Friday, November 8, 2024
HomeAuto News(มีคลิปวีดีโอ) รีวิว New Honda City 2 รุ่น ทั้ง HatchBack และ e:HEV มีอะไรเพิ่ม...คุ้มมั้ย!!!

(มีคลิปวีดีโอ) รีวิว New Honda City 2 รุ่น ทั้ง HatchBack และ e:HEV มีอะไรเพิ่ม…คุ้มมั้ย!!!

ฮอนด้า ออโตโมบิลส์ (ประเทศไทย) ส่ง New Honda City ใหม่ลงตลาดถึง 2 รุ่น ทั้ง Hatchback 5 ประตู ซึ่งเป็นการเปิดตัวแบบ World Premier ครั้งแรกของโลก และ e:HEV โดยเพิ่มเติมในส่วนของระบบไฮบริดรุ่นล่าสุด เพื่อให้กลุ่มลูกค้าได้มีทางเลือก เคาะราคาขายในรุ่น 5 ประตู เริ่มต้นที่ 599,000 – 749,000 บาท และในรุ่น e:HEV ตั้งราคาจำหน่ายไว้ที่ 839,000 บาท ส่วนรถแต่ละรุ่นจะมีรายละเอียดอะไรบ้างนั้น เชิญรับชมครับ

เปิดตัวในรูปแบบเจน 5 ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมาด้วยสมรรถนะความแรงและประหยัด มาครั้งนี้ ถือเป็นการเพิ่มไลน์อัพใหม่ในรูปแบบแฮทแบค 5 ประตู ซึ่งเปิดตัวในรูปแบบ World Premier ที่ไทย รวมถึงอีกหนึ่งรุ่นนั่นคือ e:HEV ในรูปแบบของขุมพลังไฮบริดรุ่นล่าสุด มาเริ่มรายละเอียดกันที่รุ่น Hatchback กันก่อน

Honda City Hatchback มากับมิติความยาว 4,349 มม. กว้าง 1,748 มม. และสูง 1,488 มม. ในขณะที่ระยะฐานล้อหน้า/หลังยาว 2,589 มม. และความสูงใต้ท้องรถ 135 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นซีดาน 4 ประตูจะสั้นกว่า 204 มม. สูงกว่า 21 มม. แต่สูงใต้ท้องรถเท่ากัน

New Honda City 1

New Honda City 2

ด้านดีไซน์นั้นได้นำเอาเอกลักษณ์ความสปอร์ตพรีเมียมแฮทช์แบ็ก ซึ่งมาพร้อมดีรูปลักษณ์ภายนอกที่สปอร์ตโฉบเฉี่ยว โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และ กระจังหน้าแบบโครเมียม

New Honda City 4

ส่วนในรุ่นท๊อป RS จะแตกต่างตรงที่ใช้ไฟหน้าแบบ FULL LED พร้อมชุดหน้ากระจังสี Piano Black

New Honda City 3

มุมมองด้านหลังแบบรถท้ายลาด ซึ่งให้ความเอนกประสงค์มากกว่าเดิม ไฟท้ายใช้แบบ LED มีการติดตั้งเสาอากาศแบบครีบฉลาม ติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วในรุ่นเริ่มต้น และ 16 นิ้วในรุ่นท๊อพ

New Honda City 5

New Honda City 6

New Honda City 7

ภายในห้องโดยสารติดตั้งวัสดุซับเสียงในทุกมิติไม่ว่าจะเป็นหลังคา แผงข้าง พื้น รวมถึงผนังห้องเครื่องยนต์ รวมถึงฉีดสเปย์โฟมในส่วนที่เชื่อมต่อกันระหว่างประตูกับห้องเครื่องยนต์เพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอก ทั้งยังหรูหรา สวยงามในโทนสีดำ มาพร้อมเบาะหนัง (รุ่น SV) ส่วนรุ่นท๊อป RS จะเป็นแบบหนังกลับ ตัดขอบด้วยผ้าสีแดง

New Honda City 8

คอนโซลหน้าแบบ Piano Black มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วย หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมมาตรวัดเรืองแสง

New Honda City 9

New Honda City 15

รองรับไลฟ์สไตล์ในแบบของตัวเองด้วยเบาะนั่ง อัลตรา ซีท (ULTR) แยกพับแบบ 60:40 ที่ปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ได้ถึง 4 โหมด พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ อันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า ได้แก่
•Utility Mode: เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง

New Honda City 10
•Long Mode: เบาะด้านหน้าและด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาวได้ขนาดความจุถึง 2.8 ม.

