มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงข่าวเปิดบูทโตโยต้า ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 (The 43rd Bangkok International Motor Show) นำเสนอวิสัยทัศน์ในโอกาสดำเนินธุรกิจเข้าสู่ปีที่ 60 ในประเทศไทย มุ่งสู่การเป็น “ผู้นำการขับเคลื่อนยุคใหม่ เพื่อเสริมสร้างความสุขของผู้คน และความยั่งยืนของสังคม” นำเสนอรถยนต์รุ่นล่าสุดหลากหลายรุ่น นำโดยรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ Toyota bZ4X ที่จัดแสดงในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ “รถยนต์ลดการปล่อยคาร์บอน” ร่วมกับจุดยืนในการสร้างสังคมความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) เพื่อ “การขับเคลื่อนสำหรับทุกคน” ได้อย่างอิสระเสรี (Mobility for All) และยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ ขับเคลื่อนอัตโนมัติ Toyota e-Pallete พร้อมด้วยการจัดแสดงยนตรกรรมโตโยต้าครบครันทุกรุ่น
พร้อมสัมผัสกับประสบการณ์การซื้อรูปแบบใหม่ (New Buying Experience) และประสบการณ์การใช้งานรูปแบบใหม่ (New Usage Experience) กับข้อเสนอสุดพิเศษ สำหรับลูกค้าที่จองซื้อรถโตโยต้าทุกรุ่นภายในงานหรือที่ผู้แทนจำหน่ายฯ ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2565 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เข้าร่วมจัดแสดงรถยนต์รุ่นล่าสุด ภายใต้แนวคิด โตโยต้าผู้นำยานยนต์ ร่วมขับเคลื่อนอนาคตเพื่อโลกยั่งยืน’ (Drive to the future together with Toyota, Leader of xEV) จัดแสดงรถยนต์หลากหลายรุ่นใน 2 โซนหลัก คือ GR Zone รถยนต์ที่โดดเด่นในด้านสมรรถนะ ซึ่งได้รับการออกแบบจากแรงบันดาลใจ และ DNA ของทีมแข่งระดับโลกอย่าง Toyota Gazoo Racing ภายใต้แนวคิด “จากสนามแข่ง สู่ท้องถนน” (From Circuit to Road) และ Modellista Zone รถยนต์ที่ได้รับการออกแบบจากประเทศญี่ปุ่น ภายใต้แนวคิด Premium Tokyo Iconic กับเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยความพรีเมียม โดดเด่นไม่เหมือนใคร รวมถึงข้อเสนอที่ดีที่สุด ที่โตโยต้าตั้งใจมอบให้กับลูกค้าที่จองรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่นภายในงาน หรือที่ผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ พร้อมยกระดับการครอบครองรถยนต์โตโยต้าผ่านประสบการณ์การซื้อรูปแบบใหม่ “New Buying Experience” และประสบการณ์การใช้งานรูปแบบใหม่ “New Usage Experience” ที่สะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม
เชิญสัมผัสยนตรกรรมแห่งอนาคต
- รถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ Toyota bZ4X
รถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ Toyota bZ4X คือ รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ ประเภท SUV ขนาดกลาง และเป็นหนึ่งในยนตรกรรมแห่งอนาคตใหม่ล่าสุด เป็นรุ่นแรกในซีรีส์ bZ จากโตโยต้า ทั้งนี้ Toyota แบรนด์ bZ จะเป็นยนตรกรรมไฟฟ้า แบรนด์ใหม่ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นภายใต้ซีรีส์ที่มีชื่อว่า bZ โดยรถรุ่นนี้ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ทนทาน ความจุ 71.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง และมีเป้าหมายระยะทางวิ่งสูงสุด ที่ประมาณ 500 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐานระดับโลก WLTP (Worldwide Harmonised Light Vehicles Test Procedure)
