เปิดงานเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ “Motor Show 2023” หรือ “บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44” แน่นอนว่างานนี้เป็นอีกหนึ่งงานที่คนรักรถและผู้ที่กำลังมองหารถใหม่จับตามอง และเป็นประจำที่เราจะนำรถไฮไลท์ และรถใหม่มาเปิดตัวในงานนี้มาเสริฟ์ให้ได้ทราบเป็นข้อมูลก่อนที่จะไปพบตัวจริง ในปีนี้ก็เหมือนเช่นเคยที่รถใหม่พาเหรดเข้าร่วมอย่างคับคั่ง แต่จะมีอะไรบ้าง รับชมได้จากรายงาน
Audi RS e-Tron GT
หลังจากประสบความสำเร็จจากการนำรถรุ่นนี้เข้ามาจำหน่ายเมื่อปีที่ผ่านมา ในปีนี้ Audi RS e-Tron GT Quarttro ถูกจำกัดจำนวนไว้ให้จำหน่ายในไทยเพียง 20 คัน ในราคาค่าตัว 10,190,000 บาท
RS e-tron GT quarttro โดดเด่นด้วยเส้นสายตัวรถที่มีความพริ้วไหว มากับดีไซน์ลู่ลม เร้าใจกับสมรรถนะซุปเปอร์คาร์ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลัง 646 แรงม้า ทำงานควบคู่กับ electric quattro มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพียง 3.3 วินาทีใน boost mode ทำความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความจุแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงลิเธียมไอออนขนาด 93.4 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ขับได้ระยะทางไกลกว่า 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และใช้เวลาเพียง 22.5 นาที ในการชาร์จพลังงานจากสถานี DC Fast Charge
ห้องโดยสารตกแต่งภายในด้วยลาย Matte Carbon Twill เบาะนั่งคู่หน้าแบบสปอร์ต พร้อมฟังก์ชั่นนวด จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบเบรกแบบ RS Ceramic brake ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษสำหรับรถที่มีสมรรถนะสูง พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดงสวยงามเคลือบทังสเตนคาร์ไบด์
BMW XM
เปิดตัวครั้งแรกกับ BMW XM เอสยูวีพลังปลั๊กอินไฮบริดส่งตรงจากแผนก M ที่สร้างสรรค์ออกมาให้มีความดุดัน และทรงพลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 8 สูบ ขนาด 4.4 ลิตร BMW M TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 489 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร เมื่อระบบทั้ง 2 ทำงานร่วมกัน ส่งผลทำให้มีสมรรถนะกำลังที่มากถึง 653 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.3 วินาที ขณะที่ความเร็วสูงสุดจะอยู่ที่ 270 กม./ชม.
แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนความจุขนาด 29.5 kWh ขับขี่โหมดไฟฟ้าทำความเร็วสูงสุดได้ 140 กม./ชม. และระยะทาง 98 กม. ทั้งยังได้รับการติดตั้งระบบเฟืองท้าย M Sport และ ช่วงล่าง Adaptive M Suspension Professional
และยังติดตั้งระบบปฏิบัติการณ์ BMW Operating System 8 ที่สั่งการด้วยเสียง และ BMW Curved Display แบบไร้รอยต่อ ทั้งจอแดชบอร์ดขนาด 12.3 นิ้ว ผสานกับ จอทัชสกรีนขนาด 14.9 นิ้วไว้ด้วยกัน ค่าตัวของ BMW XM ใหม่จะอยู่ที่ 14,899,000 บาท มาพร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard
BYD Dolphin EV
โชว์ตัวมาหลายงานก็ถึงเวลาเคาะราคาจำหน่าย สำหรับ BYD Dolphin EV แฮทแบคไฟฟ้าที่มากับความน่ารัก พร้อมอุปกรณ์ทั้นสมัยครบครัน