New Honda City 11
•Tall Mode: เบาะด้านหลังพับขึ้น เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง

New Honda City 12
•Refresh Mode: เบาะด้านหน้าพับเชื่อมต่อกับเบาะด้านหลัง สร้างพื้นที่ผ่อนคลายสะดวกสบายสูงสุด

New Honda City 14

ระบบเครื่องเสียงรุ่นเริ่มต้นยังเป้นแบบ 2 Din ส่วนรุ่นกลางและท๊อปใช้หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI พร้อมแสดงภาพจากกล้องมองหลังได้ถึง 3 มุมมองรวมถึงฟีเจอร์ Honda Lane Watch

New Honda City 17

พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ รวมถึงติดตั้งระบบเปลี่ยนเกียร์แบบแพดเดิลชิฟท์

New Honda City 16

อีกหนึ่งความสะดวกสบายเข้ากับยุคสมัยนั่นคือ Honda Connect ซึ่งประกอบไปด้วย
1.MY SERVICE สามารถตรวจสอบประวัติการเข้ารับบริการ รวมทั้งการประเมินรายการอะไหล่และค่าใช้จ่ายเบื้องต้น โดยจะมีการแจ้งเตือนกำหนดการเข้ารับบริการครั้งต่อไป
2.DRIVING BEHAVIOR บันทึกข้อมูลและพฤติกรรมการขับขี่ต่างๆ ที่สามารถให้แสดงผลเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปี
3.WIFI เชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สายจากรถยนต์ โดยจะใช้งานได้พร้อมกันสูงสุดถึง 5 อุปกรณ์ ซึ่งต้องสมัครแพ็กเกจอินเตอร์เน็ตจากผู้ให้บริการเครือข่าย (เอไอเอส) โดยเจ้าของรถจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
4.AIRBAG DEPLOYMENT เมื่อถุงลมทำงาน จะส่งสัญญาณแจ้งผู้ใช้งานผ่านทางแอปพลิเคชันทันที และส่งข้อความสั้นไปยังเบอร์ติดต่อฉุกเฉิน นอกจากนี้ระบบจะส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า เพื่อทำการประสานงานให้ความช่วยเหลือขั้นต้น
5.SECURITY ALARM แจ้งสถานะเมื่อเกิดความผิดปกติกับรถยนต์จากภายนอก
6.REMOTE VEHICLE CONTROL สามารถสั่งล็อกและปลดล็อกประตูทั้งหมด ฝากระโปรงหน้าและฝากระโปรงท้าย รวมถึงสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ พร้อมทั้งตั้งค่าระดับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศในรถยนต์ ทั้งยังสามารถสั่งเปิด/ปิดสัญญาณไฟ ทั้งไฟหน้าและไฟท้าย
7.GEO FENCE & SPEED ALERT กำหนดขอบเขตการขับขี่รถยนต์ทั้งเข้าและออกตามพื้นที่ที่กำหนดไว้ และตั้งค่าแจ้งเตือนความเร็วตามกำหนด
8.FIND MY CAR ตรวจสอบพิกัดรถยนต์ โดยระบบจะส่งพิกัดรถยนต์บนแผนที่ล่าสุดผ่านทางแอปพลิเคชัน

New Honda City 18

เครื่องยนต์เป็นแบบ 3 สูบ 12 วาล์ว VTec Turbo ส่งกำลังด้วยเทอร์ไบและเวสต์เกตไฟฟ้า พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์แบบน้ำ มีระบบหัวฉีดมัลติพอยท์ PGM-FI ขนาดความจุ 988 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้าที่ 5,500 รอบ แรงบิด 173 นิวตันเมตร ที่ 2,000-4,500 รอบ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT รองรับเชื้อเพลิงอี 20 ซึ่งให้ความประหยัดถึง 23.8 กม./ลิตร

New Honda City 19

ระบบช่วงล่างหน้าเป็นแบบอิสระแมคเฟอร์สตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง หลังทอร์ชั่นบีม ส่วนระบบเบรคเป็นหน้าดิส หลังดรัม มาพร้อมถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ในรุ่นท๊อปและรองท๊อป ส่วนรุ่นเริ่มต้นมีถุงลมนิรภัย 4 จุด

New Honda City 21

 

