การปรับปรุงใหม่เพื่อความลงตัวของ Nissan Almera 2023 ตอบโจทย์การใช้งานให้กับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ หน้าตาเท่ สปอร์ต พร้อมโลโก้ใหม่ถือเป็นไฮไลท์ของรุ่น ห้องโดยสารกว้าง เพิ่มเติมความหรูหราจากการหุ้มหนัง Quole Modure เสริมวัสดุผิวนุ่มที่แผงข้างและคอนโซล อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ทันสมัย ในส่วนของขุมพลังและระบบรองรับเดิม ราคาดี พร้อมแคมเปญโดน
นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ถือว่าใจป้ำ เพราะปรับโฉมใหม่ในครั้งนี้ Nissan Almera 2023 ได้ลูคส์เท่ และ สปอร์ต จากด้านหน้าที่เปลี่ยนใหม่ยกชุด กระจังหน้าในรูปแบบของ V Motion รุ่นล่าสุดเพิ่มความดุด้วยพลาสติกสีดำเงาหุ้มขอบโครเมียม จะมีเพียงมุมมองด้านท้าย และล้อขนาด 15 นิ้ว ที่ยังมีรูปแบบใกล้เคียงเดิม
โลโก้รุ่นใหม่ถูกติดตั้งเป็นที่เรียบร้อยทั้งด้านหน้าและด้านท้าย โคมไฟหน้าและหลังปรับปรุงรูปแบบเล็กน้อย และยังไม่ใช่แอลอีดีเต็มระบบ มี Auto High Beam เพิ่มมาให้ ส่วน DRl ยังไม่ได้แถมมาให้ เนื่องจากติดเงื่อนไขของมาตรฐานรถอีโค่คาร์
กุญแจเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ เปลี่ยนจากรูปแบบหยดน้ำที่ใช้ในรถยนต์นิสสันทุกรุ่นมานานหลายปีเป็นรูปแบบใหม่ ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบ Nissan Connect Service เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อควบคุมและสั่งการระบบต่างๆของรถยนต์ ทั้ง สตาร์ทเครื่องยนต์ เปิดแอร์ เช็คสถานะของรถยนต์ แจ้งเตือนการโจรกรรม รวมถึงแจ้งเตือนการเข้ารับบริการ ซึ่งระบบที่กล่าวไว้ จะทำงานหลังจากล๊อครถผ่านไปแล้ว 5 นาที
สีพิเศษที่มาเพิ่มคือ สีเทา เกรย์ สกาย เพริ์ล และ สีขาว สตอร์ม ไวท์ รวมถึงหลังคาทูโทน ต้องเพิ่มเงินจากราคาตัวรถอีกประมาณ 15,000 บาท
ภายในเปลี่ยนสีคอนโซลและแผงข้างรวมถึงบุนุ่มให้ผิวสัมผัสเพื่อความพรีเมี่ยม และเติมเต็มความหรูหราด้วยการนำหนังแท้ Quole Modure มาติดตั้ง ทั้งยังมีคุณสมบัติเป็นตัวช่วยในการระบายความร้อนให้กับห้องโดยสาร
กระจกมองหลังเป็นแบบตัดแสงสะท้อน ใกล้กันมีกล่องสัญญาณ SoS ในกรณีเกิดอุบัติเหตุจนผู้ขับขี่และผู้โดยสารช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ระบบนี้จะแจ้งเตือนอัตโนมัติไปยังศูนย์ช่วยเหลือเพื่อประสานงานกับโรงพยาบาล หรือทีมกู้ภัย
ชุดมาตรวัดดิจิตอลแสดงค่าการใช้งานต่างๆของรถ รวมถึงฟีเจอร์เพื่อความสะดวกสบาย และปลอดภัย ซึ่งประมวลผลจากกล้องและเรดาร์ที่ติดตั้งไว้รอบคัน ในส่วนที่เพิ่มเติมมีทั้งมาตรวัดระดับลมยสง ครูสคอนโทล ระบบเตือนออกนอกเลนส์พร้อมสั่นเตือนที่พวงมาลัย
จอกลางขนาด 8 นิ้ว เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบ IOS และ Endroid Auto รวมถึงติดตั้ง Wiress Charger ให้เสร็จสรรพ
เครื่องยนต์เป็นแบบ Downsizing ขนาด 1.0 ลิตร 3 สูบ อัดอากาศด้วยเทอร์โบที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าควบคุม ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้า พร้อมแรงบิด 152 นิวตันเมตร ที่ 2,400-4,000 รอบต่อนาที ซึ่งจากเดิมมีเพียง 79 แรงม้า และแรงบิด 106 นิวตันเมตร พร้อมการันตีความประหยัดตามอีโค่สติกเกอร์อยู่ที่ 23.3 กม./ลิตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ในเวลา 12.8 วินาที
ระบบส่งกำลังยังคงเป็นแบบ CVT ที่มาพร้อม D-Steplogic พร้อมปุ่ม Sport และช่วงล่างหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท หลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม
– เทคโนโลยี Nissan Intelligent Mobility มาแบบจัดเต็ม นอกจากถุงลมนิรภัย 6 จุด ยังมีอีกเพียบ
-กล้องรอบทิศทางสามารถตรวจจับวัตถุและมาพร้อมเสียงเตือนในความเร็วไม่เกิน 8 กม./ชม.