ตัวรถสร้างขึ้นจากแพลตฟอร์ม BYD e-platform 3.0 ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวแบบ permanent magnet synchronous motor มีความจุแบตเตอรี่ 44.9 kWh แรงสุด 95 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร ทำระยะทางไกลสุดได้ 410 กม./การชาร์จหนึ่งครั้ง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 12.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 150 กม./ชม.การชาร์จผ่านไฟ AC ภายใน 7.5 ชม. ส่วนการชาร์จผ่านไฟ DC ในรูปแบบ Fast Charging ใช้เวลาเพียง 30 นาที พร้อมฟังก์ชัน V2L และ One Pedal
BYD Dolphin เปิดรับจองด้วยราคาจำหน่ายที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ 799,999 บาท และพร้อมส่งมอบรถตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม มี 2 สี ได้แก่ Coastal Cream และ Flora Purple
Ford Ranger Stormtrak & Raptor 2.0 Diesel
Ford Ranger เจเนอเรชันใหม่ รุ่น Stormtrak เบียดขึ้นมาเป็นรองก็แต่ Raptor ซึ่งเหนือกว่า Wildtrak เพราะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย จากการอุปกรณ์มาตรฐานที่ได้รับการติดตั้งราวหลังคาและสปอร์ตบาร์แบบปรับได้ (Flexible Rack System) เป็นครั้งแรก สามารถปรับรูปแบบสปอร์ตบาร์ได้มากถึง 5 ตำแหน่งด้วยมือเดียว รองรับการติดตั้งหรือขนย้ายอุปกรณ์เพื่อการผจญภัยและการทำงานได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น พร้อมรองรับน้ำหนักสูงสุดถึง 80 กก. ขณะขับและ 250 กก. ขณะจอด
เปิดตัวในราคา 1,264,000 บาท สำหรับรุ่น 4×2 และราคา 1,399,000 บาท สำหรับรุ่น 4×4
Ford Ranger Raptor เจเนอเรชันใหม่ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่
หน้าตาเดียวกันทั้งไฟหน้าแบบเมทริก แอลอีดี ไฟท้ายแอลอีดี ภายในมีหน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดขนาด 12.4 นิ้ว หน้าจอควบคุมการสั่งงานแบบสัมผัสขนาด 12 นิ้ว แท่นชาร์จแบบไร้สาย และระบบเชื่อมต่อการสื่อสารผ่าน FordPass
แต่ความต่างที่มากับทางเลือกใหม่คือ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร พร้อมระบบเกียร์ไฟฟ้า (E-Shifter) และกล้องมองรอบคัน 360 องศา เบรกมือไฟฟ้า เทคโนโลยีช่วยการขับขี่ขั้นสูง เปิดตัวในราคา 1,769,000 บาท
GWM Tank 500
ถึงเวลาเปิดรับจองสิทธิกับเอสยูวีออฟโร๊ดไซส์บิ๊กขุมพลังไฮบริด GWM Tank 500 Hybrid SUV พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม TANK โมดูล่าร์ออฟโรดอัจฉริยะ มีความยืดหยุ่นสูง ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมสูงสุด 350 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 616 นิวตันเมตร ระบบเกียร์ 9HAT ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด พร้อมโหมดการขับขี่ถึง 11 รูปแบบ
ห้องโดยสารเป็นแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง มาพร้อมการออกแบบระดับพรีเมียม ตกแต่งห้องโดยสารด้วย Ambient Light, วัสดุสี Black, Silver, Piano Black, Chrome
เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเปิดให้มีการจองสิทธิ์เพื่อซื้อ All New GWM TANK 500 Hybrid SUV พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษก่อนการเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการภายใต้แพ็กเกจ Value Plus ซึ่งลูกค้าสามารถจองสิทธิ์ซื้อได้ในราคาเพียง 5,000 บาท จากมูลค่าสิทธิประโยชน์รวมสูงกว่า 60,000 บาท
All New Honda CR-V