Toyota bZ มาจากคำว่า “Toyota Beyond Zero” ซีรีส์รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ล่าสุด ที่พัฒนาภายใต้แนวคิดให้เป็นยนตรกรรมไม่ใช่เป็นเพียงแค่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ช่วยลดปริมาณมลพิษ แต่จะเป็นยนตรกรรมที่จะนำเสนอการขับเคลื่อนแห่งความสุข ที่มีคุณค่าเหนือความคาดหมายให้กับลูกค้าผู้ที่เลือกเป็นเจ้าของ พร้อมที่จะรักและมีความสุขกับการขับขี่ กับคอนเซปต์ของยนตรกรรมนี้ให้เป็น “ศูนย์รวมกิจกรรมแห่งความสุข (Activity Hub)” สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงสังคมและผู้คนรอบตัว ในหลากหลายด้าน
“bZ” หรือ Beyond zero ได้รับการพัฒนาภายใต้เป้าหมายที่จะสร้างคุณค่าแห่งประสบการณ์ดังต่อไปนี้
- คุณและผู้คนรอบข้าง (You & Others) นอกจากห้องโดยสารที่สะดวกสบายแล้ว Toyota bZ ยังนำเสนอไลฟ์สไตล์ใหม่และสามารถสร้างโอกาสในการใช้เวลาอันมีค่ากับครอบครัวและเพื่อนของคุณ
- คุณและรถของคุณ (You & Your Car) มอบความสุขและประสบการณ์ในการขับขี่และความตื่นเต้น อย่างเหนือความคาดหมาย
- คุณและสิ่งแวดล้อม (You & the Environment) ไม่เพียงแต่ลดการปล่อยก๊าซ CO2 และมลพิษอื่นๆ เท่านั้น แต่ยังมุ่งหวังที่จะมีส่วนร่วมในเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
- คุณและสังคม (You & Society) มุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมแห่งความปลอดภัย ที่ทุกคนและสังคมจะมีความอุ่นใจกับยนตรกรรมแห่งอนาคตรุ่นนี้
- รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ขับเคลื่อนแบบไร้คนขับ Toyota e-palette
รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ขับเคลื่อนแบบไร้คนขับ Toyota e-palette มีการการแนะนำครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2561 ในประเทศญี่ปุ่น เป็นรถยนต์คันแรกของโตโยต้าที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะสำหรับแอปพลิเคชันการขับเคลื่อนอัตโนมัติในรูปแบบบริการ Autono-MaaS ที่มาจากคำว่า “Autonomous” และ “Mobility as a Service” สื่อถึงบริการขับเคลื่อนอัตโนมัติไร้คนขับของยานยนต์โตโยต้า สะท้อนถึงการเข้าสู่การเป็นองค์กรด้านการขับเคลื่อน (Mobility) ผสานการใช้ไฟฟ้า เครือข่ายที่เชื่อมต่อ และเทคโนโลยีการขับขี่ขั้นสูง เพื่อรองรับธุรกิจการขับเคลื่อนที่ใช้ร่วมกันและรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ
โดย Toyota e-Palette ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด
– ออกแบบเพื่อการเคลื่อนย้ายที่สะดวกสบาย การออกแบบเน้นความสมมาตรด้านหน้า และด้านหลัง โดดเด่นด้วยรูปทรงลูกบาศก์ และล้อที่มุมทั้งสี่ ตัวรถมีพื้นที่ภายในที่กว้างขวางและสะดวกสบาย คล่องตัว
