Saturday, December 14, 2024
HomeAuto Newsเรเว่ ยกทัพ NEV บุคคลและพาณิชย์จากบีวายดี และรถหรูจากเดนซ่า ตอบโจทย์ตลาดทุกกลุ่ม พร้อมเปิดตัว BYD SEALION 7 และเผยโฉม BYD...

เรเว่ ยกทัพ NEV บุคคลและพาณิชย์จากบีวายดี และรถหรูจากเดนซ่า ตอบโจทย์ตลาดทุกกลุ่ม พร้อมเปิดตัว BYD SEALION 7 และเผยโฉม BYD SHARK 6 ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41

กลุ่มธุรกิจเรเว่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ จัดทัพรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและยานยนต์เชิงพาณิชย์สุดล้ำจากบีวายดี และยนตรกรรมระดับลักชัวรีจากเดนซ่า ร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 เดินหน้าเขย่าวงการส่งท้ายปีกับไฮไลต์สุดพิเศษมากมาย โดยในครั้งนี้ได้นำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่พร้อมราคาขายปลีกแนะนำดังนี้

  • BYD SEALION 7 รถยนต์ C-SUV Sport พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่น Premium ราคาขายปลีกแนะนำ 1,249,900 บาท และรุ่น AWD Performance ราคาขายปลีกแนะนำ 1,399,900 บาท และพิเศษสุดกับ Early Bird 2024 Motor Expo Campaign! สามารถเป็นเจ้าของ BYD SEALION 7 รุ่น Premium ได้ในราคา 1,149,900 บาท และรุ่น AWD Performance ในราคา 1,249,900 บาท
  • BYD ATTO 3 ผลิตในประเทศ รุ่น Dynamic ราคาขายปลีกแนะนำ 759,900 บาท และรุ่น Extended ราคาขายปลีกแนะนำ 899,900 บาท
  • BYD DOLPHIN รุ่น Standard Range ราคาขายปลีกแนะนำ 569,900 และรุ่น Extended Range ราคาขายปลีกแนะนำ 709,900 บาท
  • BYD SEAL รุ่น Dynamic ราคาขายปลีกแนะนำ 999,900 บาท, รุ่น Premium ราคาขายปลีกแนะนำ 1,099,900 บาท และรุ่น AWD Performance ราคาขายปลีกแนะนำ 1,199, 900 บาท
  • BYD SEALION 6 DM-i รุ่น Dynamic ราคาขายปลีกแนะนำ 969,900 บาท และรุ่น Premium ราคาขายปลีกแนะนำ 1,069,900 บาท
  • BYD M6 7 ที่นั่ง รุ่น Dynamic ราคาขายปลีกแนะนำ 799,900 บาท และรุ่น Extended ราคาขายปลีกแนะนำ 899,900 บาท

พร้อมทั้งเผยโฉม BYD SHARK 6 กระบะขุมพลัง Plug-in Hybrid อย่างเป็นทางการครั้งแรกในไทย ร่วมด้วยการจัดแสดงยานยนต์สมรรถนะเหนือชั้นรวมทั้งสิ้น 27 คัน ใน 3 บูธ ให้ชาวไทยได้สัมผัสความล้ำสมัยของนวัตกรรมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน พร้อมทั้งจัดเต็มข้อเสนอและของสมนาคุณสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับลูกค้าที่จองรถภายในงานระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567 เท่านั้น!

