Friday, November 8, 2024
HomeAuto Newsปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต ใหม่ (The new Porsche 718 Cayman GT4...

ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต ใหม่ (The new Porsche 718 Cayman GT4 Clubsport) สายพันธุ์แรง ที่มาพร้อมตัวถัง natural-fibre

ด้วยระยะเวลา 3 ปี หลังการเปิดตัวครั้งแรกของ ปอร์เช่ เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต (Porsche Cayman GT4 Clubsport)  ถึงเวลาแล้วที่ยนตรกรรมผู้รับหน้าที่สืบทอดความแรงลำดับต่อไปจะเผยโฉมที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น: ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต (Porsche 718 Cayman GT4 Clubsport) อีกหนึ่งความภาคภูมิใจในฐานะ ตัวแทนของความก้าวหน้า และความสำเร็จอันยอดเยี่ยมจากโรงงาน Weissach นับเป็นครั้งแรกที่รถแข่งเครื่องยนต์ วางกลาง ซึ่งได้รับการออกแบบพัฒนาให้มีประสิทธิภาพเทียบเคียงรถสนามพันธุ์แท้ที่สุด โดยเพิ่มทางเลือกถึง 2 รูปแบบ ของตัวถังภายนอก : เวอร์ชั่นแรกคือ “Trackday” ตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่เพื่อการลงสนามแข่งขันในระดับเริ่มต้น และอีกหนึ่งเวอร์ชั่น “Competition” รองรับการประลองความเร็วบนสนามแข่งขันระดับประเทศและระดับนานาชาติ

แนวคิดในการออกแบบพัฒนา ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต รุ่นล่าสุด (The new Porsche 718 Cayman GT4 Clubsport) ไม่เพียงมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มสมรรถนะการขับขี่และศักยภาพในการทำความเร็วต่อรอบสนามให้ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงการเลือกใช้วัสดุในการผลิตที่คงทนถาวร รวมทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต (Porsche 718 Cayman GT4 Clubsport) คือรถแข่งจากสายการผลิตคันแรกที่ได้รับการติดตั้งชิ้นส่วนตัวถังที่ผลิตขึ้นจากวัสดุ natural-fibre ประตูรถฝั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมทั้งปีกหลังทรงสูงผลิตขึ้นด้วยวัสดุธรรมชาติ organic fibre mix ซึ่งวัตถุดิบดังกล่าวมีแหล่งกำเนิดจากผลผลิตต่างๆ ในภาค gdK9idii, อาทิ เส้นใยจากต้นปอหรือต้นป่าน ซึ่งมีคุณสมบัติหลายประการใกล้เคียงกับวัสดุ carbon fibre ทั้งในแง่ของน้ำหนักที่เบาและมีความแข็งแกร่งสูง

ขุมพลังที่ประจำการอยู่ในปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต (Porsche 178 Cayman GT4 Clubsport) คือเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบนอน ขนาดความจุ 3.8-ลิตร ให้พละกำลังสูงสุดถึง 425 แรงม้า (313 กิโลวัตต์) หรือมีกำลังเพิ่มขึ้นถึง 40 แรงม้า เมื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพกับรุ่นก่อนหน้า พลังมหาศาลได้รับการถ่ายทอดต่อไปจนถึงล้อขับเคลื่อนคู่หลัง ผ่านระบบเกียร์อัจฉริยะ 6 จังหวะคลัทช์คู่ รวมทั้งชุดเฟืองท้ายแบบ differential lock ชิ้นส่วนสตรัทและสปริงของระบบช่วงล่างด้านหน้าถอดแบบจากตัวแข่งรุ่นพี่ ปอร์เช่ 911 จีที3 คัพ (Porsche 911 GT3 Cup) ระบบเบรกสมรรถนะสูงสำหรับการแข่งขัน ประกอบด้วยจานเบรกเหล็กหล่อขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลาง 380-มิลลิเมตร สามารถรับมือกับน้ำหนักตัวรถเพียง 1,320 กิโลกรัมได้อย่างไร้ข้อกังขาใดๆ ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต (Porsche 718 Cayman GT4 Clubsport) เพิ่มเติมความปลอดภัยให้แก่ตัวถังและห้องโดยสารด้วยการเชื่อมยึดโครงสร้างนิรภัยอย่างแน่นหนา เบาะนั่ง racing bucket seat สำหรับการแข่งขัน พร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบจุดยึด 6 ตำแหน่ง ทั้งหมดนี้ส่งผลดีต่อน้ำหนักรวมของตัวรถที่เบาอย่างเหลือเชื่อ