-ระบบเตือนจุดบอดทำงานที่ความเร็วไม่ต่ำกว่า 32 กม./ชม. พร้อมเสียงเตือน
-ระบบเตือนก่อนการชนจะตรวจจับที่ความเร็ว 10-80 กม./ชม. ซึ่งนอกจากเตือนยังทำการเบรคอัตโนมัติเพื่อลดความรุนแรงของอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น
-RCTA จะช่วยตรวจพื้นที่รอบข้างขณะถอยหลังรัศมี 20 ม. ด้วยความเร็วของวัตถุที่ 30 กม./ชม.
ระยะทางในการทดสอบกว่า 250 กม.นั้นทำให้รู้ว่ารถคันนี้ตอบโจทย์การเดินทางได้ทั้งนอกเมืองและในเมือง ห้องโดยสารที่กว้างขวาง นอกจากสอบผ่านเรื่องการเก็บเสียงที่เร็ดรอดเข้ามาภายใน และหุ้มหนังแท้ Quole Modure ซึ่งช่วยลดความร้อนสะสม ยังพิเศษตรงที่เบาะหลังมีความสูงกว่าด้านหน้า ผู้โดยสารจะมองเห็นทัศนวิสัยที่กว้างขึ้นกว่าเดิม จึงส่งผลให้ลดอาการเมารถเมื่อต้องเดินทางไกล
ขุมพลังขนาดความจุเพียง 1.0 ลิตร แต่ก็พอเพียงต่อการนำพาผู้โดยสาร 3-4 คน ไปยังจุดหมายปลายทางได้ และยังประหยัดเชื้อเพลิงเพราะในการทดสอบครั้งนี้จากระยะทางกว่า 250 กม. ได้ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองมาที่ 19 กม./ลิตร ถือว่าประหยัดใช้ได้
ระบบช่วงล่างให้การยึดเกาะดี ขับสนุก ไม่นุ่มถึงกับย้วย พอได้ระบบช่วยเหลือที่เพิ่มเข้ามาทั้งครูสคอนโทรล และ ระบบเตือนออกนอกช่องทางพร้อมสั่นเตือนที่พวงมาลัย ทำให้การขับขี่ทางไกล สะดวก และปลอดภัยขึ้นอีกเยอะ
Nissan Connect Service ถือเป็นฟีเจอร์แห่งยุคสมัย ที่ช่วยให้ผู้ใช้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะสามารถเชื่อมต่อกับรถเข้ากับสมาร์ทโฟน พร้อมสั่งการควบคุมได้อีกหลายฟีเจอร์ แม้ว่าจอดรถกลางแดด ก็ช่วยให้ห้องโดยสารเย็นสบายได้ด้วยระบบนี้
NISSAN ALMERA 2023 กับการปรับปรุงใหม่ครั้งล่าสุด เพื่อให้ได้มาซึ่งอีโค่คาร์ที่กว้างขวาง นั่งสบาย ตอบโจทย์ความทันสมัยด้วยฟีเจอร์ที่มากมาย รวมถึงรายการส่งเสริมการขายที่ไม่ธรรมดา ทั้งดาวน์เพียง 9,999 หรือ เลือกดอกเบี้ย 1.99% หรือเลือกผ่อนต่อเดือนเพียง 5,234 บาท