สำหรับบูธ “บีวายดี” จัดแสดงรถยนต์พลังงานใหม่ 7 รุ่น ประกอบด้วย BYD ATTO 3, BYD DOLPHIN, BYD SEAL, BYD M6, BYD SEALION 6, BYD SEALION 7 และ BYD SHARK 6 ขณะที่บูธ “เดนซ่า” นำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับลักชัวรี 3 รุ่น คือ DENZA D9, DENZA N7 และ DENZA Z9 GT ส่วนบูธ “เรเว่ คอมเมอร์เชียล วีฮิเคิลส์” นำยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ภายใต้แบรนด์บีวายดีมาอวดโฉม 4 รุ่น ได้แก่ BYD Q3B, BYD eMIXER, BYD T3 และ BYD eBUS

นายหลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขาย ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่มุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต บีวายดีมีความยินดีที่ได้ผนึกพลังอีกครั้งกับพันธมิตรระยะยาวอย่างเรเว่ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 ซึ่งเป็นโอกาสพิเศษยิ่งกว่าทุกครั้งที่ผ่านมากับการรังสรรค์พื้นที่จัดแสดงถึง 3 บูธ เพื่อนำเสนอยานยนต์พลังงานทางเลือกใหม่จากทั้ง
บีวายดี เดนซ่า และคอมเมอร์เชียล วีฮิเคิลส์ ให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ยลโฉมและพิจารณาเลือกซื้ออย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งฉายภาพระบบนิเวศยานยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ของเราที่ครอบคลุมทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและยานพาหนะเชิงพาณิชย์ให้เป็นที่ประจักษ์อีกด้วย”

นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวว่า “ปี 2567 เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญสำหรับกลุ่มธุรกิจเรเว่ที่ได้สานต่อวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ ‘NEW ENERGY FOR ALL’ ที่มุ่งขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ NEV Nation ผ่านการนำเสนอยานยนต์พลังงานใหม่หลากหลายรุ่นให้แก่ผู้บริโภค โดยมีบีวายดีเป็นแบรนด์เรือธงที่ยังคงทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องสวนทางตลาด การันตีด้วยอัตราการเติบโต 7% ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่แบรนด์เดนซ่าซึ่งเข้าสู่ตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนก็ได้สร้างปรากฏการณ์ด้วยการกวาดยอดจองโมเดลแรกคือ DENZA D9 ถึง 823 คันหลังเปิดตัวเพียง 3 วัน สะท้อนความต้องการของผู้บริโภคและตอกย้ำความเป็นผู้นำของเรเว่ในตลาดประเทศไทย เราเชื่อว่าการเปิดตัวและประกาศราคา BYD SEALION 7 รวมถึงการเผยโฉม BYD SHARK 6 ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 นี้ จะสร้างความคึกคักให้กับอุตสาหกรรมและมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปี”

นางสาวประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวว่า “ผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพในทั้ง 3 บูธของเราจะมอบความประทับใจให้กับผู้มาเยี่ยมชมทุกท่าน โดยนอกเหนือจากการนำเสนอยานยนต์คุณภาพภายใต้แบรนด์บีวายดีและเดนซ่า ให้กับผู้บริโภคชาวไทยตามแผนการขยายธุรกิจอย่างรอบด้านที่ได้เคยประกาศไว้ เรเว่จะยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์บริการทั้งด้านการขายและหลังการขายให้ดียิ่งขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับลูกค้า ควบคู่ไปกับการเพิ่มจำนวนโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อเติมเต็มความพร้อมให้กับระบบนิเวศและช่วยให้ผู้บริโภคชาวไทยรู้สึกมั่นใจที่จะพิจารณาเลือกใช้ยานยนต์พลังงานใหม่มากขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่อนาคตที่สะอาดและยั่งยืนสำหรับทุกคน”

 

สัมผัสยานยนต์พลังงานทางเลือกใหม่เพื่อโลกยั่งยืนที่บูธ “บีวายดี”

บูธ “บีวายดี” ภายใต้แนวคิด “Futuristic Green Mobility” โลกแห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จัดเต็มไฮไลต์สุดพิเศษในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 กับการเปิดตัว BYD SEALION 7 และการเผยโฉม BYD SHARK 6 อย่างเป็นทางการ

