Friday, November 8, 2024
HomeAuto Newsตลาดรถยนต์กรกฎาคมชะลอตัว ยอดขายรวม 52,442 คัน ลดลง 11.6%

ตลาดรถยนต์กรกฎาคมชะลอตัว ยอดขายรวม 52,442 คัน ลดลง 11.6%

นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกรกฎาคม 2564 ชะลอตัวทุกเซ็กเมนท์ โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 52,442 คัน ลดลง 11.6% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 16,689 คัน ลดลง 9.8% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 35,753 คัน ลดลง 12.4% ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 27,816 คัน ลดลง 15% 

  • ประเด็นสำคัญ

ตลาดรถยนต์เดือนกรกฎาคม 2564 มีปริมาณการขาย 52,442 คัน ลดลง 11.6% โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 9.8% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 12.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สืบเนื่องจากความวิตกกังวลต่อภาวะการระบาดของไวรัส COVID-19 ระลอกที่ 3 และ 4 อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา และการระบาดของสายพันธุ์ Delta ที่แพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดิม ทำให้มีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส จึงมีมาตรการขยายพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดจากเดิมจาก 10 จังหวัด เป็น 13 จังหวัด ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต การดำเนินธุรกิจของประชาชน และมีส่วนทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ชะลอการตัดสินใจซื้อสิ้นค้าทุกประเภทที่ยังไม่ความจำเป็น

ตลาดรถยนต์ในเดือนสิงหาคมมีแนวโน้มชะลอตัว เนื่องจากความกังวลต่อการระบาดของไวรัส COVID-19 ในระลอกที่ 4 รวมทั้งการออกมาตรการล็อกดาวน์และเคอร์ฟิวในช่วงเวลา 21.00 – 04.00 น. เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัส COVID-19 เป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ต้องชะลอ หรือเลื่อนกำหนดการออกไป รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่มีเสถียรภาพน้อยลง และการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่ล่าช้าส่งผลให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยชะลอตัว และขาดแรงกระตุ้นในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในอนาคต ทั้งนี้ยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจโดยรวม และทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อรถยนต์ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดียังมีความหวังว่าสถานการณ์ต่างๆ จะฟื้นตัวดีขึ้นจากความพยายามของภาครัฐในการแก้ไขปัญหา และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในอนาคตอันสั้น

  • ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกรกฎาคม 2564
  1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 52,442 คัน ลดลง 6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า17,040 คันลดลง 2.9%ส่วนแบ่งตลาด 32.5%
อันดับที่ 2 อีซูซุ13,680 คันลดลง 11.6%ส่วนแบ่งตลาด 26.1%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า6,958 คันเพิ่มขึ้น15.3%ส่วนแบ่งตลาด 13.3%

 

  1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 16,689 คัน ลดลง 8%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า6,065 คันเพิ่มขึ้น 16.3%ส่วนแบ่งตลาด 36.3%
อันดับที่ 2 โตโยต้า4,467 คัน ลดลง11.4%ส่วนแบ่งตลาด 26.8%
อันดับที่ 3 มาสด้า1,278 คันลดลง 32.9%ส่วนแบ่งตลาด  7.7%

           

  1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 35,753 คัน ลดลง 4%
อันดับที่ 1 อีซูซุ13,680 คัน ลดลง11.6%ส่วนแบ่งตลาด 38.3%
อันดับที่ 2 โตโยต้า12,565 คันเพิ่มขึ้น0.4%ส่วนแบ่งตลาด 35.1%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด2,121 คันลดลง8.4%ส่วนแบ่งตลาด  5.9%

 

  1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 27,816 คัน ลดลง 15%
อันดับที่ 1 อีซูซุ12,401 คันลดลง13.4%ส่วนแบ่งตลาด 44.6%
อันดับที่ 2 โตโยต้า10,563 คันเพิ่มขึ้น1.3%ส่วนแบ่งตลาด 38.0%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด2,121 คันลดลง8.4%ส่วนแบ่งตลาด  7.6%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 2,695 คัน
โตโยต้า 1,103 คัน – อีซูซุ 943 คัน – มิตซูบิชิ 394 คัน – ฟอร์ด 229  คัน – นิสสัน 26 คัน

  1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 25,121 คัน ลดลง 5%
อันดับที่ 1 อีซูซุ11,458 คันลดลง17.0%ส่วนแบ่งตลาด 45.6%
อันดับที่ 2 โตโยต้า9,460 คันลดลง0.2%ส่วนแบ่งตลาด 37.7%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด1,892 คัน เพิ่มขึ้น0.1%ส่วนแบ่งตลาด  7.5%

 

  • สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564
  1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 425,633 คัน เพิ่มขึ้น 7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า134,225 คันเพิ่มขึ้น20.1%ส่วนแบ่งตลาด 31.5%
อันดับที่ 2 อีซูซุ106,845 คัน เพิ่มขึ้น16.7%ส่วนแบ่งตลาด 25.1%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า49,673 คันเพิ่มขึ้น4.9%ส่วนแบ่งตลาด 11.7%

               

  1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 137,040 คัน ลดลง 9%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า42,651 คันเพิ่มขึ้น 7.3%ส่วนแบ่งตลาด 31.1%
อันดับที่ 2 โตโยต้า34,170 คัน ลดลง 2.3%ส่วนแบ่งตลาด 24.9%
อันดับที่ 3 นิสสัน12,546 คันลดลง 15.1%ส่วนแบ่งตลาด  9.2%

              

  1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 288,593 คัน เพิ่มขึ้น 6%
อันดับที่ 1 อีซูซุ106,845 คันเพิ่มขึ้น16.7%ส่วนแบ่งตลาด 37.0%
อันดับที่ 2 โตโยต้า99,981 คันเพิ่มขึ้น30.2%ส่วนแบ่งตลาด 34.6%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด18,417 คันเพิ่มขึ้น33.1%ส่วนแบ่งตลาด  6.4%

            

  1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 224,750 คัน เพิ่มขึ้น 12.9%
อันดับที่ 1 อีซูซุ97,422 คันเพิ่มขึ้น31.3%ส่วนแบ่งตลาด 43.3%
อันดับที่ 2 โตโยต้า84,704 คันเพิ่มขึ้น22.0%ส่วนแบ่งตลาด 37.7%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด18,417 คันเพิ่มขึ้น 38.6%ส่วนแบ่งตลาด  8.2%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 30,637 คัน
โตโยต้า 13,411 คัน – อีซูซุ 10,335 คัน – มิตซูบิชิ 3,926 คัน – ฟอร์ด 3,926 คัน – นิสสัน 199 คัน

  1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 194,114 คัน เพิ่มขึ้น 4%
อันดับที่ 1 อีซูซุ87,087 คันเพิ่มขึ้น7.0%ส่วนแบ่งตลาด 44.9%
อันดับที่ 2 โตโยต้า71,293 คัน เพิ่มขึ้น20.6%ส่วนแบ่งตลาด 36.7%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด15,652 คันเพิ่มขึ้น38.4%ส่วนแบ่งตลาด  8.1%

 

RELATED ARTICLES

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

Most Popular