เปิดตัวครั้งแรกในไทยกับ Honda CR-V เจเนอเรชั่นที่ 6 ยนตรกรรมพรีเมียมเอสยูวีขนาดใหญ่ มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม ห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย เบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง ปรับและพับได้หลากหลาย มั่นใจทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ติดตั้งในทุกรุ่นย่อย
ขุมพลังการขับเคลื่อนมี 2 ทางเลือก ระบบฟูลไฮบริด e:HEV ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนประสิทธิภาพสูง ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร มอบอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 20.8 กม./ลิตร* (รุ่น e:HEV ES)
และขุมพลังเทอร์โบ เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Direct Injection DOHC VTEC TURBO มอบกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) มีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 14.3 กม./ลิตร* (รุ่น E) และรองรับน้ำมัน E85 มีให้เลือกทั้งแบบระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (Real Time(TM) AWD with E-DPS)
มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย กับ 2 ขุมพลังทางเลือก ได้แก่ เครื่องยนต์เทอร์โบและระบบฟูลไฮบริด e:HEV ด้วยราคาเริ่มต้น 1,419,000 บาท
Hyundai Stragazer
บริษัทแม่จากเกาหลีใต้มาเต็ม และใช้โอกาสแจ้งเกิดกับรุ่น “Hyundai Stragazer” ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ความสบายไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารเป็นที่เติมเต็มความสุขร่วมกันภายในครอบครัวในทุกครั้งที่เดินทาง รูปลักษณ์ ภายนอกที่หรูหราที่มาพร้อมกับตัวถังที่แข็งแรงและปลอดภัย ด้วยมาตรฐานของเหล็กคุณภาพระดับโลก โดยรถรุ่นนี้ถูกประกอบในประเทศอินโดนีเซีย ภายใต้การควบคุมมาตรฐาน โดยฮุนได มอเตอร์ จากสาธารณรัฐเกาหลี
ห้องโดยสารเน้นการออกแบบที่คำนึงถึงความสบายและความปลอดภัยของทุกที่นั่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ดีไซน์กระจกขนาดใหญ่ ที่ให้ความรู้สึกโปร่ง สบาย จัดเต็มไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น โต๊ะพับหลังพนักพิงด้านหน้า ถาดเก็บของแบบซ่อนที่คอนโซลหน้า การปรับระดับเบาะโดยสารได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยการจัดวางเบาะที่นั่ง 3 แถว ซึ่งทุกแถวสามารถนั่งได้สบายไม่ว่าระยะทางใกล้หรือใกล้ และความพิเศษสุด มาในรุ่นท็อป (สมาร์ท 6) เป็นเบาะที่นั่ง 3 แถว 6 ที่นั่ง โดยเบาะแถวที่ 2 มาแบบ Captain Seat เจ้าแรกของมินิเอ็มพีวีในประเทศไทย
ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร พร้อมระบบเกียร์ IVT ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้า (PS) ที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 144 นิวตัน-เมตร ขับขี่สนุกได้ดั่งใจทั้ง eco mode และ sport mode พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง อาทิ ระบบเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน, ระบบป้องกันการเปิดประตูสไลด์เมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง ที่ช่วยสนับสนุนผู้ขับขี่ได้ทุกเส้นทางไม่ว่าในเมือง – หรือระยะทางไกล
โดย ฮุนได สตาร์เกเซอร์ จำหน่ายในราคา รุ่นเทรนด์ ราคา 769,000 บาท, สไตล์ ราคา 829,000 บาท, สมาร์ท 7 ราคา 869,000 บาท สมาร์ท 6 ราคา 889,000 บาท และรุ่นพิเศษ สมาร์ท 6 Black Roof ราคา 909,000 บาท