ในส่วนของเวอร์ชั่นเริ่มต้น “Trackday” ออกแบบพัฒนาขึ้น เพื่อวัตถุประสงค์สำหรับการใช้งานโดย      นักแข่งในระดับพื้นฐาน ผู้ซึ่งต้องการเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การขับขี่บนสนามแข่งขันความเร็วและการเข้าร่วมกิจกรรม clubsport ต่างๆ ได้โดยไม่ต้องการทีมงานหรืออุปกรณ์สนับสนุนเพิ่มเติม ตัวรถได้รับการติดตั้งโช๊คอัพที่ผ่านการปรับแต่งมาแล้ว รวมทั้งระบบเบรก ABS ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ESC และ traction control เพื่อความมั่นใจในประสิทธิภาพการบังคับควบคุม ทั้งนี้ระบบดังกล่าวสามารถปิดการใช้งานได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกติดตั้ง ระบบปรับอากาศระบบ หลังคานิรภัย rescue hatch อุปกรณ์ดับเพลิงแบบมือถือ และถังน้ำมันเชื้อเพลิงนิรภัย FT3 safety fuel cell ขนาดความจุ 80 ลิตร ทั้งนี้รถแข่งแบบ non-road-homologated ทุกคันสามารถเข้ารับการซ่อมบำรุงได้ที่ศูนย์บริการ Porsche Centre ทุกแห่ง

เวอร์ชัน “Competition” ได้รับการเพิ่มเติมอุปกรณ์และฟังก์ชันการใช้งานที่คำนึงถึง การเข้าร่วมแข่งขันกีฬาความเร็วในระดับอาชีพ โช๊คอัพสามารถปรับแต่งได้ถึง 3 ระดับ ติดตั้งถังน้ำมันเชื้อเพลิงนิรภัยขนาดความจุสูงถึง 115 ลิตร เพื่อรองรับกิจกรรมการแข่งขันที่มีระยะทางยาวไกล ระบบเบรกที่สามารถปรับความสมดุล ระหว่างเบรกคู่หน้าและเบรกคู่หลังได้อย่างอิสระ พร้อมระบบแม่แรงลม air jack เพื่อความรวดเร็วของงานบริการในพิท พวงมาลัยสำหรับการแข่งขันแบบ quick-release ที่ยกมาจาก 911 จีที3 อาร์ (911 GT3 R) เพื่อให้มั่นใจได้ว่า นักแข่งทุกคนสามารถปรับตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดได้ตามต้องการ เสริมด้วยระบบดับเพลิงอัตโนมัติเพิ่มความปลอดภัยเต็มพิกัด

“ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต (Porsche 718 Cayman GT4 Clubsport) แสดงออกอย่างชัดเจน ในฐานะตัวตนของยนตรกรรมสายสนามซึ่งถูกถ่ายทอดพันธุกรรมความแรงจากความสำเร็จอันยอดเยี่ยมของรุ่นก่อนหน้ามาอย่างเต็มที่” ข้างต้นคือคำกล่าวของ Fritz Enzinger หัวหน้าส่วนงานมอเตอร์สปอร์ตของปอร์เช่ “พละกำลังจากเครื่องยนต์ได้รับการปรับแต่งเพิ่มขึ้นมาก พร้อมกับการเพิ่มประสิทธิภาพด้านแรงกดตัวถังและห้องโดยสารที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้ขับขี่มากขึ้นไปอีกระดับ ผมมั่นใจว่าเราจะทำยอดจำหน่ายที่ดีเยี่ยมเช่นเดียวกับรุ่นที่ ผ่านมาซึ่งมีจำนวนรถที่ส่งมอบถึง 421 คัน”
ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต (Porsche 718 Cayaman GT4 Clubsport) เปิดรับคำสั่งซื้อทั้ง 2 เวอร์ชันแล้ววันนี้ และมีกำหนดส่งมอบไปยังทีมแข่งและนักขับทั่วทุกมุมโลกตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป ติดต่อสอบถามราคาจำหน่าย และรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมรถยนต์ปอร์เช่ บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ทุกสาขา

