ปรับหน้าตาพร้อมเปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยกับ ฮอนด้า แจ๊ส ไมเนอร์เชนจ์ โดยสร้างกระแสใหม่ให้กับงานเปิดตัวรถยนต์ในบ้านเราด้วยการใช้โซเชียลเนตเวิร์คเป็นช่องทางหลัก หลังจากเปิดตัวไปไม่นาน ค่ายฮอนด้าจึงได้จัดการทดสอบรถรุ่น RS+ พร้อมพาสื่อมวลชนเข้าร่วมทำกิจกรรมสุดชิค ตามไลฟ์สไตล์คนเมือง รูปแบบจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ติดตามได้จากรายงาน
สำหรับ Honda Jazz RS+ ถือเป็นแฮทช์แบ็กรุ่นท๊อฟของค่ายฮอนด้าที่ได้รับการปรับปรุงในด้านรูปลักษณ์ให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น ตามแนวคิด Low Wide Gravity ซึ่งให้ความโฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ต มาพร้อมความปราดเปรียวตามหลักอากาศพลศาสตร์ และเป็นครั้งแรกที่ฮอนด้า ออโตโมบิลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ปลดล๊อคจากเดิมที่เคยเป็นชุดแต่ง นำมาบรรจุให้อยู่ในรุ่นมาตรฐานตามเอกลักษณ์เฉพาะแบบ RS รอบคัน
Honda Jazz RS+ มากับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่พร้อมสัญลักษณ์ RS ติดตั้งไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Light – DRL) รวมไว้ในโคมไฟแบบ LED มากับไฟตัดหมอกไว้ที่มุมกันชนทั้งสองฝั่ง พร้อมทำกระจกมองข้างทำสีดำ
ด้านท้ายรถมากับรูปทรงใกล้เคียงแบบเดิม ไฟท้ายเป็นแนวตั้ง เติมเต็มความสปอร์ตในส่วนกันชนหลัง พร้อมตราสัญลักษณ์ RS ที่ฝากระโปรง ส่วนของล้ออัลลอยปรับปรุงรูปแบบในสไตล์ 5 ก้าน ขนาด 16 นิ้ว
ห้องโดยสารดีไซน์จากแนวคิด Futuristic Cockpit ให้อารมณ์ทันสมัย และยังคงสไตล์สปอร์ตด้วยการเดินด้ายคู่สีส้มที่เบาะนั่งและแผงข้าง ทั้งยังเพิ่มเติมในส่วนของการบรรทุกสัมภาระด้วยการพับเบาะได้หลากรูปแบบ พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งช่องเก็บของ กล่องเก็บแท็บเล็ต และที่วางแก้วน้ำสูงสุดถึง 9 ตำแหน่ง
พวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังค์ชั่นติดตั้งระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์แบบแพดเดิลชิฟท์ 7 จังหวะ รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
ในส่วนของมาตรวัดเป็นแบบเรืองแสงมากับหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID ใกล้กันจะมีระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ One Push Ignition System และระบบ Honda Smart Key System ซึ่งใข้ในการควบคุมประตู
Honda Jazz RS+ ได้รับการเติมเต็มเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในขณะขับขี่ ควบคุมทุกการใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส อาทิ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 6.8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สาย (Bluetooth) (ทุกรุ่น) ซึ่งสามารถเชื่อมต่อภาพและเสียงผ่าน HDMI พร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติติดตั้งแผงควบคุมแบบสัมผัส
ขุมพลังยังใช้แบบเดิมเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 146 นิวตัน-เมตรที่ 4,700 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบแพดเดิลชิฟท์ 7 จังหวะ มีโหมดช่วยประหยัดในรูปแบบ ECO Assist ทั้งยังรองรับพลังงานทางเลือก E85
Eco Coaching เป็นอีกหนึ่งระบบที่ได้รับการติดตั้งใน Honda Jazz RS+ ทำหน้าที่แสดงผลการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน ด้วยการเปลี่ยนสีที่มาตรวัดเรืองแสง และ Econ Mode ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยลดการใช้พลังงานสิ้นเปลือง โดยระบบจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์ ลิ้นปีกผีเสื้อและเกียร์ให้ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งปรับการทำงานของระบบปรับอากาศและการหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารให้เหมาะสม ช่วยให้เครื่องยนต์ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้านความปลอดภัยยังคงมั่นใจได้กับโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control (G-CON) ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง ทั้งยังเติมเต็มเทคโนโลยีความปลอดภัยของรถระดับพรีเมียม อาทิ ถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า Dual SRS (ทุกรุ่น) ถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะ i-Side Airbags (เฉพาะรุ่น RS+) และม่านถุงลมด้านข้าง Side Curtain Airbags