ISUZU New Mu-X Phantom Collection
เปิดรุ่นพิเศษ New Mu-X Phantom Collection มาพร้อมความหรูหรา และสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้วย 2 สีใหม่ ได้แก่ สีเทาใหม่ Islay Gray Opaque และสีขาวมุก Dolomite White Pearl พร้อมเสริมความสปอร์ตหรูอย่างลงตัว ด้วยพลังของเฉดสีเข้มที่ภายในห้องโดยสารโทนสีดำ ทั้งในส่วนเบาะที่นั่ง, แผงข้างประตู และคอนโซล
ขณะที่ภายนอกตัวรถนั้นเติมความเร้าใจด้วยชุดล้ออัลลอย Gloss Black สีดำ ขนาด 20 นิ้ว นอกจากนั้น Isuzu MU-X Phantom Collection ยังคงความสะดวกสบายยิ่งกว่าด้วยฝาท้าย Smart Tailgate เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ทำงานร่วมกับระบบ Step Sensor เพียงแค่เดินเข้าไปใกล้ประตูท้าย และถอยออกมา ประตูท้ายก็จะเปิดให้โดยอัตโนมัติ เต็มเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย ISUZU MATRIX SAFETY INTELLIGENCE ที่เหนือกว่าด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS แบบกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน
ขุมพลังยังคงมาพร้อมความประหยัด และแรงด้วยขุมพลัง เครื่องยนต์ 1.9 Ddi BLUE POWER ที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power ที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมด Rev Tronic กับราคา 1,506,000 – 1,663,000 บาท
Jeep Wrangler Rubicon
ไฮไลท์ของ Jeep ปีนี้เป็น Wrangler Rubicon 4 ประตู 2 รุ่นพิเศษ ที่มาพร้อมชุดแต่ง Mopar ลิขสิทธิ์แท้จากสหรัฐอเมริกา มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
Wrangler Rubicon 4 ประตู สี Hydro Blue แต่งดุสไตล์ Monster Edition ติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งระดับไฮเอ็นด์จากแบรนด์ Mopar อาทิ กันชนหน้าเหล็กกล้าออฟ-โรด แบบ 3 ชิ้น, สปอตไลท์กันชนหน้าออฟ-โรด แอลอีดี ขนาด 7 นิ้ว พร้อมโรลบาร์, รอกไฟฟ้า Jeep Performance Parts ออกแบบพิเศษสำหรับ แรงเลอร์ รูบิคอน, ท่ออากาศออฟ-โรด, ประตูผู้โดยสารแบบโรลบาร์ (Tube-Doors) พร้อมมือจับด้านบน, โช้กอัพ FOX ยกสูง 2 นิ้ว, ล้อแม็กขอบ 17 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ Extreme Recon XR Beadlock Capable Bronze, จับคู่กับยาง All-Terrain 35 นิ้ว, ป้ายสัญลักษณ์ Monster Edition และอื่นๆ รวมทั้งหมดกว่า 25 รายการ
ส่วน Wrangler Rubicon 4 ประตู สีเทา Sting Grey สไตล์ Urban Edition ติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งอย่างเหมาะสม อาทิ บันไดข้าง, ชุดกันลมขอบประตู, แร็คหลังคา, ถาดเก็บสัมภาระ, โต๊ะฝาท้าย (Tailgate Table), ที่ครอบล้ออะไหล่, ล้อแม็กขอบ 17 นิ้ว ดีไซน์ใหม่, ยาง Highway-terrain 32 นิ้ว, ป้ายสัญลักษณ์ Urban Edition เป็นต้น
KIA Canival LX
อีกหนึ่งแบรนด์เกาหลีภายใต้การทำตลาดของยนตรกิจ เกีย แนะนำ Kia Carnival LX (รุ่นมาตรฐาน) มาพร้อมการปรับฟีเจอร์ให้เหมาะสม ดีไซน์ภายนอกมาพร้อมกับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ไฟหน้าแบบ LED และ Daytime Running Right ผสานดีไซน์ภายในที่หรูหราและทันสมัยด้วยหน้าจอ Infotainment ขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบวิทยุที่สามารถเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนผ่าน Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย อีกทั้งยังมีห้องโดยสารภายในที่กว้างขวางด้วยที่นั่งจำนวน 11 ที่นั่งที่สามารถปรับพับเบาะได้หลากหลายรูปแบบ สะดวกสบายด้วยที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless Charger) พร้อมที่ชาร์จ USB รอบคันจำนวน 6 จุด