 
รายละเอียดด้านเทคนิคของปอร์เช่ 718 Cayman GT4 Clubsport (Type 982)
 แนวคิดในการพัฒนา

  • รถแข่งความเร็วสูงที่นั่งเดี่ยวจากสายการผลิตปกติ ที่ได้รับการออกแบบให้มีสมรรถนะพื้นฐานใกล้เคียงกับรถแข่งเหนือข้อกำหนด Homologation

ระบบเครื่องยนต์

  • เครื่องยนต์อะลูมิเนียม 6 สูบนอน บ๊อกเซอร์ วางกลางตัวถัง
  • ปริมาตรความจุกระบอกสูบ 3,800 ซีซี; ความสูงการขึ้นลงของลูกสูบ 77.5 มิลลิเมตร ความกว้างกระบอกสูบ 102 มิลลิเมตร
  • พละกำลังสูงสุด: 425 แรงม้า (313 กิโลวัตต์) ที่ 7,500 รอบต่อนาที
  • รอบการทำงานสูงสุด: 7,800 รอบต่อนาที
  • แรงบิดสูงสุด: 425 นิวตันเมตร ที่ 6,600 รอบต่อนาที
  • อัตราส่วนกำลังอัด: 12.5:1
  • ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำออกแบบสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิ สำหรับเครื่องยนต์และชุดเกียร์
  • เทคโนโลยี 4 วาล์วต่อสูบ พร้อมระบบแปรผันการทำงานของเพลาลูกเบี้ยว adjustable camshaft phasing และระบบวาล์วแปรผัน VarioCam Plus
  • น้ำมันเชื้อเพลิง: Super Plus ไร้สารตะกั่ว ค่าออกเทนขั้นต่ำ 98
  • ระบบควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ออกแบบสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ (Continental SDI 9)
  • ระบบน้ำมันหล่อลื่นแบบ Integrated dry sump
  • ระบบกรองไอเสีย 100-cell metal catalytic converter ตามมาตรฐาน DMSB

 ระบบส่งกำลัง

  • ขับเคลื่อนล้อหลัง
  • เกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 6-จังหวะ PDK ควบคุมการทำงานด้วยอิเลกทรอนิกส์ออกแบบสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ
  • ล้อช่วยแรงแบบ Reinforced dual mass
  • ระบบหล่อลื่นแบบ Internal pressure พร้อมระบายความร้อนด้วย active oil cooling
  • ระบบเฟืองท้าย Differential lock ออกแบบสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ

ระบบตัวถัง

  • โครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบา ผลิตจากอะลูมิเนียมและเหล็กกล้า
  • โครงสร้างห้องโดยสารนิรภัย Welded-in roll-cage ได้รับการรับรองมาตรฐาน FIA Art. 277
  • ฝากระโปรงหน้าติดตั้งจุดยึดแบบ quick release
  • ฝากระโปรงหลังติดตั้งจุดยึดแบบ quick release
  • ปีกหลังทรงสูงพร้อมขายึดแบบ “swan neck” ผลิตจากวัสดุ natural-fibre รวมถึง ช่องระบายอากาศด้านข้าง และ ปีกรถที่ผลิตจากวัสดุ carbon-fibre รูปแบบ Gurney flap
  • ประตูรถฝั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารผลิตจากวัสดุ natural-fibre
  • หลังคารถติดตั้งระบบนิรภัย ได้รับการรับรองมาตรฐาน FIA Art. 275a
  • เบาะนั่งสำหรับการแข่งขัน Recaro race bucket seat ปรับระดับความสูง พร้อมระบบ padding สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ (ตามมาตรฐาน FIA Standard 8862/2009 – ข้อกำหนดล่าสุดของ FIA)
  • ระบบแม่แรงลม three-piston air jack (เฉพาะเวอร์ชัน “Competition”)
  • จุดติดตั้งเพิ่มเติมเพื่อรองรับระบบแม่แรงลม three-piston air jack (เฉพาะเวอร์ชั่น “Trackday”)
  • รองรับการติดตั้งตาข่ายนิรภัย
  • ห่วงเกี่ยวสำหรับลากจูงด้านหน้าและด้านหลัง รับรองมาตรฐาน FIA
  • คอนโซลกลางแบบ Motorsport สำหรับการแข่งขัน แสดงข้อมูลฟังก์ชันการทำงานและสามารถปรับแต่งได้
  • เข็มขัดนิรภัยแบบจุดยึด 6 ตำแหน่ง
  • ถังน้ำมันเชื้อเพลิงนิรภัย ขนาดความจุ 115 ลิตร FT3 safety fuel cell พร้อมระบบตัดการจ่ายเชื้อเพลิง “Fuel Cut Off” ชุดวาล์วนิรภัยเป็นไปตามข้อกำหนดของ FIA (เฉพาะ เวอร์ชั่น “Competition”)
  • ถังน้ำมันเชื้อเพลิงนิรภัย ขนาดความจุ 80 ลิตร FT3 safety fuel cell with “Fuel Cut Off” พร้อมระบบตัดการจ่ายเชื้อเพลิง “Fuel Cut Off” ชุดวาล์วนิรภัยเป็นไปตามข้อกำหนดของ FIA (เฉพาะ เวอร์ชั่น “Trackday”)