  • BYD SEALION 7 ที่สุดของประสบการณ์การขับขี่แบบสปอร์ตรักษ์โลก

BYD SEALION 7 สร้างนิยามใหม่ให้กับรถยนต์กลุ่ม C-SUV ด้วยการผสานดีไซน์สปอร์ตเข้ากับความหรูหราอย่างลงตัว โดดเด่นด้วยรูปทรงแบบ Fastback และฐานล้อต่ำให้ภาพลักษณ์โฉบเฉี่ยว มอบประสบการณ์เหนือชั้นด้วยระบบส่งกำลังอัจฉริยะ 8 in 1 พร้อมเทคโนโลยีการประกอบแบตเตอรี่แบบ Cell-to-Body และระบบห้องโดยสารอัจฉริยะ BYD Intelligent Cockpit

  • ดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมหาสมุทร

รูปโฉมภายนอกของ BYD SEALION 7 ได้รับแรงบันดาลใจจากความพลิ้วไหวของสายน้ำและมวลอากาศ โดยด้านหน้ารถโดดเด่นด้วยดีไซน์ “Ocean X” กับรูปทรงตัว “X” ที่สะท้อนถึงความล้ำสมัยและทรงพลัง ไฟหน้าดีไซน์ “Double U” อันเป็นเอกลักษณ์ เสา A-pillar ที่ลาดเอียงเชื่อมต่อกับหลังคาแบบ Fastback อย่างไร้รอยต่อ พร้อมสปอยเลอร์หลังที่ผสานเข้ากับตัวรถอย่างลงตัว ให้ความรู้สึกสปอร์ตแบบรถ SUV Coupe ฝากระโปรงท้ายรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูเสริมความดุดัน ไฟท้ายทรงหยดน้ำแบบไดนามิกวางตัวในแนวนอนช่วยเพิ่มมิติความกว้างให้กับตัวรถ พร้อมไฟเบรกดวงที่สาม และการตกแต่งด้วยโครเมียม เสริมความหรูหราด้วยรายละเอียดไฟ Dot-Matrix ภายในไฟหน้าและไฟท้ายให้ความสะดุดตาเมื่อส่องสว่างบนท้องถนน

  • หรูหรา สะดวกสบาย ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว

ภายในห้องโดยสารของ BYD SEALION 7 ตกแต่งด้วยวัสดุสัมผัสนุ่มระดับพรีเมียมกว่า 80% ไม่ว่าจะเป็นคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง และแผงประตู เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังแท้ Nappa ระบบกันเสียงรบกวนที่เหนือชั้นด้วยกระจกอะคูสติกสองชั้น พร้อมฟิล์ม PVB Resin ในกระจกบังลมหน้า พรมปูพื้นอะคูสติกแบบไร้รอยต่อ วัสดุฉนวนกันเสียงรอบคัน ซุ้มล้อบุวัสดุกันเสียง และฉนวนกันเสียงรอบมอเตอร์ ทั้งยังครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายมากมาย อาทิ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางและที่พักขาปรับไฟฟ้า 2 ทิศทาง พร้อมปรับดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่ง และ Welcome Seat เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะนั่งคู่หน้าพร้อมระบบระบายอากาศ กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมระบบไล่ฝ้า กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ระบบกรองอากาศ PM 2.5 ระดับ CN95 พร้อมระบบ IONIZER หน้าจอเรือนไมล์ผู้ขับขี่แบบ LCD 3 มิติ ขนาด 10.25 นิ้ว หน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดียขนาด 15.6 นิ้ว ระบบแสดงผลบนกระจกหน้า (W-HUD) ระบบเครื่องเสียง DYNAUDIO ลำโพง 12 ตำแหน่ง หลังคา Panoramic Glass Roof ช่วยลดความร้อนและกรองแสง UV กระจกบังลมหน้าและกระจกหน้าต่างด้านหน้าแบบเก็บเสียง กระจกส่วนตัวสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ไฟ Ambient Light ภายในห้องโดยสาร 128 สี ทั้งหมดนี้ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและผ่อนคลายภายในห้องโดยสาร

