อีกครั้งกับการขับ Nissan Kick เข้าร่วมกิจกรรมบนเส้นทางชานกรุง ในครั้งนี้มีการปรับปรุงในส่วนของชุดแต่งภายใต้คอนเซ็ปต์ Sky Edition ซึ่งเป็นการเสริมหล่อที่ลงตัวและดุดันขึ้นกว่าเดิม และสำหรับระบบ E-Power ที่ถือเป็นไฮไลท์ของรถรุ่นนี้ ซึ่งจะได้ทำการพิสูจน์อีกครั้ง จะมีอัตราการสิ้นเปลืองที่ใช้งานบนเส้นทางชิวๆอยู่ที่เท่าไหร่ ติดตามได้จากรายงาน
Nissan kick ที่ใช้เป็นพาหนะ ทาง นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้มีการอัพเกรดเสริมความหล่อเข้าไปด้วยชุดแต่ง Sky Edition ได้แรงบันดาลใจมาจากท้องฟ้า และก้อนเมฆ เพิ่มความสปอร์ตด้วยสเกิร์ตสีดำ รอบคัน สปอยเลอร์หลังคาสีขาวพร้อมสติ๊กเกอร์ Sky Edition ล้ออัลลอยสีดำขนาด 17 นิ้ว
ภายในเพิ่มเติมเล็กน้อย ติดตั้งแป้นวางเท้าแบบสปอร์ต ซึ่งเข้ากันกับชุดพรมพร้อมผ้ายางปูพื้นที่มีโลโก้ “SKY EDITION” ทั้งหมดที่กล่าวไว้ มูลค่ารวม 25,000 บาท นอกจากชุดแต่งที่ว่า พื้นฐานของรถมาจากรุ่นท๊อพ VL
ไฮไลท์ของรถรุ่นนี้คือ เทคโนโลยี e-Power จากเครื่องยนต์ HR12DE ขนาด 1.2 ลิตร แถวเรียงแบบ DOHC (Double Overhead Camshaft) 12 วาล์ว 3 สูบ รับภาระในการสร้างพลังงาน ก่อนจะส่งไปยังเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (Inverter) ซึ่งคอยควบคุมพลังงาน ก่อนถูกส่งไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ EM57 ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตรที่ใช้ในการขับเคลื่อน หรือเข้าสู่แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) จำนวน 4 โมดูลที่เก็บไว้บริเวณใต้เบาะนั่งคู่หน้า และได้เคลมอัตราสิ้นเปลืองไว้ที่ 24 กม./ลิตร
ระบบช่วงล่างหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม ซึ่งทั้งหน้าและหลังมีการติดตั้งเหล็กกันโคลงมาให้เสร็จสรรพ จัดเต็มกับเทคโนโลยี Nissan Intelliegent Mobility ประกอบไปด้วย
เทคโนโลยีควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (Intelligent Cruise Control – ICC)
เทคโนโลยีเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW)
เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking – IEB)
เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW)
เทคโนโลยีเตือนรถในทางสวนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert – RCTA
เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM)
เทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection – MOD)
เทคโนโลยีอัจฉริยะที่จะช่วยให้ผู้ขับมองเห็นพื้นที่ข้างรถได้รอบทิศทางผ่านกล้อง 4 จุด รอบคัน
เทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ (Intelligent Rear View Mirror – IRVM)
เทคโนโลยีช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA)
เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamic Control – VDC)
เทคโนโลยีช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ (Intelligent Ride Control – IRC)
เทคโนโลยีช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง (Intelligent Trace Control – ITC)
คาราวานเริ่มด้วยการขับจากย่านสาทรโดยใช้ One-Pedal แป้นคันเร่งที่ชะลอและเบรกด้วยแป้นคันเร่งเพียงแป้นเดียว เหมาะสำหรับสภาพการจราจรที่ติดขัด ซึ่งช่วยลดการเคลื่อนไหวของเท้าลงถึง 70% เพราะไม่ต้องคอยเหยียบเบรกและออกสตาร์ทใหม่ ต่อที่ทางพิเศษฉลองรัช ตัดเข้าทางด่วนวงแหวนรอบนอกมอเตอร์เวย์บางปะอิน แล้วจึงออกลำลูกกา จ.ปทุมธานี ระยะทางรวมกว่า 100 กิโลเมตรทั้งในเมืองและชานเมือง
ความสะดวกสบายที่มาพร้อมกับความปลอดภัยมีมาให้ล้นหลาม และใช้งานค่อนข้างง่าย แสดงการทำงานผ่านหน้าจอ TFT Digital Meter ขนาด 7 นิ้ว รวมถึงข้อมูลการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง มาตรวัดอุณหภูมิภายนอก มาตรวัดความเร็ว
ในขณะที่กล้องมองภาพและระบบ RCTA จะแสดงการทำงานผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ซึ่งมีหน้าที่ในการทำงานของภาคบันเทิง รวมถึงแผนที่นำทางผ่านดาวเทียม และสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
การใช้งานยังคงให้ความสนุกตลอดการขับขี่จากคันเร่งอัจฉริยะ วัน-เพดัล (One-Pedal) ผู้ขับขี่สามารถ เร่ง ลดความเร็ว และหยุดรถเพียงการใช้แป้นคันเร่งเดียวเท่านั้น รวมถึงโหมดการขับขี่อีก 4 รุปแบบคือ Normal mode, S (Smart) mode, ECO mode และ EV mode
รักดอก ลาลากูน เป็นจุดหมายปลายทางที่ตระการตาไปด้วยดอกไม้นานาพรรณ (Floral Destination) แลนมาร์คชานเมืองแห่งใหม่ที่ใช้เวลาขับรถเพียง 1 ชั่วโมงจากใจกลางเมือง
ด้วยความที่โลเคชั่นติดทะเลสาบ ร้านอาหารและร้านค้าต่าง ๆ พร้อมกับมีพื้นที่จัดแสดงดอกไม้กลางแจ้งจึงเกิดขึ้นพร้อมกิจกรรมทางน้ำ ไม่ว่าจะเป็นบอร์ดยืนพาย (SUP) หรือพายเรือคายัค จึงใช้เป็นกิจกรรมผ่อนคลาย
ก่อนปิดท้ายด้วยการกลับสู่อาคารที่สูงที่สุดในกรุงเทพมหานคร เพื่อชมพระอาทิตลับขอบฟ้าแบบเสียวๆบนความสูงกว่า 300 ม.ของยอดตึก King Power Mahanakorn ให้เข้ากับความเป็น Nissan Kick Sky Edition
สำหรับทริพขับชืิวชานเมือง อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ประมาณ 16 กม./ลิตร พร้อมกับความสนุกจาการใช้งาน One-Pedel ซึ่งพอคุ้นชิน แป้นเบรคข้างๆแทบจะไม่ได้ใช้งาน เพราะระบบจะหน่วงจนสามารถจอดได้หยุดนิ่ง ซึ่งยังเป็นการช่วยเพิ่มกำลังสะสมกลับไปยังแบตเตอรีได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย