New Nissan Almera อีโค่คาร์รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ต สะดุดตากับโลโก้ใหม่ที่มาพร้อมกับความกว้างขวางของห้องโดยสาร เพิ่มเติมความหรูหราจากการหุ้มหนัง Quole Modure ขุมพลัง 3 สูบขนาด 1.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลัง 100 แรงม้าพร้อมเกียรือัตโนมัติ CVT ยอกจากนี้ยังมีระบบ Nissan Connect ที่สามารถเชื่อมต่อโลกออนไลน์ไว้กับตัวรถ รวมถึง Nissan Intelligent Mobility ที่รวมความปลอดภัยไว้มากมายหลายระบบเข้าไว้ด้วยกัน ในครั้งนี้เป็นการทดลองเดินทางในเมืองกับสถานที่ชิวๆ เรื่องราวต่างๆรับชมได้จากรายงาน
New Nissan Almera 2023 ที่ใช้ในการเดินทางครั้งนี้สะดุดตาไปกับ สีเทา เกรย์ สกาย เพริ์ล รวมถึงหลังคาทูโทน ต้องเพิ่มเงินจากราคาตัวรถ (699,000 บาท) อีกประมาณ 15,000 บาท ก็จะได้ลูคส์เท่ และ สปอร์ต จากด้านหน้าที่เปลี่ยนใหม่ยกชุด กระจังหน้าในรูปแบบของ V Motion
โลโก้รุ่นใหม่ประจำการทั้งด้านหน้าและด้านท้าย มีการติดตั้งระบบ Auto High Beam แต่ DRl ส่วนล้อขนาด 15 นิ้ว ที่ยังมีรูปแบบใกล้เคียงเดิม กุญแจเปลี่ยนจากรูปแบบหยดน้ำที่ใช้มานานหลายปีเป็นรูปแบบใหม่ พ่วงระบบ Nissan Connect Service เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อควบคุมและสั่งการระบบต่างๆของรถยนต์ ทั้ง สตาร์ทเครื่องยนต์ เปิดแอร์ เช็คสถานะของรถยนต์ แจ้งเตือนการโจรกรรม รวมถึงแจ้งเตือนการเข้ารับบริการ
คอนโซลและแผงข้างแบบบุนุ่มให้ผิวสัมผัสพรีเมี่ยม บกระดับความหรูหราด้วยเบาะนั่งหนังแท้ Quole Modure มีคุณสมบัติเป็นตัวช่วยในการระบายความร้อนให้กับห้องโดยสาร
กระจกมองหลังเป็นแบบตัดแสงสะท้อน ใกล้กันมีกล่องสัญญาณ SoS ในกรณีเกิดอุบัติเหตุจนผู้ขับขี่และผู้โดยสารช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ระบบนี้จะแจ้งเตือนอัตโนมัติไปยังศูนย์ช่วยเหลือเพื่อประสานงานกับโรงพยาบาล หรือทีมกู้ภัย
ชุดมาตรวัดดิจิตอลแสดงการงานของฟีเจอร์เพื่อความสะดวกสบายและปลอดภัย ซึ่งประมวลผลจากกล้องและเรดาร์ที่ติดตั้งไว้รอบคัน มีมาตรวัดระดับลมยาง ครูสคอนโทล ระบบเตือนออกนอกเลนส์พร้อมสั่นเตือนที่พวงมาลัยเพิ่มเติมมาให้
จอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบ IOS และ Endroid Auto รวมถึงติดตั้ง Wiress Charger ให้เสร็จสรรพ
ขุมพลังขนาด 1.0 ลิตร 3 สูบ อัดอากาศด้วยเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้า พร้อมแรงบิด 152 นิวตันเมตร ที่ 2,400-4,000 รอบต่อนาที พร้อมการันตีความประหยัดตามอีโค่สติกเกอร์อยู่ที่ 23.3 กม./ลิตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ในเวลา 12.8 วินาที
ระบบส่งกำลังยังคงเป็นแบบ CVT ที่มาพร้อม D-Steplogic พร้อมปุ่ม Sport และช่วงล่างหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท หลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม
เทคโนโลยี Nissan Intelligent Mobility มาแบบจัดเต็ม นอกจากถุงลมนิรภัย 6 จุด ยังมีอีกเพียบทั้ง กล้องรอบทิศทาง,ระบบเตือนจุดบอด พร้อมเสียงเตือน,ระบบเตือนก่อนการชน ซึ่งนอกจากเตือนยังทำการเบรคอัตโนมัติ และตัวช่วยเพื่อความปลอดภัยขณะถอย
ครั้งนี้อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นว่าเป็นทริพชิว เดินทางในเมือง ซึ่งในอดีตก่อนหน้าเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา เคยได้นำไปทดสอบในการเดินทางไกล ระยะทางราว 250 กม.
สำหรับการใช้งานในเมือง แน่นอนว่ารถอีโค่คาร์นั้นถูกผลิตให้ใช้งานในเมืองเป็นหลัก นอกจากรูปลักษณ์ที่ได้ปรับใหม่ ห้องโดยสารที่กว้างขวางก็ถือเป้นจุดเด่น แถมมีการติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนังแท้ Quole Modure ซึ่งช่วยลดความร้อนสะสม ยังพิเศษตรงที่เบาะหลังมีความสูงกว่าด้านหน้าในรูปแบบ Theater Seat ผู้โดยสารตอนหลังจะมองเห็นทัศนวิสัยที่กว้างขึ้นกว่าเดิม จึงส่งผลให้ลดอาการเมารถเมื่อต้องเดินทางไกล และด้วยการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารจากกระจกแบบ Acoustic Glass ส่งผลให้ห้องโดยสารเงียบ ลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้เป็นอย่างดี
ชุดมาตรวัดแสดงผลผ่านจอดิจิตัล และแสดงค่าการทำงานของเทคโนโลยี Nissan Intelligent Mobility ซึ่งเพิ่มเติมในส่วนครูสคอนโทรล และเตือนออกนอกเลนพร้อมสั่นเตือนที่พวงมาลัย
Nissan Connect Service ช่วยให้ผู้ใช้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะสามารถเชื่อมต่อกับรถเข้ากับสมาร์ทโฟน พร้อมสั่งการควบคุมได้อีกหลายฟีเจอร์ แม้ว่าจอดรถกลางแดด ก็ช่วยให้ห้องโดยสารเย็นสบายได้ด้วยระบบนี้
จอทัชสกรีนแสดงภาพได้ชัดเจน รวมถึงฟังค์ชั่นตรวจจับความเคลื่อนไหวรอบคันถือเป้นคุณสมบัติเด่น ซึ่งยังเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้ง Apple Carplay และ Endroid Auto
ขุมพลังขนาดความจุเพียง 1.0 ลิตร 100 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อม Shift on ในกรณีต้องการเร่งแซง ทั้งนอกและในเมือง พละกำลังเหลือเฟือต่อการใช้งาน
New Nissan Almera ถือเป็นช้อยท์ที่น่าสนใจไม่น้อย สรุปสั้นๆคือออฟชั่นจัดเต็ม รูปลักษณ์ทันสมัย ขุมพลังขนาดเล็ก ประหยัดน้ำมัน แต่ก็มีแรงเหลือเพียงพอต่อการใข้งาน ราคาจำหน่ายที่ตั้งไว้ 699,000 บาท สำหรับสีพิเศษ และ หลังคาทูโทนสีดำ เพิ่มอีก 15,000 บาท แบบนี้ถึงโดนใจ