Friday, December 27, 2024
HomeAuto Tips5 เรื่องสุดจึ้งของ New HAVAL JOLION Sport รถเอสยูวีไฮบริดที่มาแรงและคุ้มค่าคุ้มราคาในขณะนี้

5 เรื่องสุดจึ้งของ New HAVAL JOLION Sport รถเอสยูวีไฮบริดที่มาแรงและคุ้มค่าคุ้มราคาในขณะนี้

เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) หลังจากเปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2566 New HAVAL JOLION Sport ได้พลิกโฉมวงการเอสยูวีด้วยดีไซน์คมเข้ม ดุดัน พร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม คุ้มค่าด้วยการขับเคลื่อนแบบเครื่องยนต์ไฮบริดตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ โดยตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมาล้วนได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้บริโภค ปลุกเร้าสปิริตในการขับขี่ให้ Rise Up Your Spirit เร้าทุกมิติ สปอร์ตทุกเส้นทาง อย่างแท้จริง กับ 5 สิ่งที่คาดไม่ถึงที่เจ้าสิงโตอารมณ์ดีได้คำรามบนท้องถนนและมอบความว้าวแล้วเกือบกว่า 2,000 คันทั่วไทย

Haval Jolion 2

ไม่พูดถึงไม่ได้ นี่คือเอกลักษณ์ในด้านดีไซน์ที่ล้วนเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค ที่ต่างตกหลุมรักในการออกแบบตั้งแต่แรกเห็นของ New HAVAL JOLION Sport ที่ผสานการออกแบบทั้งภายใน-ภายนอกได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกสปอร์ตเต็มขั้น เท่ และ ดึงดูดทุกสายตาได้เป็นอย่างดี สะท้อนอารมณ์สปอร์ตให้ผู้ขับขี่ได้ทะยานไปทุกเส้นทาง ด้วยกระจังหน้า Black Symmetric ในดีไซน์สีดำล้วน พร้อมโลโก้ HAVAL โดดเด่นด้วยไฟหน้าดีไซน์เอกลักษณ์ เข้าถึงความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวไปอีกขั้นด้วยดิฟฟิวเซอร์ดีไซน์ล้ำ ผสมผสานกับการจับคู่กับโทนสี ALL BLACK ของห้องโดยสารภายใน รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งภายนอกอย่าง กระจกมองข้าง และชุดราวหลังคา (Roof Rail) เติมเต็มอารมณ์สปอร์ตด้วยการตกแต่งด้วยเส้นสายสีเงิน และวัสดุสัมผัส SOFT-TOUCH ที่ผสานความสะดวกสบาย ความสง่างาม และความลํ้าสมัยในหนึ่งเดียว สะท้อนลุคสปอร์ตกับมิติความสวยงามจากด้านหน้านอกตัวรถที่ส่งผ่านมาจนถึงด้านหลัง กับไฟท้าย LED พร้อมไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED เต็มระบบ การันตีความเท่กับ 3 เฉดสีขายดีสะท้อนลุคสปอร์ตได้แก่ สีดำ (Sun Black) สีเทา (Ayers Gray) และสีขาว (Hamilton White)

Haval Jolion  3

ขับสนุกด้วยพลังเครื่องยนต์แบบไฮบริด ผสานเข้ากับการทํางานอย่างลงตัวกับระบบเกียร์ DHT (Dedicated Hybrid Transmission) สมรรถนะที่เต็มเปี่ยมด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 375 นิวตันเมตร โดยระบบเกียร์แบบ DHT นี้สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริดด้วยกันถึง 4 โหมด ได้แก่ โหมดมาตรฐาน โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด และโหมดพื้นหิมะ นอกจากนี้ชุดเกียร์แบบ DHT ยังมีน้ำหนักเบา ช่วยลดน้ำหนักรวมของตัวรถได้ พร้อมด้วยอัลกอริทึมการควบคุมขั้นสูงซึ่งปรับการทำงานของระบบให้มีความเหมาะสม นอกจากนี้ New HAVAL JOLION Sport ยังมาพร้อมกับ ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท (MacPherson Strut) ซึ่งเป็นระบบกันสั่นสะเทือนช่วงล่างที่จะทำให้เกิดความนุ่มนวลขณะขับขี่ อีกทั้งยังช่วยให้รถสามารถยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดี รวมถึงรักษาสมดุลของรถขณะที่อยู่บนถนนที่ไม่ราบเรียบได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังมาพร้อมกับ ระบบช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชันบีม (Vertical Arm Torsion Beam) ซึ่งนับว่าเป็นช่วงล่างที่มีน้ำหนักเบาและมีขนาดเล็ก ซึ่งทำให้ห้องโดยสารภายในรถมีพื้นที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุก สปอร์ต ราบรื่นแต่เร้าใจในทุกการเดินทาง

