Ford Ranger 2021 และ Ford Everest 2021 โดดเด่นด้วยการปรับรูปโฉมใหม่ เพิ่มความโฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ต ดุดัน พร้อมเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้นซึ่งรับประกันนาน 10 ปี หรือ 150,000 กม. ด้านระบบป้องกันความปลอดภัยและเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกเต็มคัน รวมถึงสีภายนอกใหม่สุดเร้าใจ ในราคาเริ่มต้น 669,000 บาท สำหรับ Ford Ranger XL Street ส่วนรุ่นท๊อพ Wildtrak 4×4 10AT ราคา 1,265,000 บาท และ Ford Everest เริ่มต้นที่ราคา 1,299,000 บาท ในรุ่น Trend ไปตนถึงรุ่นท๊อพ Titanium+ ราคา 1,799,000 บาท ติดตามรีวิวได้เลยครับ
นายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว “ฟอร์ดพร้อมตอกย้ำการเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ของไทยอีกครั้งด้วยการแนะนำฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ในฐานะรถยนต์ที่สะท้อนนิยามการใช้ชีวิตที่แตกต่างและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อื่น ซึ่งเป็นรูปแบบการใช้ชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ของลูกค้าฟอร์ด”
“เรามั่นใจว่าความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงรูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้าฟอร์ด จะทำให้เราประสบความสำเร็จในการมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่โดนใจให้กับลูกค้า เพื่อต่อยอดความสำเร็จด้านยอดขาย และตอบแทนความไว้วางใจที่ลูกค้ามอบให้กับแบรนด์ฟอร์ดตลอดมาได้อย่างดีที่สุด” นายวิชิต กล่าวเสริม
Ford Ranger 2021 มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่สไตล์สปอร์ต ดุดัน พร้อมหลากหลายอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์และครอบคลุมการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ซึ่งรวมถึง
กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ทรงสี่เหลี่ยมคางหมูตกแต่งตะแกรงสีดำ สื่อถึงพลังและสมรรถนะในรุ่น XL, XL Street, XL+, XLT และไวลด์แทรค
ล้ออัลลอยสีดำและกระจกข้างสีดำในรุ่น XL+ Sport, XL Street, XLT และไวลด์แทรค
มือจับประตูสีดำในรุ่น XL+ Sport, XLT และไวลด์แทรค
อุปกรณ์เสริมใหม่ แผ่นเปิด-ปิดฝากระบะท้ายด้วยระบบไฟฟ้า (Power roller shutter) เป็นครั้งแรกสำหรับ Ford Ranger Wildtrak เฉพาะรุ่น
ฟอร์ดยังได้เปิดตัว Ford Ranger XL Street ใหม่ กระบะตอนครึ่งตัวเตี้ยแต่งพิเศษ เป็นรุ่นย่อยใหม่ล่าสุด ด้วยดีไซน์สปอร์ตรอบคันสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการออกแบบที่โดดเด่น มีสไตล์ ผลงานของทีมดีไซเนอร์ของฟอร์ดจากออสเตรเลีย
สำหรับรถรุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งฟอร์ด เรนเจอร์ ของทีมฟอร์ด ไทยแลนด์ เรสซิ่ง (Ford Thailand Racing – FTR)
Ford Ranger XL Street มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร ผสานเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และตัวเลือกสีภายนอก 4 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน ไลท์นิ่ง บลู สีเงินอะลูมิเนียม เมทัลลิค สีขาวอาร์กติก ไวท์ และสีดำแอบโซลูท แบล็ค
สำหรับ Ford Everest 2021 ยังคงเดินหน้าสร้างมาตรฐานใหม่ในตลาดรถยนต์นั่งแบบอเนกประสงค์ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะด้านความปลอดภัยและความสามารถในการขับขี่ไปได้ทุกเส้นทาง ทั้งบนถนนและแบบออฟโรด เพื่อให้ผู้รักการผจญภัยสามารถพิชิตได้ทุกอุปสรรค
Ford Everest ใหม่ เป็นการต่อยอดความสำเร็จของฟอร์ด เอเวอเรสต์ สปอร์ต ด้วยดีไซน์สไตล์สปอร์ตที่โฉบเฉี่ยวและดุดัน กระจังหน้าอันเป็นเอกลักษณ์ ตัวอักษรนูน ‘Everest’ บนฝากระโปรงหน้า พร้อมมือจับ กระจกข้าง และล้ออัลลอยใหม่สำหรับรุ่นเทรนด์ มอบตัวเลือกสีภายนอกใหม่ สีขาว สโนว์ เฟลก ไวท์ เพิร์ล สำหรับฟอร์ด เอเวอเรสต์ สำหรับรุ่นเทรนด์, ไทเทเนี่ยม และไทเทเนี่ยม พลัส และสีน้ำเงินดีพ คริสตัล บลู สำหรับรุ่นสปอร์ต
ในด้านขุมพลังและระบบส่งกำลังมีการพัฒนาขึ้นอีกขั้น โดยมีการเปลี่ยนทั้งฝาหน้าเครื่องและกระบอกสูบ รวมถึงปั๊มเกียร์ที่ให้ความแข็งแกร่งทนทานยิ่งขึ้นกว่าเดิม
