All New Honda BRV พัฒนาสู่เจนเนอเรชั่นที่ 2 เพื่อความเป็น Mini MPV 7 ที่นั่ง ระดับพรีเมี่ยม กว้างขวาง ทันสมัย ขุมพลังแรงจากเตรืาองยนต์ 1.5 ลิตร 121 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติซีวีที พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda Sensing กับค่าตัวรุ่นท๊อพ 973,000 บาท (เพิ่ม 4,000 บาทสีขาวมุก) จะมีความคุ้มค่าน่าใช้ขนาดไหน ติดตามได้ทั้งรีวิว และผลทดสอบครับ
All New Honda BRV mini MPV พรีเมี่ยม รุ่นล่าสุดที่ ฮอนด้า ออโตโมบิลส์ จำกัด เปิดตัวพร้อมจำหน่ายในไทย ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ออกแบบและพัฒนาโดยวิศวกรชาวไทย ก่อนส่งไปยังอินโดเนเซียและกลับมาขายในเมืองไทย
รูปลักษณ์ใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยความพรีเมี่ยม กว้างขวาง สะดวกสบายทุกที่นั่ง มิติตัวถังใหญ่ขึ้นทุกสัดส่วน กว้างและยาว 40-45 มม. ฐานล้อเพิ่ม 40 มม.ระยะห่างจากพื้น 220มม.
กระจังหน้าสีดำเปียโนแบลค กันชนหน้าหลังสีเงิน ไฟหน้าและหลังดีไซน์ใหม่แบบแอลอีดี ในขณะที่เส้นสานด้านข้างเชื่อมต่อรับกับเส้นไฟท้ายได้อย่างลงตัว
ฝาท้ายไม่มีการติดตั้งระบบแฮนด์ฟรี แต่ออกแบบให้มีนน.เบา และในการขยายสัดส่วนของตัวรถ ส่งผลให้ห่องสัมภาระท้ายรถใหญ่ขึ้น 21 มม. ล้อเป็นสีทูโทนขอบ 17 นิ้ว ส่วนระบบเบรกหน้าเป็นดิส ส่วนข้างหลังเป็นดรัมเบรค
ห็ฮงโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง เข้าออกสะดวก เบาะนั่งหุ้มหนัง ออกแบบมาให้กระขับพร้อมเสริมความนุ่มให้กับเบ่าะรองนั่งและพนักพิง เบาะนั่งแถว 2 องพับได้ในรูปแบ One Touch สำหรับในส่วนของแถว 3 นั่งได้แต่ขอเป็นพื้นที่ของคนตัวเล็ก หรือเด็ก จะเหาะสมกว่า เพราะค่อนข้างแคบ
ห้องโดยสารติดตั้งวัสดุซับเสียง และฉีดสเปรย์โฟม เพื่อตวามเงียบ และยังได้ในเรื่องการลดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากภายนอกทั้งที่ไม่มี PM2.5
คอกพิทแต่งสวย มาตรวัดมรงกลมหุ้มขอบโครเมียม ตรงกลางมีจอดิสเพลย์ขนาด 4.2 นิ้วแสดงค่าการทำงานของระบบต่างๆ มาพร้อมพวงมาลัยมัลติฟังค์ชั่น ติดตั้งการควบคุมระบบความปลอดภัย Honda Sensing ไว้ครบ
จอกลางเป็นแบบทัชสกรีน 7 นิ้วทำงานกับสมาร์ทโฟนได้ทุกระบบและแสดงภาพจากกล้องมองหลังรวมถึงระบบ Honda Lanewatch
เบรกมือยังเป็นแบบธรรมดาและไม่มี Auto Holdมีกล่องเก็บของใต้ที่เท้าแขน มีที่วางแก้วน้ำ 8 ตำแหน่ง
ขุมพลังมาจากเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาทีและแรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ CVT ออกแบบใหม่ ในกรณีเร่งแซงจะซอยอัตราทดได้ ซึ่งในรุ่น EL จะมีระบบเกียร์แพดเดิล ชิฟท์ 7 จังหวะ มีอัตราการประหยัดการประหยัดน้ำมันถึง 16.1 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20
ช่วงล่างหน้าแมคเฟอร่่สัน หลังทอร์ชั่น ปรับให้มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
•ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
•ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
•ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
•ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
•ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC)
•ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่นๆ* อาทิ
•ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
•ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
•ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติตามความเร็วรถ (Auto Door Lock By Speed)
•ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
•กล้องส่องภาพด้านหลัง
•ถุงลม 6 ตำแหน่ง (รุ่น EL)
•สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
•ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
•ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
•ระบบป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD)
•โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON และ ACETM ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง
•จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
การทดสอบในครั้งนี้เรามุ่งสู่จ.สระบุรี โดยใช้ระยะทางราว 150 กม. สำหรับ All New Honda BRV เจนเนอเรชั่นที่ 2 เป็นการพัฒนาใหม่ในทุกส่วน รูปลักษณ์ที่ดูทันสมัยและพรีเมี่ยม ทั้งให้ความโดดเด่นในด้านความเงียบของห้องโดยสาร
แต่สำหรับแถว 3 คงต้องให้พื้นที่สำหรับเด็ก แต่ในส่วนห้องสัมภาระที่เพิ่มขนาดเล็กน้อยก็ส่งผลต่อการใช้งานจริง การพับเบาะทำได้สะดวก และเข้า-ออกห้องโดยสารได้สบาย
การใช้งานระบบ Honda Sensing ทำได้ง่ายดาย แต่น่าเสียดายไปนิดที่ยังไม่ให้ระบบ Stop & Go ที่ทำงานร่วมกับ Adaptive Cruise Control รวมถึงเบรกอัตโนมัติ เพราะระบบจะช่วยชะลอความเร็วไปถึงแค่ 20 กม./ชม.
เตรื่องยนต์บลอคใหม่ 1.5 ลิตร 121 แรงท้าที่ 6600 รอบ แรงบิด 145 นิวตันเมตรที่ 4300 รอบ อัตราเร่งที่ทำได้ 0-100 กม./ขม.อยู่ที่ 12 วินาที ซึ่งถือว่าแรงสุดในเซกมนต์ รวมถึงเรื่องการเซ็ทอัพระบบช่วงล่างที่มีความกระฉับกระเฉง ซึ่งอีโค่สติ๊กเกอร์เคลมอัตราประหยัดเชื่อเพลิงอยู่ที่ 16.1 กม./ลิตร แต่ปลายทางจะได้เท่าไหร่ ต้องรอลุ้น
การพัฒนาใหม่ในครั้งนี้ เกียร์ CVT มีระบบ Step up Ship Control ทำให้การขับขี่สนุกมากขึ้นเพราะมีการปรับอัตราทดของเกียร์ ทั้งนี้ยังทำงานร่วมกับแพดเดิลชิพท์ที่พวงมาลัยอีกด้วย สำหรับพวงมาลัยมีการปรับตามรอบความเร็ว และไม่หนักมือ ซึ่งการบังคับควบคุมทำได้แม่นยำ
สำหรับระยะทางโชว์หน้าจอที่ 170 กิโลเมตร และความเร็วที่ใช้คือการใช้งานปกติ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ความเร็วค่อนข้างสูง และอัตราสิ้นเปลืองที่ทำได้อยู่ที่ 16.1 กม./ลิตร ซึ่งเท่ากันกับอีโค่สติกเกอร์พอดิบพอดี
All New Honda BRV ถือว่ามีการปรับปรุงใหม่ที่ตอบโจทย์ได้หลากรูปแบบ ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและภายในที่พรีเมียม การขับขี่ที่ควบคุมได้แม่นยำ พร้อมระบบรองรับที่กระฉับกระเฉง ด้านขุมพลังที่เป็นจุดเด่นเรียกว่าแรงสุดในกลุ่ม แถมยังประหยัด
นอกจากเครื่องยนต์ที่แรง ราคาจำหน่ายแตะ 1 ล้านบาท ก็ถือว่าแรงสุดในเซกเมนต์เช่นเดียวกัน ถ้าสิ่งที่ขาดหายอย่างเบรตมือไฟฟ้า Auto Hold รวมถึงติดตั้ง Honda Sensing เต็มระบบ พร้อมฝาท้ายแบบไฟฟ้า มีมาให้ครบ ถึงจะสมน้ำสมเนื้อ แต่แฟนๆ Honda ก็คงปฏิเสธลำบาก เพราะสิ่งที่ให้มาก็เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันอยู่แล้วครับ