Haval Jolion 4

New HAVAL JOLION Sport กับราคาเพียง 799,000 บาท เรียกได้ว่ามีออปชันสุดแรงครบครัน คุ้มค่าเกินราคาสำหรับรถในเซกเมนต์เดียวกัน มอบประสบการณ์ขับขี่ที่เต็มไปด้วยความบันเทิงตลอดทั้งเส้นทางด้วยระบบความบันเทิงแบบจัดเต็มทั้งหน้าจอมัลติมีเดียแบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ลําโพงจำนวน 6 ตําแหน่ง ที่รองรับ Apple Carplay, Android Auto, Bluetooth, และ MP3 อีกทั้งยังพร้อมมอบความสะดวกสบายให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารในระดับพรีเมียมเกินคาดด้วยเบาะหนังสังเคราะห์ดีไซน์สปอร์ตที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทุกสรีระ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เพื่อช่วยจัดท่านั่งให้สบายและอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นวิสัยทัศน์ได้ดีที่สุด และเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับได้ถึง 4 ทิศทาง และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลังอีกด้วย นอกจากนี้ อีกหนึ่งความคุ้มค่าที่จะได้รับ คือ ความอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ความสะดวกสบายได้เป็นอย่างดี ทั้งห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบาย รวมถึงเบาะที่นั่งด้านหลังที่สามารถพับและปรับได้ทั้งแบบ 60:40 รวมถึงแบบเรียบ พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระที่จุได้มากถึง 1,069 ลิตร ตอบโจทย์ทุกการใช้งานและทุกการเดินทางได้อย่างเต็มรูปแบบ

Haval Jolion 5

หลากหลายเสียงสะท้อนจากผู้ใช้งาน New HAVAL JOLION Sport ตอกย้ำถึงความคุ้มค่าของรถคันนี้ด้วยความมั่นใจในเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะโดยเฉพาะด้านความปลอดภัยที่ให้มากับตัวรถอย่างครบครัน เช่น เทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะให้ผู้ขับขี่สามารถเร่งหรือชะลอความเร็วได้เพียงคันเร่งเดียว (Intelligent Single Pedal), กล้องแสดงภาพขณะถอยหลังที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในทุกมุมมองรวมถึงเพิ่มความชัดเจนในทุกการถอยหลัง, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (CC – Cruise Control), ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่, ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง, ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM – Second Collison Mitigation) โดยรถจะพยายามรักษาเสถียรภาพเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน, ระบบลดความเสี่ยงที่รถจะพลิกคว่ำ (ARS – Anti-Rollover System) และระบบช่วยเหลือการขับขี่อื่น ๆ อีกมากมาย มอบความมั่นใจและความปลอดภัยแบบรอบด้านให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารในทุกการเดินทาง

Haval Jolion 6

นอกจากความคุ้มค่าที่ New HAVAL JOLION Sport มอบให้ในเรื่องของเทคโนโลยีการขับขี่และความหลากหลายในการใช้งานแล้ว ตอกย้ำความคุ้มค่ายิ่งขึ้นและมอบความอุ่นใจยิ่งกว่า ด้วยการรับประกันคุณภาพรถใหม่นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร รวมถึงการรับประกันแบตเตอร์รี่ไฮบริดนานถึง 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง สำหรับด้านการบริการหลังการขาย เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงมุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์การบริการหลังการขายในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าด้วย GWM Smart Service ผ่านการนำเทคโนโลยีเข้ามาเชื่อมต่อแพลตฟอร์มต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลได้อย่างแท้จริง

Haval Jolion 7

นี่คือ 5 เหตุผลที่ยืนยันว่า New HAVAL JOLION Sport เป็นรถไฮบริดเอสยูวีที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่งของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ทั้งเรื่องราคาที่จับต้องได้ รวมถึงดีไซน์เท่ สปอร์ตทันสมัย ดึงดูดทุกสายตา ผสมผสานกับเทคโนโลยีการขับขี่สุดล้ำและพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนไทย และการดูแลที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ มอบให้ลูกค้าผ่านการบริการหลังการขายที่ครอบคลุม นอกจากนี้เจ้าสิงโตอารมณ์ดีสายสปอร์ตคันนี้ยังมาพร้อมกับข้อเสนอพิเศษ ได้แก่ ฟรี ประกันภัยชั้น 1 และแพ็กเกจบำรุงรักษา GWM Pro Service Inclusive (GPSI) นาน 5 ปี พร้อมเลือกรับข้อเสนอ ดอกเบี้ย 0.99% นาน 48 เดือน หรือ ฟรี ชุดอุปกรณ์ฝาท้ายไฟฟ้าพร้อมติดตั้ง และฟรี ฟิล์มกรองแสงลามิน่า รุ่น CM ONE สามารถทดลองขับและจับจองเพื่อเป็นเจ้าของ New HAVAL JOLION Sport ได้แล้ววันนี้ ที่ GWM Partner Store ทั่วประเทศ

Haval Jolion 9

เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์ ในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV Leader) และบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลก (Global Intelligent Technology Company) ด้วยการเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยในปี 2567 รวมถึงปีถัด ๆ ไป เพื่อเติมเต็มระบบนิเวศและอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้ทัดเทียมระดับสากลควบคู่ไปกับการตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของผู้บริโภคชาวไทย

RELATED ARTICLES

Most Popular