ปรับลุคใหม่ เติมความทันสมัยและสปอร์ต ไปกับ Suzuki Swift GL Max Edition ที่จัดเต็มกับชุดแต่งแอโรพาร์ท รวมถึงทดลองสมรรถนะของโครงสร้างตัวถัง Heartect ทำงานร่วมกับขุมพลังเครื่องยนต์ที่มาพร้อมหัวฉีด Dual-Jet ขนาด 1.2 ลิตร 83 แรงม้า และระบบช่วงล่างซึ่งให้ความนุ่มนวลกับรูปแบบการทดสอบสไตล์จิมคาน่า ผลจะออกมาเป็นเช่นไร ติดตามได้เลย
ก่อนหน้านี้ในช่วงปี 2018 บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ก็ได้ปรับแต่งลุคส์ใหม่ให้กับ Suzuki Swift ไปแล้ว 1 ครั้ง แต่ในครั้งนี้ ถือเป็นการจัดเต็มให้กับชุดแต่งที่เพิ่มความสปอร์ตและดุดันยิ่งขึ้น
SWIFT GL MAX EDITION มาพร้อมชุดแต่งดีไซน์ใหม่ กับชุดสเกิร์ตรอบคันพร้อมด้วยสปอยเลอร์หลังที่เติมเต็มความสปอร์ตให้มากขึ้น
บนหลังคามีเสาอากาศครีบฉลาม ซุ้มล้อสีดำ ท่อไอเสียคู่เสริมความดุดันเร้าใจ บ่งบอกถึงความพิเศษและเป็นเอกลักษณ์ด้วย ชุดสติกเกอร์ Max Editition
ภายในไม่ได้รับการตกแต่งเพิ่มเติม พวงมาลัยเป็นแบบ D-Shape ชุดมาตรวัดเป็นแบบทรงกลม 2 ช่องล้อมกรอบด้วยสีเงิน ส่วนด้านระบบให้ความบันเทิงนั้นเป็นวิทยุที่ยังสามารถใส่แผ่นเล่น CD และ MP 3 ได้ แต่ก็ไม่ขาดในเรื่องของช่องเสียบ USB ส่วนระบบปรับอากาศเป็นแบบมือหมุน
เครื่องยนต์ยังคงเป็นบลอคเดิมรหัส K 12 M ขนาด 1,197 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้าที่ 6,000 รอบ และ แรงบิด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ ส่งเชื้อเพลิงผ่านเทคโนโลยีใหม่นั่นคือ Dual Jet หรือ หัวฉีดคู่ที่จะเพิ่มการเผาไหม้ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ส่งผลให้ประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่า 23 กม.ต่อลิตร (ตัวเลขเคลมจากโรงงานผู้ผลิต)
ในส่วนของระบบส่งกำลังผ่านเป็นแบบเกียร์แบบซีวีทีซึ่งมีการพัฒนาอัตราทดใหม่
ระบบช่วงล่างหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังเป็นทอร์ชั่นบีม ปรับเซ็ทมาค่อนข้างนุ่มนวล เมื่อทำงานร่วมกับโครงสร้างตัวถังแบบ Heartech ที่คอยช่วยซับแรงสั่นสะเทือน
การทดลองขับในรูปแบบจิมคาน่าถือว่าเหมาะเจาะกับรถคันนี้ โดยจัดงานขึ้นที่ มอเตอร์สปอร์ตปาร์ค สุวรรณภูมิ ด้วยสนามที่มีขนาดเล็กจึงถือว่าเป็นการทดสอบในรูปแบบสนามที่เหมาะสมกับรถรุ่นนี้ เพราะให้ความคล่องตัวสูงตามสไตล์รถแฮทแบค 5 ประตู
การควบคุมทำได้ดี พวงมาลัยค่อนข้างที่จะแม่นยำ รูปแบบของสนามถูกบังคับให้ได้มาซึ่งเส้นทางที่แคบ หากพลาด ชนกรวยล้ม ก็จะโดนหักคะแนน
รูปแบบเส้นทางที่มีทางตรงค่อนข้างสั้น พอได้ลองใช้คันเร่ง เครื่องยนต์หัวฉีดคู่แบบ Duel Jet ขนาด 1.2 ลิตร 83 แรงม้า อาจจะตอบสนองช้าไปนิด เหตุจากนิสัยของระบบเกียร์ซีวีทีที่โดดเด่นในด้านความนุ่มนวล
ช่วงล่างเป็นอีกประเด็นที่น่าสนใจ เพราะเมื่อทำงานร่วมกับโครงสร้างตัวถังแบบ Heartech จะให้ความรู้สึกถึงความนุ่มนวล แต่ก็ไม่ถึงกับโยนตัว
บทสรุปของการสัมผัสสมรรถนะ Suzuki Swift GL Max Edition ในรูปแบบของการแข่งขันจิมคาน่า โดยรวมในด้านการควบคุมรถนั้นทำได้ดี ระบบช่วงล่างและโครงสร้างตัวถังทำงานร่วมกันได่อย่างลงตัว ขับง่าย ขุมพลังอาจถูกดับซ่าส์ด้วยระบบเกียร์ซีวีที แต่โดดเด่นในด้านความประหยัด
ราคาค่าตัวเพียง 541,000 บาท และ โดยสีขาว Pure White Pearl จะเพิ่มอีก 5,000 บาทก็ไม่ได้แพงไปสำหรับรถอีโค่คาร์ที่ขับได้มั่นใจอย่างรถรุ่นนี้ ส่วนผลการแข่งขันจิมคาน่า…ไม่มีลุ้นครับ