร์ต ศิลปินชื่อดังของเขาซึ่งผมเองก็ไม่ถนัดที่จะรู้จักพวกเขาแต่คงจะระดับแนวหน้าร้อยล้านวิวล้วนๆ เป็นไฮไลท์ดึงดูดผู้คนเข้ามางานไม่ใช่น้อย
จะด้วยเหตุผลความชอบในแบบไหนก็ตาม แฟนๆ BMW ที่ อัฟริกาใต้ ก็ได้ใกล้ชิด BMW ของพวกเขาเป็นพิเศษ โดยเฉพาะความร้อนแรงของรหัส M นั้นมีเสน่ห์ มีความเร้าใจในตัวเองมากมายเวสียเหลือเกิน จนถึงกับ อิจฉาขึ้นมาทีเดียวที่ไม่ได้เห็น M Town เต็มรูปแบบอย่างนี้เกิดขึ้นในเมืองไทย อย่างน้อยก็ในปีนี้ ปีหน้าหรือปีต่อไป…ไม่แน่ เพราะ ผู้บริหาร BMW ที่ให้กำเนิดงาน The BMW M Festival ที่นี่เมื่อสองปีที่แล้ว บัดนี้นั่งเป็น ประธาน BMW ประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
ภูวนาถ เผ่าจินดา รายงาน