  • ทรงพลัง แต่ยังคงความนุ่มนวล

BYD SEALION 7 มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สมดุลทั้งความแม่นยำและความนุ่มนวลขณะขับขี่ มาพร้อมขุมพลัง Blade Battery ความจุ 82.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 390 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 690 นิวตัน-เมตร และระยะทางวิ่งสูงสุด 542กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบ Double Wishbone และด้านหลังแบบ Multi-link ทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนปรับอัตโนมัติตามความเร็วแบบ FSD (Frequency Selective Damping) ที่ปรับระดับความหนืดของโช้คอัพอัตโนมัติตามสภาพถนน

  • BYD SHARK 6 รถปิคอัพสมรรถนสูง พร้อมอวดโฉมแล้ววันนี้

BYD SHARK 6 ยกระดับรถกระบะแบบ Double Cab 5 ที่นั่งให้พร้อมรับมือทุกความท้าทาย ด้วยการผสานความสะดวกสบายเข้ากับความอเนกประสงค์ที่เหนือชั้น ตอบโจทย์ทุกการใช้งานทั้งการขับขี่ในชีวิตประจำวัน การบรรทุกสัมภาระ การลากจูง และการผจญภัยแบบออฟโรด

  • โครงสร้างแข็งแกร่ง ปลอดภัย ไม่เป็นรอง

โครงสร้างตัวถังของ BYD SHARK 6 ผลิตจากเหล็กความแข็งแก่รงสูงมากถึง 78% มอบความแข็งแกร่งและความทนทานที่เหนือกว่าพร้อมลดน้ำหนักตัวรถ ส่งผลให้มีเสถียรภาพการทรงตัวและการควบคุมรถที่ดียิ่งขึ้น มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ขนาดยาง 265/65 R18 ระบบช่วงล่างด้านหน้าและด้านหลัง แบบปีกนกคู่ท และดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความอากาศ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและมั่นคง

  • ห้องโดยสารที่ทั้งอัจฉริยะและสะดวกสบาย

ห้องโดยสารของ BYD SHARK 6 มาพร้อม หน้าจอเรือนไมล์ผู้ขับขี่แบบ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว หน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดียขนาด 15.6 นิ้ว และระบบแสดงผลบนกระจกหน้า (W-HUD) เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบพนักพิงดันหลัง 4 ทิศทาง กระจกหน้าต่างคู่หน้าแบบกันเสียงและกระจกส่วนตัวสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เพิ่มความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบาย จัดเต็มกับระบบเสียง DYNAUDIO ซึ่งเป็นระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม ลำโพง 12 ตำแหน่ง ให้ประสบการณ์เสียงที่สมบูรณ์แบบ

  • ขุมพลังเหนือชั้น รองรับการใช้งานได้หลากหลาย

BYD SHARK 6 สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม DM-O ที่ล้ำสมัย มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริดอันทรงพลัง เครื่องยนต์ 1.5L ทำงานร่วมกับระบบ EHS และมอเตอร์ไฟฟ้า 3 in 1 ที่ติดตั้งด้านหลัง ให้กำลังรวมสูงสุด 321 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวมสูงสุด 650 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใช้เวลาเพียง 5.7 วินาที และใช้ BYD Blade Battery ความปลอดภัยสูง ความจุแบตเตอรี 29.58 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าสูงสุด 100 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ พร้อมระบบกระจายแรงบิดแบบเรียลไทม์ มั่นใจได้ถึงการส่งกำลังที่เหมาะสมและการควบคุมที่แม่นยำในทุกสภาพถนน สามารถลากจูงได้สูงสุด 2,500 กิโลกรัม และรับน้ำหนักบรรทุกได้ถึง 790 กิโลกรัม ทั้งยังตอบโจทย์สายออฟโรดด้วยศักยภาพการปีนไต่ทางลาดชันได้สูงสุด 60% มุมปะทะ 31 องศา และลุยน้ำได้ลึกสูงสุด 700 มิลลิเมตร

 