– ผู้โดยสารเข้า-ออกได้ง่าย สะดวกสบายและรวดเร็ว กับประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทางลาดไฟฟ้า และระบบควบคุมรถให้หยุดที่จุดขึ้นและลงที่กำหนดสำหรับผู้โดยสาร รวมถึงผู้พิการที่ใช้รถเข็น ด้วยระยะฐานล้อที่ยาวและพื้นราบ
การขับขี่อัตโนมัติด้วยความเร็วต่ำที่เน้นความปลอดภัย Toyota e-Palette มาพร้อมระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ออกแบบพิเศษ รวมถึงฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงาน และเซ็นเซอร์ขั้นสูง เช่น กล้อง และ LiDAR เมื่อรวมกับแผนที่แบบ 3 มิติ ที่มีความแม่นยำสูงและระบบการจัดการที่ดีเยี่ยม ทำให้ Toyota e-Palette มีการขับขี่อัตโนมัติด้วยความเร็วต่ำ ที่ระดับมาตรฐานของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ SAE (Society of Automotive Engineering หรือ สมาคมวิศวกรยานยนต์) ระดับ 4
พร้อมเลือกเป็นเจ้าของรถยนต์โตโยต้าที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์
- ALL NEW TOYOTA VELOZ
ALL NEW TOYOTA VELOZ ยนตรกรรมอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง สไตล์ Premium Crossover ที่มาพร้อมดีไซน์ล้ำสมัย ห้องโดยสารกว้างขวางเทียบเท่ารถระดับ C-segment พื้นที่กว้างขวาง สะดวกสบาย เบาะที่นั่งโดยสารสามารถปรับได้หลากหลายถึง 7 แบบ เพิ่มอรรถประโยชน์ใช้สอยด้วยแผงหน้าปัด TFT ปรับได้ 4 รูปแบบ หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว พร้อมที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless charger) ช่องเสียบ USB 4 จุด และที่วางแก้วน้ำมากถึง 15 จุด เพียบพร้อมด้วยระบบมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดด้วย Toyota Safety Sense สมรรถนะการขับขี่เหนือกว่าด้วยแพลตฟอร์มขับเคลื่อนล้อหน้าใหม่ ให้การขับขี่ที่มั่นคง และเครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-i 1.5 ลิตร 106 แรงม้า ประสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยม ตอบสนองนุ่มนวลประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุดถึง 17.9 กิโลเมตร/ ลิตร
เลือกเป็นเจ้าของ “ALL NEW TOYOTA VELOZ” ได้ 2 รุ่น 4 สี
– ใหม่ สีเงิน Purplish Silver Mica Metallic – สีแดง Dark Red Mica Metallic
– สีขาวมุก Platinum White Pearl* – สีดำ Black Metallic
*สำหรับสีพิเศษ Platinum White Pearl เพิ่ม 7,000 บาท
ในราคาคุ้มค่าต่อการเป็นเจ้าของ
- Premium ราคา 875,000 บาท**
- Smart ราคา 795,000 บาท**
**ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงานเท่านั้น
เป็นเจ้าของ ALL NEW TOYOTA VELOZ วันนี้!
- ดาวน์ 15% พร้อมดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% นาน 60 เดือน
พร้อมแพ็กเกจขยายการรับประกัน 5 ปี หรือ 150,000 กม. พร้อมฟรีค่าแรงเช็กระยะถึง 100,000 กม. รวมมูลค่าทั้งสิ้นมากกว่า 51,800บาท หมายเหตุ: เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
หรือ
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 ดาวน์ 25% พร้อมดอกเบี้ยพิเศษ 1.75% นาน 48 เดือน
พร้อมแพ็กเกจขยายการรับประกัน 5 ปี หรือ 150,000 กม. พร้อมฟรีค่าแรงเช็กระยะถึง 100,000 กม. รวมมูลค่าทั้งสิ้นมากกว่า 57,000บาท หมายเหตุ: เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