เครื่องยนต์สมาร์ทสตรีม ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 202 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ เบรกมือไฟฟ้าพร้อมด้วยระบบ Auto Brake Hold และโหมดการขับขี่ที่หลากหลายที่ช่วยเพิ่มความสนุกสนานและความสปอร์ตในการขับขี่
รุ่น LX (ใหม่): มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีขาว Snow Flake White และสีดำ Jet Black ราคา 1,892,000 บาท
New MG Maxus 9
MG เปิดตัว NEW MG MAXUS 9 รถยนต์ไฟฟ้า EV 100% ในรูปแบบรถ MPV 6-7 ที่นั่ง รูปลักษณ์จะมากับความหรูหราเน้นในเรื่องดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัย ชุดไฟหน้าแบบ LED ทั้งระบบ มาพร้อมไฟ DRL กันชนหน้าออกแบบให้มีขนาดใหญ่ ขนาบข้างด้วยชุดไฟส่องสว่าง ไฟท้าย LED แบบ Galaxy Halberd Fantasy ที่ดีไซน์เป็นแนวยาวรูปตัว Y ประตูหลังปิด-เปิดด้วยไฟฟ้า ส่วนประตูเข้าห้องโดยสารเปิดแบบบานสไลด์ไฟฟ้าทั้ง 2 ฝั่ง ห้องโดยสารจะเป็นแบบ 3 แถว มีให้เลือกทั้ง 6 – 7 ที่นั่ง
ขุมพลังมาจากมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 180 kW ให้กำลัง 245 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร มีโหมดการขับขี่ถึง 3 โหมดทั้ง Normal, Eco และ Sport มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 90 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งไกล 440 กม. ตามมาตราฐาน CATL พร้อมรองรับการชาร์จไฟแบบ AC ขนาด 11 kW จะใช้เวลาประมาณ 8.5 ชม. และระบบชาร์จไฟแบบ DC จะให้กำลังไฟจาก 30 – 80% ในเวลา 36 นาที ส่วนราคาจำหน่ายยังไม่เปิดเผยเป็นที่แน่ชัด
Mazda MC30
มาไทยครั้งแรกสำหรับยนตรกรรมไฟฟ้าจากค่ายมาสด้า กับ Mazda MC-30 พัฒนาภายใต้เทคโนโลยี Skyactiv ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 143 แรงม้า 265 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ 35.5 กิโลวัตต์ รองรับการชาร์จ DC ซึ่งตอบโจทย์การชาร์จอย่างรวดเร็วเพื่อประหยัดเวลา
ระยะเวลาในการชาร์จไฟประมาณ 30 นาที ระยะทางในการวิ่งใช้งานต่อการชาร์จหนึ่งครั้งไกล 240 กิโลเมตร ตัวเลขสมรรถนะ เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 9.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ห้องโดยสารที่โปร่งโล่ง สามารถสั่งงานด้วยระบบสัมผัสผ่านหน้าจอภาพขนาด 7 นิ้ว พวงมาลัยเป็นทรงสามก้านแบบสปอร์ต ส่วนเบาะนั่งปรับไฟฟ้าที่ใช้แบบครึ่งหนังครึ่งผ้าเพื่อเชื่อมโยงกับแนวทางในการทำตัวเป็นยานยนต์อนุรักษ์พลังงาน อย่างไรก็ตาม การมาในครั้งนี้เป็นเพียงแค่การโชว์ตัว
Maserati
เผยโฉม Maserati MC 20 Cielo) เวอร์ชั่นเปิดหลังคา ซูเปอร์คาร์รุ่นแรกของ มาเซราติ ที่สะกดทุกสายตา ด้วยความงามสง่าและสปอร์ต ประตูปีกนกอำนวยความสะดวกในการเข้า-ออกห้องโดยสาร โครงสร้างตัวถังผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ที่เบาแต่แข็งแกร่ง
ขุมพลังเบนซิน วี6 สูบ ทวินเทอร์โบ ให้กำลัง 630 แรงม้า แรงบิด 730 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สุดล้ำด้วยนวัตกรรมหลังคากระจกพับเก็บได้ ใช้เวลาเพียง 12 วินาที ความพิเศษอยู่ที่กระจก electrochromic (smart glass) ที่ใช้เทคโนโลยี Polymer-Dispersed Liquid Crystal (PDLC) สามารถปรับให้ใสหรือทึบแสงผ่านการกดปุ่ม ราคาจำหน่าย 21,500,000 บาท