นอกจากนี้ยังมีระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-Lock Brake System – ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรกควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal – ESS) รวมถึงติดตั้งกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 รูปแบบ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการถอยจอด โดยสามารถเลือกดูมุมกล้องที่แตกต่างกันได้ทั้งแบบ 130 องศา 180 องศา และมุมมองจากด้านบน
การทดสอบในครั้งนี้ ผู้จัดงานได้ใช้เส้นทางรอบกรุงเทพมหานคร ระยะทางโดยรวมประมาณ 100 กม. เริ่มต้นจากถนนสุขุมวิท ไปพักรถอีกครั้งที่ร้าน Tanwa Desigh & Food Projet บริเวณถนนรัตนาธิเบศร์
ช่วงแรกจะใช้การเดินทางบนทางด่วนเป็นหลัก ฟิลลิ่งการขับขี่เป็นไปตามสไตล์รถซิตี้คาร์ แต่ให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดี มองได้ไกล เครื่องยนต์ I-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร 117 แรงม้า เหมาะสมกับการใช้งานในเมือง ซึ่งตอบโจทย์ให้กับรูปแบบการจัดทดสอบได้เป็นอย่างดี หากใช้งานในรูปแบบเดินทางไกลอาจจะต้องเค้นขุมพลังสักนิด แต่ก็สนุกและเพลิดเพลินกับการขับขี่ได้ด้วยระบบแพดเดิลชิฟท์ ซึ่งมีประโยชน์ต่อการเร่งแซง
สมรรถนะด้านการยึดเกาะยังคงความโดดเด่น ระบบช่วงล่างไม่นุ่มจนยวบยาบ แถมได้ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA) ทำให้การขับขี่ทำได้อย่างมั่นใจ พวงมาลัยอาจมีช่วงฟรีเล็กน้อยและน้ำหนักเบาไปสักนิด แต่ประเด็นนี้ไปตอบโจทย์ให้กับคุณผู้หญิงที่เข้าร่วมทดสอบหลายๆท่าน ทั้งยังได้ความสะดวกสบายจากกล้องมองหลัง ทำให้การถอยจอดสะดวกยิ่งขึ้น
กิจกรรมแรกที่เข้าร่วม ณ ร้าน Tanwa Desigh & Food Projet คือการทำที่เก็บของภายในรถ ในรูปแบบของงาน DIY โดยมีเนตไอดอลที่มีความสามารถด้านการประดิษฐ์และประยุกต์ใช้สิ่งของใกล้ตัว มาอธิบายอย่างใกล้ชิด
จบภารกิจแรกก็ถึงเวลาเดินทางต่อไปยังคลองสานเพื่อรับประทานอาหารกลางวันบริเวณร้าน The Jam Factory ร้านอาหารไทยประยุกต์ที่บรรจงเสริฟ์หลากเมนูหากินยากในสไตล์อาหารชาววัง
คณะของเราใช้เวลาในการรับประทานอาหารกลางวันประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางต่อเหลือบตาไปมองอัตราสิ้นเปลือง ซึ่งปรับเซทไว้ตั้งแต่ก่อนออกเดินทางในช่วงเช้า โดยการทดสอบในครั้งนี้ไม่ได้ใช้ระบบ Eco Coaching และ Econ Mode ตัวเลขแสดงไปยังหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID ประมาณ 12 กม./ลิตร ซึ่งถือเป็นเกณฑ์มาตรฐานกับการใช้งานในเมือง
สถานที่ต่อไปคือร้านกาแฟ Nikko Café ย่านทองหล่อ เพื่อมาจิบกาแฟพร้อมรับประทานอาหารว่างยามบ่าย ก่อนที่จะนำรถทดสอบกลับมายังบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถือว่าเป็นการเสร็จสิ้นกิจกรรมการทดสอบ Honda Jazz RS+
ความคิดเห็น
สำหรับการปรับโฉม Honda Jazz RS+ ในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอกนั้นดูมีความสง่างามในสไตล์สปอร์ตมากยิ่งขึ้นจากกระจังหน้าที่มีตราสัญลักษณ์ RS รวมถึงได้รับการติดตั้งไฟหน้าแบบแอลอีดี และเป็นครั้งแรกที่ ฮอนด้า ได้เพิ่มรุ่นนี้ซึ่งก่อนหน้าเคยเป็นเพียงแค่ชุดแต่ง ภายในเติมเต็มความสปอร์ตด้วยการเย็บด้ายคู่สีส้มทั้งเบาะนั่งและแผงข้าง ถึงแม้ว่าเครื่องยนต์จะเป็นแบบเดิม แต่แพดเดิลชิฟท์ยังคงทำหน้าที่ในการเพิ่มความสนุกในการขับขี่ และพระเอกด้านการยึดเกาะอย่างระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA) มีส่วนช่วยให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจ
เรียบเรียงและทดสอบโดย ณัฐเทพ เผ่าจินดา
ข้อมูลเทคนิค
ผู้จัดจำหน่าย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิลส์ ประเทศไทย จำกัด
ยี่ห้อ,รุ่น | Honda Jazz RS+ |
เครื่องยนต์ | เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว SOHC I-VTEC |
ความจุ (ซีซี) | 1,497 ซีซี |
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) | 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที |
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร./รตน.) | 146 นิวตันเมตร ที่ 4,700 รอบต่อนาที |
ระบบถ่ายทอดกำลัง (จังหวะ) | เกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมแพดเดิลชิฟท์ |
ขับเคลื่อน (ล้อ) | ล้อหน้า |
ระบบรองรับ(หน้า/หลัง) | แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง /ทอร์ชั่นบีม |
ยาว กว้าง สูง (มม.) | 4,035/1,695/1,525 |
ระยะฐานล้อ(มม.) | 2,530 |
ความสูงจากพื้น (มม.) | 135 |
ระบบห้ามล้อ | ดิสก์ แบบมีครีบระบายความร้อน/ดุม |
ราคา(บาท) | 754,000 |