- C-HR HEV GR Sport
C-HR HEV GR Sport ใหม่ น้องใหม่ล่าสุดใน GR Series รถยนต์ Sub-Compact SUV รุ่นยอดนิยม ที่มาเสริมทัพ GR Series กับรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด ขนาด 1.8 ลิตร สีภายนอกภายใต้แนวคิด GR Sport ดีไซน์ภายนอกแบบสปอร์ตกับแพ็กเกจชุด GR Sport ประกอบด้วย สเกิร์ตรอบคัน, ชุดตกแต่งกันชนหน้า, ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่, ไฟตัดหมอกแบบ LED, พร้อมสัญลักษณ์ GR ที่กันชนหน้า และ GR Sport บริเวณท้ายรถ ภายในตกแต่งด้วยสีดำ Total Look และสี Gun Metallic สปอร์ตเข้มเต็มสไตล์ GR เบาะนั่งดีไซน์พิเศษ เดินด้ายสีเทา พร้อมสัญลักษณ์ GR , พวงมาลัยหุ้มหนังแบบเจาะรูพร้อมสัญลักษณ์ GR, ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ Push Start พร้อมสัญลักษณ์ GR
ช่วงล่างปรับจูนใหม่แบบสปอร์ต Upgrade คอยล์สปริง และช็อคแอบซอร์บเบอร์ เพื่อสมรรถนะในการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ เพิ่มอรรถรสในการขับแบบสปอร์ตผสานความสนุกสนานในการขับขี่ จากสถาปัตยกรรมยานยนต์ TNGA ที่แข็งแกร่ง จุดศูนย์ถ่วงต่ำ และช่วงล่างด้านหลัง Double Wishbone โดย “C-HR HEV GR Sport ใหม่” จะมอบประสบการณ์ Fun-to-drive อีกแบบ ที่เร้าใจยากเกินต้านทาน ทั้งมอบความมั่นใจสูงสุดกับระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense
เลือกเป็นเจ้าของ C-HR GR Sport ใหม่ที่โดดเด่นด้วย 3 สี
- สีดำ Attitude Black Mica / Silver roof (หลังคาสีเงิน)
- สีขาวมุก Platinum White Pearl * / Black roof (หลังคาสีดำ)
- สีแดง Premium Red / Black roof (หลังคาสีดำ)
*สำหรับสีพิเศษ Platinum White Pearl เพิ่ม 7,000 บาท
ในราคาพิเศษสุดคุ้มเหนือสมรรถนะ
- ใหม่ HEV GR Sport ราคา 1,189,000 บาท***
- HEV Premium Safety** ราคา 1,139,000 บาท***
พร้อมรับเงื่อนไขพิเศษในการซื้อ
- ดอกเบี้ยต่ำ 0.99% และรับฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care
พร้อมแพ็กเกจการรับประกันรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดในรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด ที่ครอบคลุมทั้งแบตเตอรี่และระบบไฮบริด กับการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี พร้อมข้อเสนอพิเศษ กับแพ็กเกจขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถใหม่ รวมมูลค่าทั้งสิ้นมากกว่า 97,500บาท
**รุ่นHEV Premium Safety มี 5 สี ได้แก่ หมายเหตุ: เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
- The Silver roof (หลังคาสีเงิน): สีดำ Attitude Black Mica / Silver roof และสีน้ำเงิน Nebula Blue / Silver roof
- The Black roof (หลังคาสีดำ): สีขาวมุก Platinum White Pearl * / Black roof, สีแดง Premium Red / Black roof และสีเงิน Metal Stream Metallic / Black roof *สำหรับสีพิเศษ Platinum White Pearl เพิ่ม 7,000 บาท
***ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมราคาชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ
- โตโยต้า “SIENTA รุ่นปรับปรุงใหม่” “Chic Clicks”