ยลโฉมยนตรกรรมแห่งความหรูหราเหนือระดับที่บูธ “เดนซ่า”

บูธ “เดนซ่า” เสนอแนวคิด “Luxury Oasis” ที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ระดับไฮเอนด์และสุนทรียะแห่งความสง่างาม โดยจัดแสดงรถยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับลักชัวรี่ที่ถึง 3 รุ่น ได้่แก่

  • DENZA N7

รถครอสโอเวอร์ (Crossover) พลังงานไฟฟ้าดีไซน์ล้ำสมัย โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์แบบ Fastback Coupe พัฒนาบน e-Platform 3.0 พร้อมเทคโนโลยีอันก้าวล้ำ ทั้งระบบแบตเตอรี่แบบ CTB (cell-to-body) และระบบควบคุมแรงบิดอัจฉริยะ iTAC (Intelligence Torque Adaptation Control System) มาพร้อมดีไซน์หรูหรา กระจังหน้าแบบปิด ไฟหน้าดีไซน์แยกส่วน พร้อมไฟ DRL รูปแบบ Diamond Arrow และเซ็นเซอร์ LiDAR บริเวณกันชนหน้า ด้านข้างโดดเด่นด้วยมือจับประตูแบบซ่อนและเส้นโครเมียมรอบกรอบกระจก ยิ่งไปกว่านั้น N7 ยังรองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็วแบบ Dual-gun ที่สามารถชาร์จพร้อมกันสองพอร์ตด้วยเครื่องชาร์จเดียวด้วยกำลังไฟสูงสุดถึง 230 kW เพื่อการชาร์จที่รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยแบตเตอรี่มีความจุ 91.392 กิโลวัตต์ ให้ระยะทางการวิ่งที่ไกลสูงสุดถึง 702 ตามมาตรฐาน CLTC

  • DENZA Z9 GT

รถแฮทช์แบ็กทรงสปอร์ตระดับพรีเมียมและเป็นเรือธงรุ่นล่าสุดจากแบรนด์เดนซ่า โดดเด่นด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยว ดุดัน เน้นหลักอากาศพลศาสตร์ มีให้เลือกทั้งแบบรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% บนแพลตฟอร์ม Intelligent e3 platform มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ที่ขับเคลื่อนล้อหลังอิสระซ้ายและขวาที่สามารถปรับทิศทางของล้อหลังที่ช่วยให้การบังคับรถได้อิสระมากยิ่งขึ้น มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ  พร้อม Blade Battery 800V แบบปลั๊กอินไฮบริดที่ผสานพลังเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ พร้อมระยะทางวิ่งรวมสูงสุด 1,100 กม. ตามมาตรฐาน CLTC เสริมด้วยระบบช่วงล่างแพลตฟอร์ม DiSus-A ช่วงล่างถุงลมไฟฟ้าอัจฉริยระที่สามารถปรับระดับความนุ่มนวลและความสปอร์ตของช่วงล่างได้อย่างอิสระ อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบความสบายภายในห้องโดยสารและระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะอีกมากมาย อาทิ เช่น ระบบปรับเบาะให้รองรับสรีระเมื่อเข้าโค้ง ระบบตู้เย็นที่สามารถทำความเย็นจนถึง 0 องศา ภายใน 4.5 นาที AR-HUD หน้าจอสัมผัสมัลติมีเดียเฉพาะสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า ฯลฯ

  • DENZA D9

รถตู้อเนกประสงค์ (MPV) ที่มาพร้อมดีไซน์ซึ่งสะท้อนความโมเดิร์นและความหรูหรา เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงระบบความปลอดภัยและระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ มอบประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์และความมั่นใจให้กับทุกการเดินทาง มาพร้อมกับสมรรถนะอันเป็นเลิศจากมอเตอร์ไฟฟ้าทรงพลังที่ให้กำลังสูงสุดถึง 275 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจาก BYD Blade Battery ขนาด 103.36 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 580 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC โดยเรเว่ ออโตโมทีฟ ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ได้เปิดตัว DENZA D9 อย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมทั้งประกาศราคาจำหน่ายแนะนำสำหรับ 2 รุ่นย่อย ได้แก่ DENZA D9 Performance AWD ราคา 2,699,900 บาท และ DENZA D9 Premium ราคา 1,999,900 บาท ซึ่งเป็นราคาพิเศษเฉพาะผู้ที่จองตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 – 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เท่านั้น

 

ชมนวัตกรรมยานยนต์เพื่อการพาณิชย์และร่วมกิจกรรมพิเศษที่บูธ “เรเว่ คอมเมอร์เชียล วีฮิเคิลส์”

ครั้งแรกของเรเว่ คอมเมอร์เชียล วีฮิเคิลส์ ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ ที่มาร่วมจัดแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ โดยนำเสนอยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ 4 รุ่น ประกอบด้วย

  • BYD Q3B

รถหัวลากพลังงานไฟฟ้า 100% มาพร้อมเทอร์มินอลไฟฟ้าแทรคเตอร์สูงสุด 50,500 กก. GCW MAXให้ระยะทางสูงสุด 200 กม. ต่อหนึ่งรอบการชาร์จ แรงบิดสูงสุด 90 นิวตันเมตร และช่วงล่างกันสะเทือน

  • BYD eMIXER

รถผสมคอนกรีตไฟฟ้าที่มาพร้อมกับห้องโดยสารซึ่งสามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้าและไฮดรอลิก กระจกไฟฟ้าและเบาะคนขับสามารถปรับระดับได้ด้วยระบบไฮดรอลิก โช้คอัพ แผงหลังคาสามารถปรับได้ พวงมาลัยปรับระดับได้ ระบบกันสะเทือนและเหล็กกันโคลง ครบที่สุด สำหรับ BYD eMixer

  • BYD T3

รถตู้ไฟฟ้าสำหรับงานเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ ตอบโจทย์การขนส่งในเมืองด้วยดีไซน์ที่กะทัดรัด คล่องตัว รองรับน้ำหนักของสินค้าได้กว่า 799 กิโลกรัมบนพื้นที่ความจุ 3,800 ลิตร เสริมด้วยแผ่นรองพื้นอลูมิเนียมอัลลอย ที่มีลักษณะพื้นผิวกันลื่น เพื่อความทนทานและความปลอดภัย ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 100 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 180 นิวตัน-เมตร มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปราศจากมลพิษและเสียงรบกวน มาพร้อม Blade Battery ความจุ 44.9 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าสูงสุด 280 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTC

  • BYD eBUS

รถบัสไฟฟ้า 100% สำหรับการขนส่งสาธารณะ ภายในกว้างขวางรองรับผู้โดยสารได้ถึง 42 คน ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังสูงสุด 125 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 550 นิวตัน-เมตร ทำความเร็วได้สูงสุด 80 กม./ชม. และสามารถขึ้นทางลาดชันได้ถึง 25% มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอรอนฟอสเฟตขนาด 348 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทางมากกว่า 250 กม. ที่ความเร็วคงที่ 40 กม./ชม. และรองรับการชาร์จเร็วแบบ DC 100 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จเพียง 3-3.5 ชั่วโมง

กลุ่มธุรกิจเรเว่ ขอเชิญชวนผู้บริโภคร่วมชมและสัมผัสนวัตกรรมยานยนต์พลังงานทางเลือกใหม่เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 โดยผู้ที่จองรถบีวายดี เดนซ่า และยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ทุกรุ่น พบกับบีวายดีและเดนซ่าได้ที่บูธ A06 และเรเว่ คอมเมอร์เชียล วีฮิเคิลส์ ที่บูธ R03 อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567 เวลา 12.00 – 22.00 น. (วันธรรมดา) และ 11.00 – 22.00 น. (วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ)

RELATED ARTICLES

Most Popular