Haval H6 Hybrid SUV เอสยูวีแบรนด์น้องใหม่ที่ติดสอยตำแหน่งแชมป์ยอดจำหน่ายจากจีนแผ่นดินใหญ่ เตรียมขายในเมืองไทยด้วยรูปลักษณ์โดดเด่น กว้าง ใหญ่ พ่วงฟีเจอร์ทันสมัยถึง 22 ระบบ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังลูกผสม ระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 เทอร์โบ กับ มอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 243 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงถึง 530 นิวตันเมตร พิเศษด้วยระบบส่งกำลังที่มีให้ทั้งเครื่องยนต์ และ มอเตอร์ไฟฟ้า เหลือลุ้นเพียงอย่างเดียวคือราคาจำหน่าย รอลุ้นช่วงเดือนมิถุนายน รายละเอียดทั้งหมด…ติดตามได้จากรายงาน
ถือกำเนิดในเมืองไทยอย่างเต็มตัวโดยมีการเทคโอเวอร์โรงงานผลิตของเชฟโรเลต์ที่จ.ระยอง และผนึกกำลังกับผุ้แทนจำหน่ายเดิม เตรียมเปิดโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ 17 แห่ง และจะกลายเป็น 30 แห่งในปีนี้ ซึ่งเมื่องานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ผ่านมา ได้สร้างกระแสแรงเกี่ยวกับการเป็นแบรนด์รถไฟฟ้าซึ่งมีโปรดักส์ในเครือของ GWM: Great Wall Motor มาจัดแสดงถึง 3 แบรนด์ ได้แก่ Ora Haval และ GWM Pick Up
สำหรับ Haval ในประเทศจีนนั้นเป็นแบรนด์ที่สามารถรักษายอดขายอันดับหนึ่งติดต่อกันถึง 11 ปี โดยจะเริ่มทำตลาดในบ้านเราช่วงเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป
รถยนต์รุ่นแรกที่จะเปิดตลาดในเมืองไทยนั่นคือ Haval H6 Hybrid SUV ที่มากับรูปลักษณ์ที่ต้องเรียกว่าทิ้งคราบของความเป็นจีนไปโดยสิ้นเชิง เพราะได้การออกแบบสไตล์ยุโรปจาก Phil Simmons หัวหน้าทีมออกแบบที่รั้งตำแหน่งรองประธานบริษัท ซึ่งสะท้อนถึงความหรูหรา ประณีต และทันสมัย
Haval H6 Hybrid SUV ถือว่าเป็นรถเอสยูวีที่มีขนาดตัวรถที่ใหญ่ จากความยาว 4,653 มม. กว้าง 1,886 มม. สูง 1,730 มม. ในขณะที่ฐานล้อกว้าง 1,738 มม. ซึ่งถ้าเอามิติมาเทียบกับคู่แข่งที่มาจากชาติเดียวกัน ถือว่าเป็นต่อในทุกมิติ ยาวกว่า 79 มม. กว้างกว่า 10 มม. และสูงกว่า 60 มม. รวมถึงฐานล้อกว้างกว่า 60 มม.
รูปลักษณ์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ กระจังหน้าออกแบบเรียบหรูในรูปแบบลวดลายตาข่ายที่หุ้มโครเมียมแวววับ บริเวณโลโก้จะมีกล้องเพื่อใช้ประมวลผลการทำงานของอีกหลายฟีเจอร์
ไฟหน้าเป็นแบบ LED Headlamp ที่รวมทุกอย่างไว้ในโคมเดียวกัน แต่แยกไฟตัดหมอกมาไว้ที่มุมกันชนทั้ง 2 ฝั่ง และที่กันชนทั้งหน้าและหลังมีการฝังเซนเซอร์ไว้รอบคัน
เส้นสายรอบตัวรถออกแบบให้มีสไตล์ ล้อเป็นทูโทนลาย 5 ก้านคู่หุ้มยาง Goodyear ขนาด 235/50R19 และบนหลังคามากับพาโนรามิคซันรูฟขนาดใหญ่
ท้ายรถออกแบบให้มีกลิ่นอายของรถยุโรป ชุดไฟหรี่ใช่หลอดแอลอีดีทอดยาวจากฝั่งซ้ายไปถึงฝั่งขวา มีโลโก้ Haval สีโครเมียม มากับสปอยเลอร์ที่ฝังไฟเบรกดวงที่ 3
ห้องโดยสารกว้างขวาง ก้าวแรกที่เข้าไปด้านในแอบนึกถึง IRON MAN เพราะมีการใช้สีดำ เบส และ ทอง ซึ่งตั้งไฟในห้องโดยสารสีแดง
เบาะนั่งแต่งแบบทูโทนเช่นกัน คู่หน้าปรับเซ็ทเป็นด้วยไฟฟ้า เก๋ไก๋ด้วยเบาะผู้โดยสารที่มีปุ่มปรับเบาะ 2 ตำแหน่ง แต่ไม่มีหน่วยความจำ เบาะหลังสามารถพับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระ
พวงมาลัยมัลติฟังค์ชั่นหุ้มขอบด้วยหนังแท้ หน้าจอมาในสไตล์ Full Digital ที่มีจอแสดงข้อมูลขนาดใหญ่ ติดตั้งแบบลอยตัว แสดงการทำงานของระบบต่างๆในด้านความปลอดภัยและสะดวกสบายถึง 22 ฟังค์ชั่น อาทิ กล้องมองภาพ 360 องศา ระบบควบคุมความเร็วและแปรผันตามรถคันหน้า ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ และระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง เป็นต้น
จอกลางก็ขนาดมหึมาเช่นเดียวกัน และยังให้ภาพที่คมชัด นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้ง Android Auto และ Apple Car Play ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ มีช่องแอร์ด้านหลัง มาพร้อมตัวกรอง N95 ทั้งยังมี Wiress Charger ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ถัดมาเป็นเกียร์แบบหมุน ไม่มีทั้งบวก/ลบที่เกียร์ และ Paddle Shift ที่พวงมาลัย แต่ยังดีที่มีเบรกมือไฟฟ้าและ Brake Hold
ขุมพลังที่ใช้เป็นการทำงานแบบลูกผสมระหว่าง เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร กับ กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 243 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร พิเศษตรงที่ชุดส่งกำลัง มีทั้งของเครื่องยนต์เป็นแบบ Dual Clutch 7 จังหวะ และอีกหนึ่งชุดเป็นระบบส่งกำลังที่ใช้กับมอเตอร์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ
ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท หลังแบบดับเบิลวิชโบน ซึ่งมาพร้อมดิสเบรคทั้ง 4 ล้อ รวมถึงโหมดการขับขี่ 4 รูปแบบ ได้แก่ Normal Eco Sport และ Wet
ราคาจำหน่ายของ Haval H6 Hybrid SUV จะเปิดเผยอย่างเป็นทางการอีกครั้งในช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่ง Autoworldthailand จะรีบนำมาเสนอให้ได้รับทราบข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้งเร็วๆนี้แน่นอน