นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนพฤษภาคม 2564 ดังต่อไปนี้
การผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนพฤษภาคม 2564 มีทั้งสิ้น 140,168 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 150.14 จากการผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 126.01 และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 193.39 เพิ่มขึ้นจากฐานต่ำปีที่แล้วที่มีการล็อกดาวน์ในเดือนเมษายนและห้ามจัดงานมอเตอร์โชว์ปลายเดือนมีนาคม ทำให้สต็อกรถยนต์ในโชว์รูมยังมีจำนวนมาก บางบริษัทจึงยังไม่มีการผลิตรถยนต์ในเดือนพฤษภาคม แต่การผลิตรถยนต์ในเดือนพฤษภาคมปีนี้ยังสูงกว่าเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 34.32 แต่น้อยกว่าเดือนพฤษภาคม 2562 ก่อนเกิดโควิด 19 ร้อยละ 22.70
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 710,356 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 32.92
รถยนต์นั่ง เดือนพฤษภาคม 2564 ผลิตได้ 44,400 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 120.79
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2564 มีจำนวน 247,263 คัน เท่ากับร้อยละ 34.81 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 21.94
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนพฤษภาคม 2564 ผลิตได้ 0 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 100 รวมเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2564 ผลิตได้ 29 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 68.48
รถยนต์บรรทุก เดือนพฤษภาคม 2564 ผลิตได้ทั้งหมด 95,768 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 166.73 และตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2564 ผลิตได้ทั้งสิ้น 463,064 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 39.66
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนพฤษภาคม 2564 ผลิตได้ทั้งหมด 92,811 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 163.24 และตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2564 ผลิตได้ทั้งสิ้น 450,307 คัน เท่ากับร้อยละ 63.39 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 39.21 โดยแบ่งเป็น
- รถกระบะบรรทุก 107,666 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 90
- รถกระบะดับเบิลแค็บ 286,788 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 66
- รถกระบะ PPV 55,853 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 85
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน – มากกว่า 10 ตัน เดือนพฤษภาคม 2564 ผลิตได้ 2,957 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 356.33 รวมเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2564 ผลิตได้ 12,757 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 57.36
ผลิตเพื่อส่งออก
เดือนพฤษภาคม 2564 ผลิตได้ 81,284 คัน เท่ากับร้อยละ 57.99 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 126.01 ส่วนเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2564 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 411,663 คัน เท่ากับร้อยละ 57.95 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 35.60
รถยนต์นั่ง เดือนพฤษภาคม 2564 ผลิตเพื่อการส่งออก 18,097 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 116.34 และตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2564 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 121,185 คัน เท่ากับร้อยละ 49.01 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 22.44
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนพฤษภาคม 2564 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 63,187 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 128.94 และตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2564 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 290,478 คัน เท่ากับร้อยละ 64.51 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 41.97 โดยแบ่งเป็น
- รถกระบะบรรทุก 35,623 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 84
- รถกระบะดับเบิลแค็บ 226,530 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 34
- รถกระบะ PPV 28,325 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 62
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนพฤษภาคม 2564 ผลิตได้ 58,884 คัน เท่ากับร้อยละ 42.01 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 193.39 และเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ผลิตได้ 298,693 คัน เท่ากับร้อยละ 42.05 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 29.39
รถยนต์นั่ง เดือนพฤษภาคม 2564 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 26,303 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 123.95 ยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2564 ผลิตได้ 126,078 คัน เท่ากับร้อยละ 50.99 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 แล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.47
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนพฤษภาคม 2564 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 29,624 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 286.89 และตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2564 ผลิตได้ทั้งสิ้น 159,829 คัน เท่ากับร้อยละ 35.49 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 34.48 ซึ่งแบ่งเป็น
- รถกระบะบรรทุก 72,043 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 92
- รถกระบะดับเบิลแค็บ 60,258 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 59
- รถกระบะ PPV 27,528 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 02
รถจักรยานยนต์
เดือนพฤษภาคม 2564 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 209,310 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 130,361 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 183,760 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 175.63 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 25,550 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 108.06
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,044,505 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 32.61 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 831,592 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 37.07 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 212,913 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 17.66
ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพฤษภาคม 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 55,942 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 38.4 ขายในประเทศสูงกว่าเพราะฐานต่ำปีที่แล้ว แต่ลดลงจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 3.77 เพราะการระบาดของโควิด 19 ระลอกสาม ประชาชนยังกังวลเรื่องรายได้ในอนาคตรวมทั้งสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อด้วย และยังน้อยกว่าเดือนพฤษภาคม 2562 ร้อยละ 35.76