Mercedes-AMG G 63
นอกจาก EQB 250 ยังมียักษ์ใหญ่บ้าพลังอย่าง Mercedes-AMG G 63 เอสยูวีขนาดใหญ่ ภายใต้แบรนด์ Mercedes-AMG โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ดุดันในสไตล์ G-Class พร้อมสมรรถนะที่ทรงพลังจากเครื่องยนต์เบนซิน V8 4.0 ลิตร 3,982 ซีซี Bi-Turbo ให้กำลังสูงสุด 585 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ติดตั้งเกียร์ AMG SPEEDSHIFT TCT อัตโนมัติแบบ 9 จังหวะ มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. เพียง 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม. พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AMG PERFORMANCE 4MATIC all-wheel drive
Mercedes-AMG G 63 ตั้งราคาจำหน่ายไว้ที่ 17,920,000 บาท
Mitsubishi XRT Concept
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จัดแสดง “มิตซูบิชิ เอ็กซ์อาร์ที คอนเซ็ปต์” รถต้นแบบของรถกระบะไทรทัน โมเดลใหม่ ดีไซน์ดุดันตั้งแต่หัวจรดท้าย เสริมอารมณ์แกร่งด้วยเส้นนำสายตาจากกระโปรงหน้าสู่ด้านข้างตัวถังในสไตล์แนวราบ พร้อมการตกแต่งเหนือซุ้มล้อหน้า-หลัง และติดตั้งยางลุยโคลน (mud-terrain)
ปราดเปรียวพร้อมพุ่งทะยานในทุกเส้นทางสุดหฤโหดของการแข่งขันแรลลี่ ตัวถังหุ้มด้วยลายพราง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “ลาวา” หินภูเขาไฟที่อัดแน่นด้วยพลังงาน อันทรงพลัง พร้อมด้วยกราฟฟิกเส้นขนานแนวเฉียง 10 เส้น ในแบบฉบับของโลโก้ แรลลี่อาร์ท ที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณที่ขับเคลื่อนไปข้างหน้าของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้อย่างโดดเด่น
ในปีนี้ ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้านเทคนิคจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้วางแผนที่จะลงแข่งขันในรายการเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 20234 ด้วยรถโปรโตไทพ์ครอสคันทรี ซึ่งเป็นไทรทัน รุ่นใหม่ (Group T1) โดยมีเป้าหมายมุ่งคว้าแชมป์ 2 สมัยติดต่อกัน โดยจะยังมี มร. ฮิโรชิ มาซูโอกะ เจ้าของตำแหน่งแชมป์ดาการ์ แรลลี่ 2 สมัยในปี 2002 และ 2003 ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการทีม ขณะที่วิศวกรของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส จะทำการทดสอบสมรรถนะก่อน
Nissan Terra Sport
Nissan ตกแต่งพิเศษให้กับ Nissan Terra Sport รถยนต์อเนกประสงค์ระดับพรีเมียมรุ่นใหม่ล่าสุด ด้วยรูปลักษณ์ภายนอก และภายในที่สปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น เพิ่มความเข้ม โดดเด่นด้วยชุดตกแต่งสไตล์สปอร์ตสีดำ สัญลักษณ์ Sport ด้านหลัง เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมเบาะที่นั่ง และการตกแต่งภายในโทนสีดำ
ขุมพลังดีเซล YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร และเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ให้การขับขี่นุ่มนวลแต่ทรงพลัง ประหยัดน้ำมัน ทั้งยังสามารถรองรับน้ำมันดีเซลได้ทุกชนิดทั้ง B7, B10 และ B20 ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ไปได้ทุกเส้นทาง สามารถเปลี่ยนโหมดขับเคลื่อนจากสองล้อ (2H) เป็นโหมดขับเคลื่อนสี่ล้อได้ง่ายดาย ระบบช่วงล่างด้านหลังแบบ 5 ลิงค์ (5-Link) ที่นุ่มนวล และลดความโคลงของ ตัวรถขณะเข้าโค้ง