 
ระบบช่วงล่าง ช่วงล่างด้านหน้า:

  • MacPherson สตรัท สามารถปรับระดับความสูง มุม camber และระยะฐานล้อได้
  • ชิ้นส่วนช่วงล่างแบบ Forged: ให้ความแข็งแรงสูงด้วยจุดยึดแบบ double shear mounting และ high-performance spherical bearings
  • ดุมล้อแบบ 5 ตำแหน่ง
  • โช๊คอัพสำหรับการแข่งขันปรับได้ 3-ระดับ rebound และ 2-stage compression สำหรับความเร็วสูงและความเร็วต่ำ (เฉพาะเวอร์ชั่น “Competition”)
  • โช๊คอัพปรับแต่งสำเร็จจากโรงงาน (เฉพาะเวอร์ชั่น “Trackday”)
  • ระบบพวงมาลัยแปรผันอัตราทดแบบ Electromechanical
  • เหล็กกันโคลง anti-roll bar ดีไซน์แบบ 3-hole

ช่วงล่างด้านหลัง:

  • MacPherson สตรัท สามารถปรับระดับความสูง มุม camber และระยะฐานล้อได้
  • ชิ้นส่วนช่วงล่างแบบ Forged: ให้ความแข็งแรงสูงด้วยจุดยึดแบบ double shear mounting และ high-performance spherical bearings
  • ดุมล้อแบบ 5-ตำแหน่ง
  • โช๊คอัพสำหรับการแข่งขันปรับได้ 3-ระดับ rebound และ 2-stage compression สำหรับความเร็วสูงและความเร็วต่ำ (เฉพาะเวอร์ชั่น “Competition”)
  • โช๊คอัพปรับแต่งสำเร็จจากโรงงาน (เฉพาะเวอร์ชั่น “Trackday”)
  • เหล็กกันโคลง anti-roll bar แบบ blade-type ปรับตั้งได้

 
ระบบเบรก ช่วงล่างด้านหน้า:

  • คาลิเปอร์เบรกอะลูมิเนียม 6 ลูกสูบ โมโนบลอก สำหรับการแข่งขัน พร้อมสปริงลูกสูบแบบ “Anti Knock Back”
  • จานเบรกเหล็กหล่อเซาะร่องแบบ multi-piece พร้อมครีบระบายความร้อน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 380 มิลลิเมตร
  • ผ้าเบรกสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ
  • ระบบปรับสมดุลย์แรงเบรกด้วย balance bar system (เฉพาะ เวอร์ชั่น “Competition”)
  • หม้อลมเบรก (เฉพาะ เวอร์ชั่น “Trackday”)

ระบบเบรกหลัง:

  • คาลิเปอร์เบรกอะลูมิเนียม 6 ลูกสูบ โมโนบลอก สำหรับการแข่งขัน พร้อมสปริงลูกสูบแบบ “Anti Knock Back”
  • จานเบรกเหล็กหล่อเซาะร่องแบบ multi-piece พร้อมครีบระบายความร้อน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 380 มิลลิเมตร
  • ผ้าเบรกสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ
  • ระบบปรับสมดุลแรงเบรกด้วย balance bar system (เฉพาะ เวอร์ชั่น “Competition”)
  • หม้อลมเบรก (เฉพาะเวอร์ชั่น “Trackday”)