มีให้เลือกถึง 2 รูปแบบ 3 ขนาด เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร โดดเด่นด้วยการออกแบบทางวิศวกรรมขั้นสูงและเทคโนโลยีล้ำสมัย ส่งมอบพลังและแรงบิดที่เหนือชั้น มากับระบบอัดอากาศแบบ Bi-Turbo ทำงานผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ให้พละกำลังสูงสุดถึง 213 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร
เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า พร้อมแรงบิด 420 นิวเมตร
เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ให้แรงบิด 385 นิวตันเมตร
ส่วนด้านระบบส่งกำลัง มีทั้งแบบ อัตโนมัติ และ ธรรมดา 6 จังหวะ ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Bi-Turboจะเป็นแบบอัตโนมัติ 10 จังหวะ สำหรับ Wildtrak จะเป็นรุ่นเดียวที่ใช้เครื่อง 2.0 ลิตร เทอร์โบ เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ
ซึ่งฟอร์ดพร้อมมอบความอุ่นใจหลังการซื้อ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ และ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ด้วยการมอบการรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนาน 10 ปี หรือ 150,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) โดยจะครอบคลุมกลุ่มเครื่องยนต์ กลุ่มส่งกำลัง และกลุ่มเพลาขับ สำหรับลูกค้าที่จองและออกรถฟอร์ดตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2563 ลูกค้าสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับประกันนี้ได้ที่ www.ford.com/Ford-DrivelineCare
สำหรับราคาจำหน่าย Ford Ranger 2021 เริ่มต้นที่ราคา 669,000 บาท สำหรับ Ford Ranger XL Street ส่วนรุ่นท๊อพ Wildtrak 4×4 10AT ราคา 1,265,000 บาท และ Ford Everest เริ่มต้นที่ราคา 1,299,000 บาท ในรุ่น Trend ไปจนถึงรุ่นท๊อพ Titanium+ ราคา 1,799,000 บาท
รายละเอียดการปรับปรุงในแต่ละรุ่น มีดังนี้
Ford Ranger Wildtrak
-กระจังหน้าแบบใหม่ ตะแกรงสีดำตัดขอบด้วยสีส้ม Saber พร้อมโลโก้ฟอร์ดสีดำสไตล์สปอร์ต ที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับรุ่นไวลด์แทรคเท่านั้น
-ล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว
-มือเปิดประตู
-กรอบกระจกมองข้าง
-ช่องลมข้างบังโคลน
-ราวหลังคา
-สปอร์ตบาร์
-กันชนหลัง
-ไฟหน้าที่ออกแบบมาให้สีเข้มขึ้น
-เบาะนั่งดีไซน์ใหม่ทำด้วยหนัง และ หนังสังเคราะห์
-ชุดปิดฝากระบะท้ายควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า (Power roller shutter) เป็นสำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค เฉพาะรุ่น
-เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น มาพร้อมการรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนาน 10 ปี หรือ 150,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
-เหนือระดับด้วยเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่ (Advanced-Driving Assist Technology)
Ford Ranger XL Street
-สติ๊กเกอร์รอบคัน ออกแบบโดยทีมฟอร์ดดีไซน์ จาก ออสเตรเลีย โดยได้รับแรงบันดาลใจด้านการดีไซน์มาจากกระบะรถแข่ง ฟอร์ด เรนเจอร์ จากทีม Ford Thailand Racing (FTR)
-ชุดแต่งสีดำ ประกอบไปด้วย กระจังหน้าตะแกรงสีดำใหม่ตัดขอบด้วยสีแดงสไตล์สปอร์ตของ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ และล้ออัลลอย 16 นิ้วสีดำ
-มอบประสบการณ์ความบันเทิงที่มีประสิทธิภาพ และใช้งานสะดวกด้วยหน้าจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple Car Play และ Android Auto มีระบบเชื่อมต่อบลูทูธ ช่องต่อ USB 2 จุด และระบบเครื่องเสียงที่มีลำโพงถึง 6 ตำแหน่ง
-มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีน้ำเงินไลท์นิ่ง บลู, สีเงินอะลูมิเนียม เมทัลลิค, สีขาวอาร์กติก ไวท์ และสีดำแอบโซลูท แบล็ค
-เครื่องยนต์ ดีเซล 2.2 ลิตร เกียร์ธรรมดา 6 สปีด กำลังสูงสุด 160 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตันเมตร
-อุ่นใจตลอดการเดินทางด้วยระบบช่วยโทรฉุกเฉิน Emergency Assistance
Ford Ranger XL+ Sport
-กระจังหน้าตะแกรงสีดำดูดุดันและโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น
-ล้ออัลลอยสีดำ 17 นิ้ว พร้อมกันชนหลัง
-ล็อคประตู และปลดล็อคได้ด้วยกุญแจรีโมตอัจฉริยะ
