Honda Civic Turbo RS 2019 ซีดาน C-Segment ปรับโฉมล่าสุด มาพร้อมลุคสปอร์ตเต็มขั้น พร้อมติดตั้งระบบ Honda Sensing เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยที่นำมาจากซีดานรุ่นใหญ่ แต่ปรับราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้นพียง 20,000 บาท
ถือกำเนิดในตลาดรถยนต์โลกมาครบ 10 เจนเนอเรชั่น และรุ่นล่าสุดที่จำหน่ายในเมืองไทยก็กวาดยอดไปแล้วกว่า 70,000 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์ในกลุ่ม C-Segment เกินครึ่ง ซึ่งใช้เวลาล่าแต้มไปเพียง 2 ปีเศษ ในครั้งนี้ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิลส์ ประเทศไทย จำกัด กระตุ้นยอดจำหน่ายอีกครั้งด้วยการปรับโฉมเพิ่มเติม และติดตั้งระบบ Honda Sensing เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยที่ถูกหยิบยกมาจากซีดานรุ่นใหญ่ เปิดตัวไปในงานมหกรรมยานยนต์เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
ในด้านรูปลักษณ์ของ Honda Civic Turbo RS 2019 ถือว่าเป็นการปรับแต่งเพิ่มเติมเต็ม ทั้งในส่วนของกันชนหน้าแบบใหม่ เพิ่มโลโก้ RS ที่หน้ากระจัง รับกับไฟหน้าและไฟตัดหมอกแบบ LED ได้อย่างลงตัว เสริมมาดสปอรต์ด้วยล้อขนาด 17 นิ้วสีรมดำ ซึ่งเปิดตัวพร้อมกับสีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (Brilliant Sporty Blue)
Honda Civic Turbo RS 2019 ปรับลุคสปอร์ตให้กับห้องโดยสารด้วยการเย็บตะเข็บด้วยด้ายสีแดงที่เบาะนั่ง แผงข้างและพวงมาลัย รวมถึงเพิ่มปุ่มควบคุมที่ชุดเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว โดยในส่วนอื่นๆยังคงเหมือนรุ่นเดิม
ด้านขุมพลังยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ VTEC TURBO ขนาดความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700-5,500 รอบ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT รองรับเชื้อเพลิงทางเลือกสูงสุด E20 รองรับความแรงด้วยระบบช่วงล่างหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลงเช่นกัน
ระบบความปลอดภัยมาตรฐานยังคงอัดแน่น ได้แก่ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ด้านข้าง และม่านถุงลม, ระบบควบคุมเสถียรภาพ VSA, ระบบเบรก ABS มาพร้อมระบบเสริมแรง EBD ทั้งยังมีระบบล็อคประตูอัตโนมัติเมื่อรีโมทอยู่ห่างตัวรถ กล้องมองภาพด้านหลังแสดงการทำงานผ่านจอทัชสกรีนปรับภาพได้ 3 มุมมอง และระบบแสดงมุมอับสายตา Honda LaneWatch
ระบบที่ถูกเสริมให้เป็นพระเอกใน Honda Civic Turbo RS 2019 มีชื่อเรียกว่า Honda Sensing ซึ่งเป็นการติดตั้งแบบยกมาทั้งชุดจาก Honda Accord Hybrid ประกอบไปด้วย
ระบบไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS)
ระบบเตือนและควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทาง (RDM with LDW)
ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันตามคันหน้า และปรับความเร็วตามคันหน้าที่ความเร็วต่ำ (ACC with LSF)
การทดสอบสมรรถนะในครั้งนี้ใข้เส้นทาง กทม.-นครราชสีมา ระยะทางรวมกว่า 300 กม. การขับขี่ยังคงมั่นใจได้กับสมรรถนะของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ VTEC TURBO ที่เมื่อต้องการเรียกความแรง พละกำลัง 173 แรงม้าพร้อมแรงบิด 220 นิวตัน-เมตร ก็ตอบสนองได้ตามความต้องการ และเกาะถนนไปกับระบบช่วงล่างที่ให้การยึดเกาะแบบแน่นและหนึบ ซึ่ง Honda Civic Turbo RS 2019 นั้นไม่ได้รับการปรับแต่งสมรรถนะของขุมพลังและระบบช่วงล่างแต่อย่างใด
สิ่งที่โฟกัสไปกับการทดสอบในครั้งนี้อยู่ที่เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda Sensing ซึ่งได้สัมผัสตลอดระยะทาง
