Ford Ranger Raptor X กระบะพันธุ์แกร่งที่ได้รับการตกแต่งใหม่ โดยนำเทรนของรถแข่งจากทีมแข่งฟอร์ด พร้อมเพิ่มประโยชน์จากอุปกรณ์ที่ได้รับการติดตั้งใหม่ สำหรับกิจกรรมกลางแจ้งตามสไตล์ของคุณ การทดสอบในครั้งนี้จะโพกัสไปกับเส้นทางลุยหนัก และจะใช้ระบบ Terrain Management System ช่วยในการทำให้รอดพ้นจากอุปสรรคในทางโคลน ผลจะเป็นอย่างไร…ติดตามได้จากรายงาน
Ford Ranger Raptor X ถือเป็นรุ่นตกแต่งใหม่ในโอกาสครบรอบ 25 ปี ที่ บริษัท ฟอร์ด เซลส์ ประเทศไทย จำกัด ได้ดำเนินกิจการมา ซึ่งวาระพิเศษนี้จึงได้ทำการตกแต่งกระบะพันธุ์แกร่งตัวลุยด้วยสติ๊กเกอร์รอบคันสไตล์ Over the Top พร้อมชุดหูลากด้านหน้าสีแดง
กระจังหน้าพร้อมกันชนรวมถึงคิ้วซุ้มล้อได้รับการตกแต่งใหม่ ในส่วนล้ออัลลอยหุ้มยาง BF Goodrich All-Terrain KO2 ขนาด 285/70 R17
ชุดตกแต่งสีดำรอบคัน ติดตั้งที่มือจับประตูภายนอกและ กระจกมองข้าง ด้านหลังมีโรลบาร์ทรงเอ ฝาท้ายมีการติดตั้งระบบช่วยผ่อนแรง
ภายในห้องโดยสาร ปรับปรุงเล็กน้อยด้วยการเดินตะเข็บด้ายสีแดงแทนสีน้ำเงิน วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร Raceway Hydrographic มือเปิดประตูภายในห้องโดยสาร สีดำ Black Alley
เบาะนั่งหุ้มหนัง ตรงกลางเป้นผ้ากำมะหยี่มีการปักฉลุ Raptor ในส่วนผู้ขับขี่ปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้า
พวงมาลัยหุ้มหนังเย็บด้ายแดงเป็นแบบมัลติฟังค์ชั่น มีแป้นแพดเดิลชิฟท์อยู่ที่ด้านหลัง ชุดมาตรวัดเป็นจอ TFT ขนาด 4 นิ้ว
จอกลางขนาด 8 นิ้ว มาพร้อมระบบปฏิบัติการซิงค์ 3 ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบ Apple Carplay และ android Auto
สำหรับเครื่องยนต์ไม่ได้รับการปรับเปลี่ยนหรืออัพเกรด โดยใช้ขุมพลังดีเซล เทอร์โบคู่ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า พร้อมแรงบิด 500 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ที่สามารถปรับอัตราทดในรูปแบบก้าวกระโดด ซึ่งจะช่วยในการตอบสนองต่อการใช้งาน และประหยัดเชื้อเพลิงไปในตัว
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมาพร้อมกับระบบ Terrain Management System ซึ่งประกอบไปด้วย 6 รูปแบบการใช้งานทั้ง Sport Normal Mud Glass Rock และ Baja พร้อมอาวุธลับจากเฟืองท้ายระบบ Elecltronic Locking Rear Differencial
ระบบช่วงล่างเป็นแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ ด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังเป็นแบบวัตต์ ลิงค์ มากับโช๊คอัพและสปริงจาก Fox
ตัวช่วยการขับขี่ไม่ได้เพิ่มเติมอะไรมา ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System) และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
มาเข้าสู่การทดสอบกันเลย ในครั้งนี้เป็นการลุยหนักบนสภาพทางโคลนซึ่งพระเอกของงานนี้ ต้องยกความดีความชอบไปให้กับระบบ Terrain Management System เพราะเพียงแค่ปรับโหมดไปตามสภาพเส้นทาง
เริ่มออกเดินทางกันด้วยความครึ้มฟ้าครึ้มฝน ซึ่งก่อนหน้านี้ ฝนก็กระหน่ำจนจุดหมายปลายทางสาหัสขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากเส้นทางที่เป็นดินโคลน เสี่ยงต่อการติดหล่ม
การใช้งานบนทางหลวงถือว่าเป็นรถที่มีสมรรถนะทรงพลัง และอาจจะใหญ่โตจนคับช่องทางไปสักนิด แต่การควบคุมก็ทำได้อย่างมั่นใจ พร้อมการยึดเกาะถนนประสิทธิภาพสูงจากระบบรองรับของ Fox
การเปลี่ยนเกียร์ในรูปแบบก้าวกระโดดที่ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และแป้นแพดเดิลชิฟท์บริเวณหลังพวงมาลัยมีขนาดใหญ่ สั่งการได้ถนัดมือ แต่อาจต้องสร้างความคุ้นเคยกับระบบเกียร์สักนิดในขณะถอนคันเร่ง
พระเอกในทางลุยอย่างเทคโนโลยี Terrain Management System ที่ประกอบไปด้วย 6 รูปแบบการใช้งาน ในครั้งนี้จะไปอยู่ที่โหมด Baja เพราะใช้ความเร็วได้ และสภาพเส้นทางนั้นเละไปด้วยโคลน เรียกง่ายๆว่าเดินยังลำบาก
แต่หากยังไม่มีแรงพอจะที่จะนำรถให้หลุดจากหล่มโคลน ระบบล๊อกเฟืองท้ายก็จะสามารถเพิ่มแรงตะกุย เพื่อให้พ้นอุปสรรคนั้นได้อย่างตลอดรอดฝั่ง
ทริพนี้ถือเป็นการเคาะสนิมบนเส้นทางลุยที่ไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมากนัก เพราะระบบต่างๆที่มีมากับ Ford Ranger Raptor X นั้นสามารถช่วยให้ฟันฝ่าอุปสรรคหลากรูปแบบได้อย่างปลอดภัย
การปรับปรุงใหม่ในครั้งนี้ถือว่าเป็นการเพิ่มทันสมัยให้กับตัวรถ และมีอุปกรณ์เพิ่มเติมบางอย่างท่มีไว้สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง และราคาค่าตัว 1.729 ล้านบาท ปรับเพิ่มจากเดิม 30,000 บาทก็ถือว่าสมเหตุสมผล เพียงแต่หากมี Adaptive Cruise Control มาให้อีกสักระบบ ก็น่าจะเฟอร์เฟคมากยิ่งขึ้น