-มอบประสบการณ์ความบันเทิงที่มีประสิทธิภาพ และใช้งานสะดวกด้วยจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple Car Play และ Android Auto มีระบบเชื่อมต่อบลูทูธ ช่องต่อ USB 2 จุด และระบบเครื่องเสียงที่มีลำโพงถึง 6 ตำแหน่ง
-เครื่องยนต์ ดีเซล 2.2 ลิตร เกียร์ธรรมดา 6 สปีด กำลังสูงสุด 160 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตันเมตร
-ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน Emergency Assistance
Ford Ranger XLT 2.2 ลิตร
-กระจังหน้าตะแกรงสีดำตัดขอบด้วยโครเมี่ยม
-กระจกมองข้าง มือจับประตู และกันชนหลังสีดำเงา
-เบาะหนัง โดยด้านคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง
-เครื่องยนต์ ดีเซล 2.2 ลิตร เกียร์ธรรมดา 6 สปีด กำลังสูงสุด 160 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตันเมตร
-ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control
-ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA
-ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM
อุปกรณ์ชุดแต่งแท้จากฟอร์ด
สำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบการแต่งรถสามารถนำไปตกแต่งให้รถมีรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวดุดันตามสไตล์
-ชุดกระจังหน้า F.O.R.D
-ชุดคิ้วโป่งล้อพร้อมหมุดโลโก้ฟอร์ดขนาด 6 นิ้ว
-อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์แบบไร้สาย
-ชุดผ้ายางปูพื้นห้องโดยสารพร้อมโลโก้ Ford Performance
Ford Everest Titanium
-กระจังหน้าใหม่
-ตัวอักษรนูน ‘Everest’ บนฝากระโปรงหน้า
-เพิ่มความหรูหราด้วย มือจับประตูภายนอก และกระจกมองข้างสีโครเมียม บันไดข้างสีดำ พร้อมชุดตกแต่งสีเงิน
-เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น มาพร้อมการรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนาน 10 ปี หรือ 150,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
Ford Everest Titanium+
-กระจังหน้าใหม่
-ตัวอักษรนูน ‘Everest’ บนฝากระโปรงหน้า ด้วยวัสดุโครเมียม
-มือจับประตูภายนอก และกระจกมองข้างสีโครเมียม บันไดข้างสีดำ พร้อมชุดตกแต่งสีเงิน
-หลังคา panoramic moonroof และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน
-เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น มาพร้อมการรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนาน 10 ปี หรือ 150,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
-เทคโนโลยีช่วยในการขับขี่ (Advanced-Driving Assist Technology)
-ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control
-ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ Active Park Assist
-ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน AEB with Pedestrian Detection Autonomous Emergency Braking with Pedestrian Detection
-ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning System
-ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane Keeping System
-ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ Auto High Beam Control
-ระบบตรวจจับลมยาง Tire Pressure Monitoring System
อุปกรณ์มาตรฐานและความปลอดภัย ในฟอร์ด เอเวอเรสต์ ทุกรุ่น
-กุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Keyless Entry)
-ปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ (Push Start)
-ระบบสั่งงานด้วยเสียงรุ่นใหม่ล่าสุด ซิงค์ 3 (SYNC 3) ที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียง เป็นภาษาไทย รองรับ Apple Car Play และ Android Auto
-Airbags 7 ตำแหน่ง สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและหลัง พร้อมกล้องมองหลัง
-ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control
-ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน
-ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM
Ford Everest มาพร้อมสีภายนอกใหม่ สีขาว สโนว์ เฟลก ไวท์ เพิร์ล สำหรับรุ่นเทรนด์, ไทเทเนี่ยม และไทเทเนี่ยม พลัส และสีน้ำเงินดีพ คริสตัล บลู สำหรับรุ่นสปอร์ต
พบกับ Ford Ranger 2021 และ Ford Everest 2021 ได้ทุกโชว์รูมทั่วประเทศ