ระบบอิเล็กทรอนิกส์:

  • แผงหน้าปัทม์ COSWORTH instrument cluster ICD พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูล integrated data logger
  • ตรวจจับรหัสข้อผิดพลาดด้วยเครื่องมือพิเศษ PIWIS motorsport tester
  • สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน Porsche Track Precision Race App
  • จับเวลารอบสนามด้วย Integrated lap trigger ผ่านสัญญาณ GPS
  • ลิ้นบังคับควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์
  • แบตเตอรี่ lithium-ion (LiFePo) น้ำหนักเบา ขนาด 60 Ah ทนทานต่อการรั่วซึม ติดตั้งภายในบริเวณที่วางเท้า ฝั่งผู้โดยสาร (เฉพาะ เวอร์ชั่น “Competition”)
  • แบตเตอรี่ 12 โวลต์ ขนาด 70 Ah (AGM) ทนทานต่อการรั่วซึม ติดตั้งภายในบริเวณที่วางเท้า ฝั่งผู้โดยสาร (เฉพาะเวอร์ชั่น “Trackday”)
  • สวิทช์ตัดการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงฉุกเฉินติดตั้งภายในห้องโดยสาร และภายนอกห้องโดยสารบริเวณฝั่งซ้ายของกระจกบังลมหน้า
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ PSM (Porsche Stability Management) พร้อมระบบ ABS, traction Control (TC) และ Electronic Stability Control (ESC) สามารถปิดการทำงานได้ทั้งหมด
  • ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง Tyre pressure monitoring system (TPMS)
  • ระบบดับเพลิงฉุกเฉิน ตามข้อกำหนดของ FIA (เฉพาะเวอร์ชั่น “Competition”)
  • ถังดับเพลิงแบบมือถือ (เฉพาะเวอร์ชั่น “Trackday”)
  • ระบบปรับอากาศ
  • กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต CFRP พร้อมระบบจำกัดความเร็ว pit speed limiter และคอพวงมาลัยแบบ quick release coupling (เฉพาะ เวอร์ชั่น “Competition”)
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต พร้อมระบบจำกัดความเร็ว pit speed limiter (เฉพาะเวอร์ชั่น “Trackday”)
  • คอนโซลกลางพร้อมสวิทช์ปรับตั้งการทำงานของระบบ ABS, ESC, TC และสวิทช์ปรับขนาดยางรถยนต์ที่ใช้งาน

น้ำหนัก/มิติตัวถัง:

  • น้ำหนักรวม: 1,320 กิโลกรัม
  • ความยาวรวม: 4,456 มิลลิเมตร
  • ความกว้างรวม: 1,778 มิลลิเมตร
  • ความสูงรวม: 1,238 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ: 2,456 มิลลิเมตร

ล้อและยางรถยนต์คู่หน้า:

  • ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาแบบ forged ชิ้นเดียว ขนาด 9J x 18 offset 28 น็อตล้อ 5-ตำแหน่ง
  • ยาง Michelin transportation สำหรับ การเคลื่อนย้ายและขนส่ง ขนาด: 25/64-18
  • ยาง Michelin สลิก/ยาง wet สำหรับการแข่งขัน ขนาด: 25/64-18

ล้อและยางรถยนต์คู่หลัง:

  • ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาแบบ forged ชิ้นเดียว ขนาด 10.5J x 18.5 offset 53 น็อตล้อ 5-ตำแหน่ง
  • ยาง Michelin transportation สำหรับการเคลื่อนย้ายและขนส่ง ขนาด: 27/68-18
  • ยาง Michelin สลิก/ยาง wet สำหรับการแข่งขัน ขนาด: 27/68-18

สีตัวถัง:

  • สีน้ำ Water-based
  • สีตัวถังภายนอก: สีขาว C9A
  • สีตัวถังภายใน: สีขาว filler-coat ไม่ผสมแลกเกอร์

กำหนดส่งมอบ:
เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2019 เป็นต้นไป

RELATED ARTICLES

Most Popular