โตโยต้า “SIENTA รุ่นปรับปรุงใหม่” “Chic Clicks” ปรับปรุงใหม่ภายใต้แนวคิด “คลิก ให้ชีวิตสุดชิค” ให้มีความทันสมัย (Chic) และง่ายต่อการใช้งาน แค่เพียงสัมผัส (Click) ดีไซน์ภายนอกมีเอกลักษณ์ โดดเด่นสะดุดตา
ใหม่ การตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยเบาะหนังและวัสดุกึ่งสังเคราะห์ (สีดำ-เทา)* ดีไซน์สปอร์ต ทั้งตอบรับไลฟ์สไตล์ได้ดีกว่าเคยด้วยการปรับปรุงอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น เครื่องเล่นวิทยุหน้าจอสัมผัสที่สามารถรองรับการใช้งาน Apple CarPlay และ Android Auto มอบความมั่นใจยิ่งกว่า ด้วย กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา* แบบ HD ให้ภาพคมชัด มอบทัศนวิสัย และความมั่นใจดีเยี่ยม, และกล้องบันทึกภาพหน้าและหลังรถ* สามารถเข้าใช้งานผ่าน Mobile Application Toyota DVR ใหม่ (*สำหรับรุ่น 1.5V)
เลือกเป็นเจ้าของ SIENTA รุ่นปรับปรุงใหม่ 4 สี
– Citrus Mica Metallic – Silver Metallic
– Super White II – Attitude Black Mica
และ 2 เกรด ในราคาสุดคุ้ม
- 5 V เกียร์อัตโนมัติ ราคา 889,000 บาท**
- 5 G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 775,000 บาท**
**ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมราคาชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ
- ไฮลักซ์ รีโว่ และ ไฮลักซ์ รีโว่ GR Sport
ไฮลักซ์ รีโว่ GR Sport ขับเคลื่อน 4 ล้อ รถกระบะยกสูงรุ่นท็อป Premium Adventure ที่ได้รับแรงบันดาล
ใจในการพัฒนาจากรถแข่งระดับโลก ที่เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ World Rally Championship (WRC) เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มองหารถกระบะดีไซน์สปอร์ต ดุดัน ทันสมัย ทั้งการออกแบบภายนอก ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า สปอร์ตบาร์ ล้ออัลลอย มาพร้อมกับโช้คอัพแบบโมโนทูบ (Monotube Shock Absorber) เพิ่มประสิทธิภาพให้สมรรถนะการขับขี่ขั้นสูง ขับสนุกเร้าใจ สามารถขับลุยได้ทุกที่
ไฮลักซ์ รีโว่…พลังแกร่งเหนือนิยาม แข็งแกร่งในทุกมิติด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ GD Super Power ที่ให้กำลังเครื่องยนต์แรงสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ให้สมรรถนะที่แรง ดุดัน และเร้าใจ แต่ยังคงไว้ซึ่งการประหยัดน้ำมันขั้นสูงสุด นุ่มนวล เกาะถนนมั่นใจด้วยช่วงล่าง SuperFlex Suspension เพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่เช่นเดียวกับรถ SUV พร้อมระบบบังคับเลี้ยวแบบ Variable Flow Control ปรับน้ำหนักพวงมาลัยให้เหมาะสมในทุกช่วงความเร็ว ขับสบาย ช่วยลดความเหนื่อยล้าของ ผู้ขับขี่ในการเดินทางระยะไกล ครบครันด้วยอุปกรณ์ความบันเทิง อาทิ หน้าจอสัมผัส Touchscreen ที่รองรับการใช้งาน Apple CarPlay
ทั้งนี้ ไฮลักซ์ ยังได้รับการพิสูจน์ ถึงการเป็นรถกระบะที่โดดเด่น ทั้งด้านความนุ่มนวลในการขับขี่ สมรรถนะ และ QDR อันเป็นเอกลักษณ์ ยืนยันได้จากรางวัลชนะเลิศ จาก International Pick-up Award (IPUA) ครั้งที่ 6 ปี 2022 และ 2023
พร้อมเป็นเจ้าของไฮลักซ์ ในราคาคุ้มค่าต่อการเป็นเจ้าของ