ความสะดวกสบายมาพร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยครบครัน รวมถึงระบบความบันเทิงสุดพรีเมียมจาก Bose Premium Audio System ระบบเอนเตอร์เทนเม้นต์จากหน้าจอสัมผัส Display Audio ขนาด 9 นิ้ว ในตอนหน้า รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay แบบไร้สาย และรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Android Auto นอกจากนี้ยังมีช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์ และชาร์จไฟแบบ USB (Type A และ Type C) ถึง 5 จุด พร้อมเทคโนโลยีชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) บริเวณคอนโซลหน้า
นิสสัน เทอร์ร่า สปอร์ต ใหม่ ราคาจำหน่าย 1,555,000 บาท มาพร้อมสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเทา สเตลท์ เกรย์ สีขาว ไวท์ เพิร์ล**** และสีดำ แบล็ค สตาร์
Peugeot 408 PHEV
เปิดตัวรถใหม่กับ Peugeot 408 PHEV กับรูปลักษณ์สไตล์ฟาสแบ็ค (Fastback) ผสานห้องโดยสาร ‘Peugeot i-Cockpit’เจเนอเรชั่นล่าสุด ติดตั้งมาตรวัด 3 มิติ ขนาด 10 นิ้ว บริเวณด้านหน้าผู้ขับ ขณะที่กลางแดชบอร์ดติดตั้งทัชสกรีนอเนกประสงค์ ขนาด 10 นิ้ว เอียงเข้าหาผู้ขับเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด
ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังปลั๊ก-อินไฮบริด จากเครื่องเบนซินเทอร์โบ 1.6 ลิตร ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 225 แรงม้า (HP) แรงบิด 360 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 7.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 233 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ห้องโดยสารล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยี ‘Peugeot i-Cockpit’ เจเนอเรชั่นล่าสุด
Porsche 911 Carrera GTS-30 Years Porsche Thailand Edition
เผยโฉมในงาน ฉลองครบรอบ 30 ปี ปอร์เช่ ประเทศไทยซึ่งจัดขึ้นก่อนหน้างานเพียง 2 วัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกและคันเดียวในโลกสำหรับ 911 Carrera GTS-30 Years Porsche Thailand Edition โดยจะจัดจำหน่ายเพียง 30 คัน สปอร์ตไอคอนิครุ่นพิเศษนี้ถูกสรรสร้างขึ้นจากฝีมือการตกแต่งโดยผู้เชี่ยวชาญแผนก Porsche Exclusive Manufaktur โดดเด่นด้วยดีไซน์ชั้นเลิศของตัวถัง 7 สีพิเศษจาก Paint-to-Sample (PTS) ผสาน 7 สีในหนึ่งเดียว นอกจากนี้ยังได้รังสรรค์ตราสัญลักษณ์ “30 Years Porsche Thailand Edition”
ชิ้นงาน Hand Made ทั้ง กันชนหน้าดีไซน์สปอร์ต ช่องดักอากาศด้านหน้า ขอบกระจกประตู ชิ้นส่วนตัวถังด้านข้าง ชิ้นส่วนตัวถังด้านท้ายรถ และครอบกระจกมองข้าง ตกแต่งสีดำเงา gloss black ส่วนล้ออัลลอยด์ centre lock ลาย Turbo S ขนาด 20 และ 21 นิ้ว ซึ่งติดตั้งเป็นมาตรฐานในรุ่น Carrera GTS พ่นด้วยสี two-tone คาลิเปอร์เบรกสีดำ
อีกหนึ่งความพิเศษคือ สีธงไตรรงค์ของไทย สีแดง ขาว และน้ำเงิน ปรากฏบนฝากระโปรงท้าย ซี่กระจังห้าจุดบริเวณฝั่งขวา และตัวอักษรชื่อรุ่นดีไซน์มาตรฐานจะถูกแทนที่ด้วยตราสัญลักษณ์ ‘911’ รมดำเงาพิเศษ โดยรถสปอร์ตปอร์เช่รุ่นพิเศษคันนี้จะถูกนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ปอร์เช่ (Porsche Museum) ประเทศเยอรมัน
Subaru Impreza 22B Prodrive