ตัวช่วยด้านความปลอดภัยมีทั้งระบบเบรกเอบีเอส, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VSA, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist และสัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน

New Honda City 20

ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่
รุ่น RS ราคา 749,000 บาท
รุ่น SV ราคา 675,000 บาท
รุ่น S+ ราคา 599,000 บาท

มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น RS สีใหม่ สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) พร้อมด้วย สีขาวแพลทินัม (มุก) เฉพาะรุ่น RS และ SV สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาโซนิค (มุก) และสีขาวทาฟเฟต้า เฉพาะรุ่น S+

Honda City e:HEV เปิดโลกทัศน์ใหม่ในรถกลุ่มซิตี้คาร์รูปแบบ Full Hybrid

New Honda City 22

ก่อนอื่นถือเป็นการสื่อสารถึงเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ของฮอนด้า ทั้งรถจักรยานยนต์ รถยนต์ เครื่องยนต์อเนกประสงค์ และเทคโนโลยีในการจัดการพลังงานต่าง ๆ ภายใต้ ฮอนด้า อี:เทคโนโลยี (Honda e:TECHONOLOGY) สำหรับยนตรกรรมที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริดจะได้รับการสื่อสารภายใต้ชื่อ อี:เอชอีวี (e:HEV)

Honda City e:HEV มาในรูปแบบบอดี้ของรถ 4 ประตู ที่มีสัญลักษณ์บ่งบอกถึงการเป็นรถ Full Hybrid นั่นคือโลโก้สีฟ้าที่ดานหน้า พร้อมสัญลักษณ์ e:HEV ที่บริเวณฝากระโปรงท้าย ซึ่งสำหรับรถรุ่นนี้ได้นำอุปกรณ์พื้นฐานมาจากรุ่น RS

New Honda City 23

New Honda City 24

ห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะนั่งเป็นแบบหนังกลับดีไซน์สปอร์ตตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม เช่น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศตอนหลัง พร้อมช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง

New Honda City 25

New Honda City 26

มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้วที่แสดงและสั่งการระบบต่างๆของ Honda Sensing รวมถึงข้อมูลการใช้รถยนต์ต่างๆ โดยใช้สวิตช์ที่พวงมาลัย และยังมีระบบเปลี่ยนเกียร์แบบแพดเดิล ชิฟท์ ให้อีกต่างหาก

New Honda City 26

คอนโซลกลางมีระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Google Maps ทั้งยังมีระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) รวมถึงมีเบรคมือไฟฟ้าและ Auto Brake Hold

New Honda City 26

New Honda City 37

เทคโนโลยีชูโรงสำหรับ Honda City e:HEV มาจากการที่เป็นรถ Full Hybrid รุ่นแรกของเซกเมนต์ซิตี้คาร์ในประเทศไทย ที่มาระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid i-MMD ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน เป็นระบบ Full Hybrid

New Honda City 27

เมื่อรวมขุมพลังจะให้กำลังสูงสุดที่ 126 แรงม้า ที่ตอบสนองด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 3,000 รอบต่อนาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันถึง 27.8 กิโลเมตร/ลิตร และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 85 กรัม

และเทคโนโลยีที่หลายคนรอคอยนั่นคือ Honda Sensing ซึ่งประกอบด้วย
•ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)

New Honda City 28
•ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC)

New Honda City 30
•ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)

•ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)

New Honda City 31
•ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)

New Honda City 32

ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ รุ่น e:HEV RS ราคา 839,000 บาท มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีน้ำเงินออบซิเดียน (มุก) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) สีขาวแพลทินัม (มุก) สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก)
และสีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก)

New Honda City 36

เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อมการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

ทั้งนี้ยังมีโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ด้วยการขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร สูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) พร้อมด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance) อีกทั้งฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

สัมผัส New Honda City ใหม่ ทั้ง 2 รุ่น ณ ลานกิจกรรมชั้น G ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ตั้งแต่วันที่ 24 – 26 พฤศจิกายน 2563 หลังจากนั้นสามารถสัมผัส เดอะ ซิตี้ ซีรีส์ ใหม่ ทั้ง 2 รุ่น ได้ที่บูทฮอนด้า A14 ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 37 (Motor Expo 2020) ตั้งแต่วันที่ 2 – 13 ธันวาคม 2563 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี และสัมผัส ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 และพบกับฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2564 เป็นต้นไป

RELATED ARTICLES

Most Popular