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 141,881 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 45.75 และเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 6
ตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2564 รถยนต์มียอดขาย 308,221 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ในระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 13.9 ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 711,174 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 17.17
การส่งออก
รถยนต์สำเร็จรูป
เดือนพฤษภาคม 2564 ส่งออกได้ 79,479 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 165.87 ส่งออกเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงเพราะฐานที่ต่ำปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 50.30 เพราะประเทศคู่ค้าเริ่มมียอดขายรถยนต์ในประเทศดีขึ้นเช่น ออสเตรเลียขายรถยนต์เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมปีก่อนร้อยละ 68.3 เวียดนามขายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 34.1 ญี่ปุ่นขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 46.3 อินโดนีเซียขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 1,443 เป็นต้น อย่างไรก็ตามยังส่งออกน้อยกว่าเดือนพฤษภาคม 2562 ร้อยละ16.63
มูลค่าการส่งออก 48,416.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 176.62 เมื่อประเทศคู่ค้าเริ่มมีการผลิตรถยนต์มากขึ้น จึงส่งออกเครื่องยนต์และชิ้นส่วนเพิ่มขึ้นดังต่อไปนี้
- เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 3,685.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 36
- ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 17,713.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ22
- อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,084.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 69
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนพฤษภาคม 2564 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 71,900.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 191.06
เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2564 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 390,467 คัน โดยส่งออกเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ในระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 29.94 มีมูลค่าการส่งออก 221,429.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม2562 ร้อยละ 39.49
- เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 15,732.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 68
- ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 86,065.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม2563 ร้อยละ 03
- อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 9,686.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 66
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2564 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 332,913.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 40.86
รถจักรยานยนต์
เดือนพฤษภาคม 2564 มีจำนวนส่งออก 63,043 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 130.34 87 และเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 5.94 โดยมีมูลค่า 5,294.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 105.59
- ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 274.69
- อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 40.52
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนพฤษภาคม 2564 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 5,601.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 107.23
เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2564 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 392,026 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 24.15 โดยมีมูลค่า 34,547.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 31.10
- ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,035.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 42
- อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 78 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 66.10
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2564 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 36,414.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563 ร้อยละ 32.31
เดือนพฤษภาคม 2564 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 77,501.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 182.79
เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2564 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 369,327.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 39.97
2020 Car Production
อันดับ | ประเทศ | จำนวนคัน | เปลี่ยนแปลง |
1. | จีน | 25,225,243 | -2% |
2. | สหรัฐอเมริกา | 8,822,399 | -19% |
3. | ญี่ปุ่น | 8,027,557 | -17% |
4. | เยอรมัน | 3,742,454 | -24% |
5. | เกาหลีใต้ | 3,506,774 | -11% |
6. | อินเดีย | 3,394,446 | -25% |
7. | เม็กซิโก | 3,176,600 | -21% |
8. | สเปน | 2,268,185 | -20% |
9. | บราซิล | 2,014,055 | -32% |
10. | รัสเซีย | 1,435,335 | -17% |
11. | ประเทศไทย | 1,427,074 | -29% |
12. | แคนาดา | 1,376,623 | -18% |
13. | ฝรั่งเศส | 1,316,371 | -39% |
14. | ตุรกี | 1,297,878 | -11% |
15. | สาธารณรัฐเช็ก | 1,159,151 | -19% |
16. | อังกฤษ | 987,044 | -29% |
17. | สโลวาเกีย | 985,000 | -11% |
18. | อิหร่าน | 880,997 | 7% |
19. | อิตาลี | 777,165 | -15% |
รถยนต์ไฟฟ้ากลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน7คนประเภทต่างๆที่จดทะเบียนสะสมในประเทศไทย ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 เพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 ธันวาคม 2563 มีดังนี้
ประเภทรถ | จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมถึง ณ วันที่ 31 พ.ค. 64 | จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมถึง ณ วันที่ 31 ธ.ค. 63 | เพิ่ม/ ลด |
รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV)* | 2,798 | 2,079 | +719 (+35%) |
รถยนต์ไฟฟ้าแบบผสม (HEV)* | 170,566 | 154,115 | +16,451 (+11%) |
รถยนต์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV)* | 27,165 | 24,115 | +3,050 (+13%) |
รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) | 4,464 | 3,128 | +1,336 (+43%) |
รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบผสม (HEV) | 8,237 | 7,236 | +1,001 (+14%) |
รถโดยสารไฟฟ้า | 122 | 120 | +2 (+2%) |
รถบรรทุกไฟฟ้า | 1 | – | – |
หน่วย (คัน)
เฉพาะรถยนต์ไฟฟ้ากลุ่มรถยนต์นั่งไม่เกิน7คน ที่จดทะเบียนใหม่ในห้าเดือนแรกของปี 2564 มี 735 คันเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เท่านั้น
เดือน | ปี 2564 | ปี 2563 | เพิ่ม/ลด |
มกราคม | 155 | 265 | -110 (-42%) |
กุมภาพันธ์ | 132 | 184 | -52 (-28%) |
มีนาคม | 172 | 120 | +52 (+43%) |
เมษายน | 124 | 96 | +28 (+29%) |
พฤษภาคม | 152 | 61 | +91 (+149%) |
ทั้งหมด | 735 | 726 | +9 (+1%) |