โดย 5 องค์ประกอบหลักๆนั้นไม่ได้ทดสอบเพียงอย่างเดียวนั่นคือ ระบบไฟสูงอัตโนมัติ (ABH) เพราะเป็นการทดสอบในช่วงเวลากลางวันซึ่งระบบนี้จะทำหน้าที่เปลี่ยนการทำงานระหว่างไฟสูงและไฟต่ำให้อัตโนมัติ ซึ่งระบบนี้จะควบคุมไฟสูงต่อเมื่อไม่มีรถยนต์คันอื่นอยู่ด้านหน้า และไม่มีไฟส่องถนนเท่านั้น
ส่วนอีก 4 ตัวช่วยหลักเริ่มจาก ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS) จะช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็วผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลพร้อมกับส่งเสียงเตือนดังขึ้น และจะสั่นพวงมาลัยเตือนเป็นสิ่งสุดท้ายก่อนที่จะช่วยเบรคและเสริมแรงเบรคให้อัตโนมัติในกรณีเมื่อมีรถยนต์คันหน้า หรือคนเดินถนนอยู่ในระยะที่ไม่ปลอดภัย
ต่อมาเป็น ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันตามคันหน้า และปรับความเร็วตามคันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow) ซึ่งจะทำหน้าที่เหมือนระบบล๊อคความเร็วอัตโนมัติทั่วไปแต่จะพิเศษกว่าตรงที่หากรถคันหน้ามีความเร็วที่ช้า ระบบจะปรับลดความเร็วให้เท่ากับรถคันหน้าอัตโนมัติและจะทำการต่อเนื่องไปจนรถหยุดสนิท โดยประมวลผลผ่านกล้องและเรดาห์ที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้ารถ
มาถึง ระบบช่วยให้รถอยู่ในช่องทาง (Lane Keeping Assist System – LKAS) กล้องด้านหน้าจะทำการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ เมื่อไหร่ที่รถเริ่มเบนออกนอกช่องทางจนกระทั่งล้อไปสัมผัสกับเส้นแบ่งช่องทาง ระบบจะช่วยเพิ่มแรงหน่วงของพวงมาลัย เพื่อควบคุมรถอยู่ภายในช่องทางปกติได้อย่างปลอดภัย
สุดท้ายเป็นระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning – RDM with LDW) ระบบนี้จะทำงานคล้ายกับระบบ LKAS โดยใช้กล้องด้านหน้ารถในการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเหมือนเดิม แต่ถ้ารถเริ่มเบี่ยงออกนอกช่องทาง ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอแสดงข้อมูลพร้อมสั่นเตือนที่พวงมาลัย และในกรณีที่รถเริ่มเบี่ยงออกนอกช่องทางมากยิ่งขึ้น ระบบจะช่วยควบคุมพวงมาลัยเพื่อให้รถกลับเข้าสู่ช่องทาง และหากยังควบคุมไม่ได้ ระบบเบรกจะช่วยชะลอความเร็ว เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุนั่นเอง
สำหรับการทดสอบสมรรถนะของ Honda Civic Turbo RS 2019 ด้านสมรรถนะเครื่องยนต์และระบบช่วงล่างนั้นยังเป็นฟิลลิ่งเดียวกับรุ่นปี 2018 แต่การติดตั้งเทคโนโลยี Honda Sensing นั้นทำให้ได้ความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งอุบัติเหตุในกรณีที่ประมาทหรือเลิ่นเล่อก็จะผ่อนจากหนักให้เป็นเบาหรืออาจจะไม่เกิดขึ้นเลยก็เป็นไปได้
ด้านราคาจำหน่ายที่ปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมมาเพียง 20,000 บาท นั้นเป็นอะไรที่สุดคุ้มหากเทียบกับอุปกรณ์ที่ได้รับการติดตั้งมาใหม่ ซึ่งนอกจากจะทำให้รูปลักษณ์ของ Honda Civic Turbo RS 2019 ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ยังมีตัวช่วยการขับขี่ที่ส่งผลให้เกิดความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินอีกด้วย
ข้อมูลเทคนิค Honda Civic Turbo RS 2019
เครื่องยนต์: เบนซินแบบ 4 สูบนอน ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า
ความจุกระบอกสูบ (ซี.ซี.): 1,498
กำลังสูงสุด (แรงม้า ที่ รอบ/นาที): 173/5,500
แรงบิดสูงสุด(นิวตัน-เมตร ที่รอบ/นาที): 220 /1,700-5,500
ระบบส่งกำลัง: อัตโนมัติซีวีที พร้อมแพดเดิลชิฟท์
ระบบขับเคลื่อน: 2 ล้อหน้า
เบรก (หน้า/หลัง): ดิสก์พร้อมครีบระบายความร้อน
ระบบกันสะเทือน (หน้า/หลัง): อิสระแม็กเฟอร์สันสตรัท/ มัลติลิงค์
ยาว/กว้าง/สูง (มม.): 4648/1799 /1416
ราคา (บาท) : 1,219,000
ตัวแทนจำหน่าย : บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิลส์ ประเทศไทย จำกัด