Tuesday, October 15, 2024
HomeAuto Test(มีคลิปวีดีโอ) ลองกี่รอบก็ชอบเสมอ “Ford Ranger Wildtrak 3.0 V6” ใข้งานจริงช่วงล่างเนี๊ยบ ขับสนุก ส่วนทางลุย...ไม่ต้องพูดถึง

(มีคลิปวีดีโอ) ลองกี่รอบก็ชอบเสมอ “Ford Ranger Wildtrak 3.0 V6” ใข้งานจริงช่วงล่างเนี๊ยบ ขับสนุก ส่วนทางลุย…ไม่ต้องพูดถึง

ซ้ำอีกสักรอบก็ยังเป็นที่ประทับใจกับการได้ทดลองสมรรถนะของ Ford Ranger Wildtrak ขุมพลังดีเซล V6 ที่มาพร้อมความแรงระดับ 250 แรงม้า และแรงบิด 600 นิวตันเมตร ซึ่งเราได้เคยไปสัมผัสบนเส้นทางชัน ไต่ความสูงขึ้นยอดดอย กับระบบขับเคลื่อน 4×4 ใหม่ ในชื่อ 4A เมื่อก่อนหน้านี้ไม่นานนัก

ในครั้งนี้จะโฟกัสไปที่ทางเรียบ และระบบเกียร์ E-Shifter 10 จังหวะ รวมถึงฟังค์ชั่นการใช้งานของตัวช่วยการขับขี่อีกมากมาย ก่อนที่จะไปลองช่วงล่างบนทางลุยแบบเบาๆ ความคุ้มค่าของค่าตัว 1.519 ล้านบาท ที่ถือว่าค่อนข้างสูง แต่เมื่อสมรรถนะ และฟีเจอร์ต่างๆที่ติดตั้งมากับตัวรถ เยอะเยะล้นคันขนาดนี้ ใครที่เล็งอยู่คงไม่พลาดที่จะครอบครอง แต่ใครที่ยังลังเล ลองดูรายละเอียดอื่นๆที่กำลังนำเสนอ เพื่อประกอบการตัดสินใจได้เลย

Ford Ranger Wildtrak 3.0 ลิตร V6 เป็นรุ่นย่อยใหม่ล่าสุดในตระกุ, Ranger ที่พกพาสมรรถนะระดับ 300 แรงม้า จากขุมพลังดีเซลวี 6 สูบ ภายนอกสังเกตได้ง่ายๆจากล้อ 20 นิ้วลายใหม่ หุ้มยาง 255 55 20

Ford Ranger 2

ไฟส่องสว่างเป็นแบบ Matrix LED พร้อมระบบไฟแบบแบ่งโซน สามารถเลือกเปิด/ปิด มุมใดมุมหนุ่งของรถได้

ภายในมากับเบาะนั่งมีโลโก้พร้อมเดินด้ายคู่สีส้ม โดดเด่นด้วยจอกลางขนาด 12 นิ้ว พร้อมช่องต่อ USB 4 ช่อง

Ford Ranger 4

ไฮไลท์อยู่ที่เครื่องยนต์ดีเซลแบบ V6 สูบให้พละกำลัง 250 แรงม้าพร้อมแรงบิด 600 นิวตันเมตร เทอร์โบเดี่ยว ทำงานร่วมกับเกียร์ E Shifter 10 จังหวะ พร้อมเบรกมือไฟฟ้า ซึ่งผลิตและพัฒนาจากสหราชอาณาจักร บล๊อคเดียวกับที่มช้มน F 150

Ford Ranger 6

ระบบช่วงล่างหน้าแมคเฟอร์สัน สริมคอม้าอลูมิเนียม นน.เบาแต่แกร่ง ส่วนด้านหลังเป็นแบบแหนบแผ่นพร้อมโช๊คอัพ

นอกจากนี้ยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบฟูลไทม์ ปรับกำลังล้อหน้าหลังตามสถานการณ์ที่พบเจอ และถ้าอยู่ในโหมดขับสี่ จะมีกล้องมองภาพรอบคันแสดงให้เห็นภาพรอบๆตัวรถ รวมถึงมุมใต้ท้อวรถอีกด้วย

Ford Ranger 7

การทดสอบในครั้งนี้เป็นการใช้งานในรูแบบชิวิตประจำวันซึ่งใช้งานทางเรียบ จะมีในส่วนทางลุยเบาๆบ้างเล็กน้อย

Ford Ranger 7

ขุมพลังดีเซล V6 สูบเทอร์บขนาด 3.0 ลิตร กับพละกำลังที่เหลือเมื่อทำงานร่วมกับ E Shifter 10 จังหวะ ทำงานได้อย่างลงตัว ในช่วงเร่งแซง การปรับอัตราทดแบบก้าวกระโดด ตอบสนองต่อการใช้งานได้เป็นอย่าวงดี 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียง 8.7 วินาที ในขณะที่อัตราสิ้นเปลืองตามอีโค่สติ๊กเกอร์อยู่ที่ 11.8 กม./ลิตร

Ford Ranger 8

สะดวกสบายในทางลุย เพียงแค่ใช้งานระบบขับเคลื่อนในรู)แบบ 4A ไม่ว่าเส้นทางจะสาหัสเพียงใด ก็ฟันฝ่าไปได้สบาย ในการทดสอบครั้งนี้อาจจะไม่ได้ใช้งานบนทางลุยสักเท่าไหร่นัก เนื่องจากเคยนำไปลุยโหดเมื่อทริพตึความสูงบนยอดดอยที่จ.เชียงใหม่ ซึ่งสอบผ่านฉลุย

Ford Ranger 10

โดยสรูปของการทดสอบในครั้งนี้ Ford Ranger Wildtrak กับการติดตั้งขุมพลังใหม่แบบ 3.0 ลิตร วี 6 ในด้านสมรรถนะก็เป็นที่ประจักษ์ทั้งทางเรียบและทางลุย ซึ่งตัวช่วยการขับขี่มีให้เพียบ จะตกเป็นรอง Raptor ก็ในเรื่องของระบบช่วงล่าง แต่ที่ติดตั้งมากับตัวรถก็เพียงต่อการใช้งาน ยิ่งบนเส้นทางสมบุกสมบันก้มีตัวช่วยให้มาชนิดที่ว่าเหนือชั้นกว่าคู่แข่งในตลาด และถ้านำมาใช้ในชีวิตประจำวันก็สามารถใช้งานได้แบบสบายๆ

RELATED ARTICLES

Most Popular