New MG 5 กับการปรับปรุงใหม่ ซึ่งรถที่นำมาทดลองในครั้งนี้เป็นรุ่น D+ ซึ่งแตกต่างจากรุ่นท๊อพเพียงเล็กน้อยในเรื่องของฟีเจอร์การใช้งาน แต่ภาพรวมทั้งภายนอก ภายใน แทบไม่ต่าง โดยราคาค่าตัวเพียง 679,000 บาท และก็เป็นอีกครั้งที่เป็นการตามหาอาหารอร่อย บรรยากาศดีย่านชานเมืองกับร้าน Hub Alholic ติดตามรับชมเรื่องราวต่างๆได้เลย
เอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำ NEW MG 5 (MY2022) รุ่นD+ ถือเป็นรุ่นที่ปรับใหม่ หลังจากที่ล่าแต้มยอดขายทะลุ 10,000 คัน ในเวลาเพียง 3 เดือน ซึ่งมองจากภาพรวมแล้วแทบไม่ต่างไปจากรุ่น X ที่เป็นรุ่นท๊อพไลน์ ซึ่งครบครันด้วยออปชั่น ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ ที่โดดเด่นด้วยกระจังหน้าสีทูโทน เพิ่มความสุนทรีย์ในการขับขี่ด้วยหลังคาซันรูฟ (Sunroof) รวมถึงล้อลายซิ่งสีทูโทน ขนาด 17 นิ้ว
ห้องโดยสารแต่งสีทูโทนสไตล์สปอร์ต พร้อมหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว ในด้านความสะดวกสบายที่คำนึงถึงทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร กับเบาะปรับไฟฟ้าด้านคนขับแบบ 6 ทิศทาง ไฟส่องสว่างที่นั่งแถวหลัง และที่เก็บแว่นตา ขับขี่ปลอดภัย มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยระบบ Cruise Control และกล้องรอบคันแบบ 3 มิติ
แต่ในส่วนของ I-Smart ที่เป็นส่วนของคำสั่งเสียง ถูกถอดออก รวมถึงเนวิเกเตอร์ติดรถก็เช่นกัน แต่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้ง แอปเปิลคาร์เพลย์ และ เอนดรอยด์ ออโต้ และไม่พลาดที่จะติดตั้งช่องระบายความเย็นไว้ให้กับผู้โดยสารแถวหลัง แต่ไวเลทชาร์จเจอร์ และช่องเสียบชาร์จแบบ Type Z ไม่ได้รับการติดตั้งมาให้
ชุมพลังในการขับเคลื่อนใช้แบบเดียวกับ MG ZS ในรูปแบบของเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด พร้อมระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION ด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่น บีม รวมถึงระบบที่ส่งเสริมการขับขี่ในด้านต่างๆ ให้ทั้งประสบการณ์การขับขี่และความมั่นใจ
การเดินทางครั้งนี้เราใช้เส้นทางชานเมืองในการสัมผัส ซึ่ง New MG 5 D+ เป็นรถที่ควบคุมได้ง่าย นำหนักของพวงมาลัยสามารถปรับได้ 3 ระดับ และทีเด็ดที่ได้เปรีบคู่แข่งนั่นคือ ความกว้างขวางของห้องโดยสาร ที่ขนาดใกล้เคียงกับเซกเมนต์ที่สูงกว่า แต่ในเรื่องเสียงในห้องโดยสารอาจจะมีเข้ามารบกวนเล็กน้อย แต่ก็ต้องใช้ความเร็ว 100 กม./ชม.ขึ้นไป
ในด้านอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาประมาณ 14 วินาที ซึ่งค่อนข้างช้าไปนิด แต่ในเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 17 กม./ลิตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างประหยัด
ปลายทางที่ว่าเป็นร้านอาหารนั้นอยู่บริเวณ ถนนเทพรักษ์ ย่านสะพานใหม่ กับ “Hub Alholic” ร้านอาหารที่รังสรรค์เมนูหลากหลาย และจัดจ้าน ภายใต้มาตรฐานความสะอาด บรรยากาศติดทะเลสาบใหญ่มีลมเย็นพัดผ่านตลอดวัน
ในช่วงกลางค่ำจะมีดนตรีสดขับกล่อม สำหรับหมูคณะ หรือครอบครัวที่หาสถานที่ดื่มด่ำในวันพิเศษ พร้อมการบริการแบบไม่ขาดตกบกพร่อง ร้านนี้ถือเป็นคำตอบ ซึ่งได้ทั้งอาหารอร่อย และ บรรยากาศดีๆ
ส่วน New MG 5 ในรุ่น D+ แม้ออฟชั่นจะไม่ครบครันเท่ารุ่น X แต่ที่มีมาให้ก็เพียงพอ ที่ใช้งานบ่อยๆ ทั้งเบรกมือไฟฟ้า และ Auto Hold อัตราเร่งอาจจะไม่จี๊ดจ๊าดสักเท่าไหร่ แต่ความสะดวกสบายของห้องโดยสาร และความประหยัดเชื้อเพลิง 30,000 บาท ที่ต้องเพิ่มเพื่อให้ได้รุ่นท๊อพ เอาเงินส่วนนี้ไปตกแต่งเสริมความสปอร์ตกับส่วนอื่นก็น่าจะดี