ไฮลักซ์ รีโว่ GR Sport ยกสูงขับเคลื่อน 4 ล้อ
- มี 1 รุ่น ราคา 1,299,000 บาท
ไฮลักซ์ รีโว่ Rocco
- มี 4 รุ่น ราคา 966,000 – 1,256,000 บาท
ไฮลักซ์ รีโว่ GR Sport ขับเคลื่อน 2 ล้อ
- มี 1 รุ่น ราคา 889,000 บาท
ไฮลักซ์ รีโว่ ยกสูงแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
- มี 5 รุ่น ราคา 879,000 – 1,176,000 บาท
ไฮลักซ์ รีโว่ ยกสูงแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ Pre-Runner
- มี 10 รุ่น ราคา 724,000 – 1,026,000 บาท
ไฮลักซ์ รีโว่ Z-Edition
- มี 8 รุ่น ราคา 619,000 – 805,000 บาท
ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นมาตรฐาน กระบะตอนเดียว
- มี 7 รุ่น ราคา 544,000 – 704,000 บาท
(*สำหรับสี Emotional Red และ White Pearl CS เพิ่ม 10,000 บาท / ** สี Super White ลด 7,000 บาท)
- ฟอร์จูนเนอร์ GR Sport และ ฟอร์จูนเนอร์ COMMANDER
ฟอร์จูนเนอร์ GR Sport รถรุ่นพิเศษที่โดดเด่นด้วยความเหนือระดับ และการออกแบบที่สปอร์ตทั้งภายนอก และภายใน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากแบรนด์รถแข่งระดับโลกอย่าง TOYOTA GAZOO RACING ที่มาพร้อมเครื่องยนต์อันทรงพลัง และช่วงล่างที่เหมาะสมกับการขับขี่ทั้งในเมือง และการขับแบบออฟโรด นอกจากนี้ ยังมีกับโช้คอัพแบบ โมโนทูบ (Monotube Shock Absorber) ที่ปรับจูนเป็นพิเศษเพื่อมอบประสิทธิภาพการทรงตัว และความนุ่มนวลในการขับขี่ ที่ดียิ่งขึ้น ช่วยลดความเหนื่อยล้าให้ทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสารภายในรถ
ฟอร์จูนเนอร์ COMMANDER ใหม่ โดดเด่นด้วย ชุดตกแต่งกันชนหน้าและหลัง บันไดข้าง คิ้วตกแต่ง ฝาท้ายสีดำเงาพร้อมด้วยสัญลักษณ์ FORTUNER และหลังคาสีดำแบบทูโทน โดดเด่น สะกดทุกสายตา พร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ภายในใส่ใจในทุกรายละเอียดกับ เบาะหนังและวัสดุตกแต่งสีดำสลับเดินตะเข็บด้ายสีแดง ให้ความรู้สึกสปอร์ต เร้าใจ พร้อมปรับจูนช่วงล่างด้านหน้าและด้านหลังใหม่ รองรับแรงสั่นสะเทือน ในทุกสภาพถนนได้เป็นอย่างดี ให้ความมั่นใจในการขับขี่อย่างเต็มพิกัดด้วยกล้องมองรอบคัน, ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ และระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง
พร้อมเป็นเจ้าของโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์
FORTUNER รุ่น GR Sport
- 8 GR Sport เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,879,000 บาท
FORTUNER รุ่น Legender มี 4 รุ่นย่อย
- ราคาเริ่มต้นเพียง 1,566,000 – 1,839,000 บาท
FORTUNER รุ่นมาตรฐาน (Base Model) มี 3 รุ่นย่อย
- ราคาเริ่มต้นเพียง 1,351,000 – 1,536,000 บาท
FORTUNER COMMANDER จำนวนจำกัดเพียง 1,000 คัน ล
2 สี Two-tone จากโรงงาน (Emotional Red Black Top และ White Pearl CS Black Top)
- 4 Commander เกียร์อัตโยมัติ 1,505,000 บาท
เป็นเจ้าของ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ทุกรุ่น รวมถึง FORTUNER COMMANDER วันนี้!
พร้อมรับแพ็กเกจขยายการรับประกันคุณภาพรถใหม่ 5 ปี หรือ 150,000 กม. และฟรี! ค่าแรงเช็กระยะ 100,000 กม.