ค่าตัว 55,000,000 บาท กับโมเดลรถยนต์ที่เป็นกระแสดังในยุค 90 อย่าง Subaru Impreza เมื่อได้ยินราคาถึงกับตาค้าง แต่ด้วยความเป็นแรร์ไอเท็ม และผลิตเพียง 25 คันทั่วโลก ก็ถือเป็นเหตุผลเพียงพอ
Subaru Impreza 22B Prodrive เพียงคันเดียวในเมืองไทย จากสายพานการผลิตแค่ 25 คันในโลก P25 แต่ละคันจะมีพื้นฐานมาจาก WRX รุ่น 2 ประตูแต่ ซึ่งแผงตัวถังทั้งหมดสร้างจากคาร์บอนไฟเบอร์ ใช้วัสดุคอมโพสิตสำหรับฝากระโปรงหน้า หลังคา ซุ้มล้อหน้าและหลัง กระจกมองข้าง สปอยเลอร์หลังและกันชนรอบคัน ซึ่งช่วยตัดน้ำหนักตัวรถให้เหลือเพียง 1,200 กก. เทียบกับ 1,245 กก. จาก 22B ส่วนการลดน้ำหนักอื่นๆ ได่แก่ การติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและเบาะนั่งแบบคาร์บอนไฟเบอร์ เฟืองท้ายแบบแอ็คทีฟ ชุดช่วงล่างจาก Bilstein แบบปรับได้และระบบเบรกจาก AP Racing
เครื่องยนต์ขนาด 2.5 รุ่นล่าสุดของ Subaru แต่ได้รับการออกแบบใหม่ ด้วยลูกสูบ ก้านสูบและชุดวาล์วใหม่ พร้อมเทอร์โบชาร์จจาก Garrett ท่อไอเสียไทเทเนียมจาก Akropovic ให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้าและแรงบิด 600 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ Sequential 6 จังหวะ อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาน้อยกว่า 3.5 วินาที
SUZUKI SWIFT GL NEXT
แต่งหน้าทาปากใหม่กับคอนเซ็ปต์ “NEXT to the edge ขับสนุกเต็มขั้น เร้าใจเกินพิกัด” ชุดแต่ง GL NEXT ดีไซน์ใหม่ ประกอบด้วย ชุดสเกิร์ตรอบคัน ชุดสติกเกอร์ลายใหม่ GL NEXT Sticker Set
ภายในการตกแต่งลายเคฟลาร์บริเวณคอนโซลและแผงประตูด้านข้าง มีจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เครื่องเล่นวิทยุที่สามารถรองรับการเล่นไฟล์ MP3, WMA พร้อมระบบเชื่อมต่อ Bluetooh และเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ทำให้คุณไม่พลาดทุกการติดต่อตลอดการเดินทาง โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่ 582,000 บาท
Toyota Prius PHEV
เผยโฉมครั้งแรกในไทยสุดเซอร์ไพรส์กับ Toyota Prius PHEV รุ่นใหม่ล่าสุดในรุ่น Z ไฟหน้าแบบ LED รูปตัว C พร้อมด้วยไฟ Daytime Running Light แบบ LED ชุดกรอบไฟหน้าโลโก้ Toyota หลังคาลาดเทมาก มีล้ออัลลอย 19 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 195/50R19
ห้องโดยสาร มีหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แผงมาตรวัดฟูลดิจิทัล TFT LCD ตำแหน่งเดียวกับ Head-Up Display ขนาด 7 นิ้ว พวงมาลัย 3 ก้านแบบมัลติฟังก์ชัน เบาะนั่งดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว
ขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตร เจนใหม่ล่าสุด ให้กำลัง 151 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 190 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 163 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดใหญ่ 13.6 อัตราเร่ง 0-100 ใน 6.7 และหากขับขี่ในโหมดไฟฟ้าจะวิ่งได้ไกลที่สุด 87-105 กม.
ถือเป็นไฮไลท์ยั่วตา ล่อใจไปก่อน บางกอกอินเตอร์เนขั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 44 จะจัดแสดงให้ได้เข้าชมตั้งแต่ 22 มี.ค.-2 เม.ย.นี้ ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ไปดูรถยนต์คันจริงได้ นอกจากนี้รายการส่งเสริมการขายที่เร้าใจ อาจทำให้คุณต้องยอมควักเงินให้กับยานพาหนะคันใหม่ของบ้านก็เป็นได้