สัมผัสครั้งล่าสุดกับ NISSAN KICKS e-POWER ที่ได้รับการปรับแต่งออฟชั่นใหม่ รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยี e-POWER เจนเอนเรชั่นที่ 2 พร้อม e-Pedal Step ที่ทำให้การขับขี่ง่าย และราบรื่น ทั้งยังเพิ่มเติมในส่วนของเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง Nissan’s 360° SAFETY SHIELD แบบครบครัน การเดินทางในครั้งนี้ ปลายทางไม่ห่างกรุงกับเขื่อนรัชโลธร จ.ชลบุรี
สำหรับ NISAN KICKS e-POWER ที่ได้นำมา บริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เพื่อเป็นพาหนะในการเดินทางครั้งนี้เป็นรุ่น VL มากับสีทูโทนราคาค่าตัว 920,000 บาท กระจังปรับใหม่ในรูปแบบ V Motion ที่โฉบเฮี่ยวยิ่งขึ้น ชายล่างรอบคัน ติดตั้งวัสดุสีโครเมี่ยม ล้อแมก 5 ก้าน หุ้มยาง 205/55 R 17 พร้อมดิสเบรก 4 ล้อ
โคมไฟหน้าติดตั้งระบบปรับไฟสูง/ต่ำ อัตโนมัติ มีเรดาร์ที่โลโก้และกล้องประมวลผล บริเวณกระจกหน้าที่มาของระบบประมวลผลเทคโนโลยี Nissan Intelligent Mobility ไฟท้ายปรับปรุงใหม่ มีสปอยเลอร์บนหลังคาพร้อมเสาอากาศแบบครีบฉลาม
ห้องโดยสารปรับไม่มาก มีโฟในห้องโดยสารหรือ Amblient Light ปรับได้ 7 สี ปรับปรุงใหม่พร้อมกับระบบขับเคลื่อน e-POWER เจนเนอเรชั่นที่ 2 และเพิ่มเติมในส่วนชอง Wiress Charger เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน กระจกหน้าเป็นแบบดูดซับเสียง เบาะนั่งหุ้มหนังที่มีคุณสมบัติไม่อมความร้อน เบาะหลังยกระดับแบบ Theater Seat พับได้แบบ 60:40
ชุดมาตรวัดแสดงผลผ่านหน้าจอ 7 นิ้ว หน้าจอทัซสกรีนขนาด 8 นิ้ว แสดงภาพจากกล้องมองหลังพร้อมระบบ Nissan’s 360° SAFETY SHIELD ซึ่งทีเด็ดอยู่ที่ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวรอบคัน
เครื่องยนต์ HR12DE ขนาด 1.2 ลิตร แถวเรียงแบบ DOHC (Double Overhead Camshaft) 12 วาล์ว 3 สูบ รับภาระในการสร้างพลังงาน ก่อนจะส่งไปยังเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (Inverter) ซึ่งคอยควบคุมพลังงาน และระบบขับเคลื่อนอี-พาวเวอร์ เจเนอเรชั่น 2 ได้พัฒนาให้มีน้ำหนักเบาลง 30% เพิ่มขนาดแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนเป็น 2.06 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 30% เทียบกับรุ่นก่อนหน้า ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ซึ่งมากับอัตราบริโภคที่ประหยัดถึงเกือบ 24 กม./ลิตร
ระบบช่วงล่างหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม ซึ่งทั้งหน้าและหลังมีการติดตั้งเหล็กกันโคลงมาให้เสร็จสรรพ สภาพเส้นทางที่นำมาทดสอบในครั้งนี้ถือว่าตอบโจทย์ เพราะนอกขจากทางโค้ง ยังมีเนินชัน และหลุมบ่อ พอให้ได้ลองในเรื่องการยึดเกาะถนน
ระบบช่วยซับแรงสั่นสะเทือนที่รักษาสมดุลของตัวรถทำให้ลดการโยนตัว และระบบควบคุมเสถียรภาพต่างๆ แม้ว่าช่วงล่างจะเซทมาให้มีความนุ่มนวล แต่พอได้รวมระบบต่างๆมาช่วย ทำให้ห้องโดยสารมีเสถียรภาพและมีการซับแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การปรับปรุงใหม่ในครั้งนี้บังรวมไปถึงระบบความปลอดภัยอย่างระบบเตือนออกนอกช่องทางพร้อมดึงกลับ ที่ทำงานได้นุ่มนวลกว่าเดิม ยังมีที่ควบรวมอีกเพียบ
เทคโนโลยีควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (Intelligent Cruise Control – ICC)
เทคโนโลยีเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW)
เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking – IEB)
เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW)
เทคโนโลยีเตือนรถในทางสวนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert – RCTA
เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM)
เทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection – MOD)
เทคโนโลยีอัจฉริยะที่จะช่วยให้ผู้ขับมองเห็นพื้นที่ข้างรถได้รอบทิศทางผ่านกล้อง 4 จุด รอบคัน
เทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ (Intelligent Rear View Mirror – IRVM)
เทคโนโลยีช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA)
เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamic Control – VDC)
เทคโนโลยีช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ (Intelligent Ride Control – IRC)
เทคโนโลยีช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง (Intelligent Trace Control – ITC)
ปลายทางก็อิ่มพุงกับเมนูปลาสดที่ร้านอาหารน้ำ กับ ฟ้า ริมขอบอ่างเก๊บน้ำรัชโลธร อ.เกาะจัน จ.ชลบุรี รวมถึงได้บทสรุปสำหรับการเดินทางกับ Nissan Kick e-Power รุ่น VL ที่ได้ทำการปรับแต่งรูปโฉมให้มีความสปอร์ต เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนอี-พาวเวอร์ เจเนอเรชั่น 2 ที่ปรับมาได้นุ่มนวล ขับสบาย ระบบช่วยเหลือต่างๆก็ทำให้การเดินทางสะดวกสบายและปลอดภัย อีกหนึ่งแต้มต่อที่รถรุ่นนี้ ไม่จำเป็นต้องจองคิวเข้ารับบริการอัดประจุไฟ สโลแกนใหม่กับ “The One And Only That’s Power and fuel eFFicient ตันเดียวที่ใช่ ทั้งแรงและประหยัด” ตอบโจทย์ได้อย่างสมราคาและลงตัว