Monday, February 24, 2025
HomeAuto Newsตลาดรถยนต์สิงหาคมอยู่ในช่วง Low season ยอดขายรวม 42,176 คัน ลดลง 38.8%

ตลาดรถยนต์สิงหาคมอยู่ในช่วง Low season ยอดขายรวม 42,176 คัน ลดลง 38.8%

นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนสิงหาคม 2564 ชะลอตัวทุกเซ็กเมนท์ในช่วง Low Season โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 42,176 คัน ลดลง 38.8%ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 13,845 คัน ลดลง 35% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 28,331 คัน ลดลง 40.5% ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 21,875 คัน ลดลง 40.9% 

  • ประเด็นสำคัญ

     ตลาดรถยนต์เดือนสิงหาคม 2564 มีปริมาณการขาย 42,176 คัน ลดลง 38.8% โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 35% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 40.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สืบเนื่องจากความวิตกกังวลต่อภาวะการระบาดของไวรัส COVID-19 ซึ่งเป็นการระบาดของสายพันธุ์ Delta ที่แพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดิม โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การโควิด-19 (ศบค.)ขยายพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดมากขึ้น เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัส COVID-19 ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน และภาคธุรกิจต่างๆ ส่งผลให้ผูบริโภคส่วนใหญ่มีความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ภายในประเทศและรัดกุมเรื่องการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น ประกอบกับช่วงฤดูฝนซึ่งเป็นช่วง Low season ที่เป็นอุปสรรคสำคัญในการขายรถยนต์อีกด้วย

ตลาดรถยนต์ในเดือนกันยายนมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 รวมทั้งการออกมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัส COVID-19 เป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ต้องชะลอ หรือเลื่อนกำหนดการออกไป รวมไปถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดทำให้ประชาชนเดือดร้อน ด้วยหลายเหตุปัจจัยต่างๆ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจโดยรวม และกระทบความสามารถในการซื้อรถยนต์ของลูกค้าด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดียังมีความหวังว่าสถานการณ์ต่างๆ จะฟื้นตัวดีขึ้นจากความพยายามของภาครัฐในการแก้ไขปัญหา และการประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 รวมทั้งมาตรการทางเศรษฐกิจ ที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างกำลังซื้อของผู้บริโภคให้ฟื้นคืนกลับมาโดยเร็ว

  • ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนสิงหาคม 2564
  1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 42,176 คัน ลดลง 8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า12,364 คัน ลดลง42.8%ส่วนแบ่งตลาด 29.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ11,035 คันลดลง33.4%ส่วนแบ่งตลาด 26.2%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า5,345 คันลดลง37.9%ส่วนแบ่งตลาด 12.7%
  1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 13,845 คัน ลดลง 35%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า4,906 คันลดลง30.9%ส่วนแบ่งตลาด 35.4%
อันดับที่ 2 โตโยต้า3,694 คันลดลง30.0%ส่วนแบ่งตลาด 26.7%
อันดับที่ 3 มาสด้า1,061 คัน ลดลง49.6%ส่วนแบ่งตลาด  7.7%
  1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 28,331 คัน ลดลง 5%
อันดับที่ 1 อีซูซุ11,035 คัน ลดลง 33.4%ส่วนแบ่งตลาด 39.0%
อันดับที่ 2 โตโยต้า8,670 คันลดลง 46.9%ส่วนแบ่งตลาด 30.6%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด2,012 คันลดลง23.3%ส่วนแบ่งตลาด  7.1%
รุ่น Hi-floor                                                              
  1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 21,875 คัน ลดลง 40.9%
อันดับที่ 1 อีซูซุ9,638 คัน ลดลง  36.9%ส่วนแบ่งตลาด 44.1%
อันดับที่ 2 โตโยต้า7,754 คันลดลง42.8%ส่วนแบ่งตลาด 35.4%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด2,012 คันลดลง23.3% ส่วนแบ่งตลาด  9.2%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 2,487 คัน โตโยต้า 1,114 คัน – อีซูซุ 687 คัน – มิตซูบิชิ 278 คัน – ฟอร์ด 250  คัน – นิสสัน 158 คัน

  1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 19,388 คัน ลดลง 7%
อันดับที่ 1 อีซูซุ8,951 คัน ลดลง39.8%ส่วนแบ่งตลาด 46.2%
อันดับที่ 2 โตโยต้า6,640 คันลดลง 43.8%ส่วนแบ่งตลาด 34.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด1,762 คันลดลง 15.7% ส่วนแบ่งตลาด  9.1%   

 

  • สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – สิงหาคม 2564
  1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 467,809 คัน เพิ่มขึ้น 4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า146,589 คัน เพิ่มขึ้น9.9%ส่วนแบ่งตลาด 31.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ117,880 คัน เพิ่มขึ้น9.1%ส่วนแบ่งตลาด  25.2%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า55,018 คันลดลง1.7% ส่วนแบ่งตลาด 11.8%
  1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 150,885 คัน ลดลง 4%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า47,557 คัน  เพิ่มขึ้น1.5%ส่วนแบ่งตลาด 31.5%
อันดับที่ 2 โตโยต้า37,864 คันลดลง 5.9%ส่วนแบ่งตลาด 25.1%
อันดับที่ 3 มาสด้า13,235 คัน  ลดลง9.4%ส่วนแบ่งตลาด  8.8%
  1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 316,924 คัน เพิ่มขึ้น 6%
อันดับที่ 1 อีซูซุ117,880 คัน เพิ่มขึ้น9.1% ส่วนแบ่งตลาด 37.2%
อันดับที่ 2 โตโยต้า108,725 คันเพิ่มขึ้น 16.7%ส่วนแบ่งตลาด 34.3%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด20,429 คันเพิ่มขึ้น 24.1%ส่วนแบ่งตลาด  6.4%
รุ่น Lo-Floor
  1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 246,625 คัน เพิ่มขึ้น 4.4%                           
อันดับที่ 1 อีซูซุ107,060 คันเพิ่มขึ้น6.9%ส่วนแบ่งตลาด 43.4%
อันดับที่ 2 โตโยต้า92,458 คัน เพิ่มขึ้น15.2%ส่วนแบ่งตลาด 37.5%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด20,429 คัน  เพิ่มขึ้น24.1%ส่วนแบ่งตลาด  8.3%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 33,123 คัน โตโยต้า 14,525 คัน – อีซูซุ 11,022 คัน – มิตซูบิชิ 4,204 คัน – ฟอร์ด 3,015 คัน – นิสสัน 357 คัน

  1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 213,502 คัน เพิ่มขึ้น 5%
อันดับที่ 1 อีซูซุ96,038 คัน ลดลง 0.3%ส่วนแบ่งตลาด 45.0%
อันดับที่ 2 โตโยต้า77,933 คันเพิ่มขึ้น 9.9%ส่วนแบ่งตลาด 36.5%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด17,414 คัน เพิ่มขึ้น30.0%ส่วนแบ่งตลาด 8.2%  

                             

RELATED ARTICLES

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

Most Popular