ทริพฉลองปิดเทอมที่ได้นำ Nissan Terra เป็นพาหนะในครั้งนี้เกิดขึ้นบนระยะทางไม่ถึง 100 กม. โดยมีปลายทางอยุ่ที่อ.แก่งคอย จ.สระบุรี กับสถานที่เที่ยวชิวๆที่เรียกกันว่า “ชะอม” การเดินทางในรูปแบบ One Day trip พร้อมสัมผัสสมรระนะของรถยนต์เพื่อการเดินทางของครอบครัวที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่นนั้นจะมีอะไรน่าสนใจ เรื่องราวทั้งหมดพร้อมให้ติดตาม
https://youtu.be/T4NldlE0pvE
รถที่ใช้ในการเดินทางกับ Nissan Terra VL 4X4 มาพร้อมความหรูหราจากกระจังที่ออกแบบให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เส้นโครเมียมแนวนอนด้านในกระจังช่วยเสริมบุคลิกที่หรูหรา รับกับเส้นสายที่ต่อเนื่องจากฝากระโปรง เสริมแผ่นกันกระแทกด้านล่างที่เป็นสีเงิน ตามสไตล์เอสยูวีทันสมัย
ไฟหน้า Quad LED 4 ดวง ดีไซน์ใหม่ ประสิทธิภาพสูงให้ความสว่างมากขึ้นถึง 34% ไฟ Daytime Running Light และ ไฟตัดหมอกใช้เป็น LED ประสิทธิภาพสูง
ขณะที่ด้านท้ายถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่สปอยเลอร์บนหลังคาจนถึงชายกันชนด้านล่าง ฝาท้ายเพิ่มความหรูหรา ด้วยการใช้วัสดุโครเมียม และชิ้นส่วนสีเงิน ขณะที่ไฟท้ายลดความสูง และเพิ่มความกว้าง โดยเป็นไฟ LED แบบ Light Guide เส้นคู่ และไฟเบรกก็เป็นแบบ LED เช่นกัน
ฝาประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมเซนเซอร์ด้านใต้กันชนหลัง (Auto Lift Gate) ในขณะที่ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารของ เทอร์ร่า ใหม่ เพิ่มฉนวนลดเสียงรบกวนทุกจุดสำคัญของโครงสร้างของรถ และเป็นรุ่นเดียวในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ระดับเดียวกันที่มีการติดตั้งกระจกตอนหน้าและประตูคู่หน้าแบบ Acoustic Glass
คอนโซลกลางดีไซน์ใหม่ และเปลี่ยนมาใช้เบรกมือไฟฟ้า รวมถึงสามารถเพิ่มพื้นที่ที่วางแขนพร้อมช่องเก็บของที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และปุ่มควบคุมการปรับและพับเบาะนั่งแถว 2 ได้มีการปรับปรุงใหม่เช่นกัน
ห้องโดยสารมาพร้อมทางเลือกของการตกแต่งแบบทูโทน ทั้งโทน สีดำ-แดงเบอร์กันดี (Burgundy) หรือ โทน สีดำ-เบจ
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังรูปทรง D-shape แบบสปอร์ต ปรับอัตราทดใหม่ มีปุ่มควบคุมการทำงานของรถ มารวัดใช้จอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว สามารถปรับตั้งการทำงานของระบบต่าง ๆ ได้ผ่านปุ่มควบคุมที่พวงมาลัย มีให้เลือกทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
หน้าจอสัมผัสระบบเครื่องเสียง Display Audio ใหม่ขนาด 9 นิ้ว ดีที่สุดในรถระดับเดียวกัน เพิ่มความคมชัดในการใช้งานด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยลดแสงสะท้อนของหน้าจอด้วยความละเอียดที่สูงขึ้นกว่าเดิมที่ระดับ WXGA (1024×768) พร้อมด้วยระบบนำทาง (Navigation System) ระบบสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Recognition) และ เครื่องเสียงจาก Bose Premium Audio System ซึ่งนิสสันร่วมกับ Bose ออกแบบการจัดวางลำโพงทั้ง 8 ตำแหน่ง และแอมพลิฟายเออร์
เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้ง 2 ระบบ แต่ Apple CarPlay เป็นแบบไร้สาย (Wireless Apple CarPlay) เพิ่มความสะดวกอย่างปลอดภัย สามารถใช้งานผ่านบลูทูธได้โดยไม่จำเป็นต้องต่อสายชาร์จอีกต่อไป รวมถึงเทคโนโลยีชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charger) ให้กำลังการชาร์จไฟสูง 15 วัตต์ ติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลหน้า เพียงแค่วางสมาร์ทโฟน แถมยังมีช่องชาร์จ USB สำหรับผู้โดยสารแถวทีสาม โดยทั้งคันมี USB-A 3 จุด และUSB-C 2 จุด
กระจกมองหลังติดตั้งระบบ Intelligent Rear View Mirror มาใช้เป็นรายแรก ซึ่งเป็นการติดกล้องความละเอียดสูงที่กระจกบานหลัง ให้จุดเด่นด้านความปลอดภัยตลอดการขับขี่ เสริมทัศนวิสัยที่ดีขึ้นในทุกสภาพ เพิ่มความชัดเจนแม้มีผู้โดยสารตอนหลัง หรือ สัมภาระขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังให้มุมมองที่กว้างกว่ากระจกมองหลังทั่วไป ให้ความชัดเจนแม้ในขณะฝนตกหนัก หรือแม้กระทั้งรถที่ติดฟิล์มมืดสนิทกว่าปกติ
หน้าจอหลังขนาดใหญ่ 11 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง สามารถสตรีมมิ่งช่องโปรด เช่น NetFlix และ YouTube ผ่านช่อง HDMI ได้อย่างง่ายดาย
ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ รหัสYS23DDTT ขนาดความจุ 2.298 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,750 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นแบบ five-link coil spring rear suspension system
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นแบบมือหมุน มีการติดตั้งอาวุธลับอย่างระบบ Electronic Locking Rear Differential (Diff-Lock) ช่วยกระจายกำลังไปยังล้อหลังทั้ง 2 ข้างเพื่อเสริมกำลังฉุดให้ขับออกจากหล่มหรือในสถานการณ์ที่ต้องการแรงบิดสูงในโหมด 4L ได้ง่ายขึ้น และระบบป้องกันการลื่นไถล Brake Limited Slip Differential (B-LSD) โดยระบบจะส่งแรงไปยังล้อที่ลื่นไถลให้การออกตัวที่ลื่น พร้อมกระจายแรงขับขี่ไปที่ล้อแต่ละข้างเมื่อขับขี่ในโหมด 4H
ขณะที่ระบบเบรกใหม่ ดิสก์เบรกหน้า และ หลัง ขนาดใหญ่พร้อมครีบระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ
นิสสัน 360° เซฟตี้ ชิลด์ (360° Safety Shield Technology) เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ใน นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ ทำให้ทุกการขับขี่ เป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย
เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM) จะทำงานทันทีที่เริ่มขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับมองเห็นพื้นที่ข้างรถได้รอบทิศทางผ่านกล้อง 4 จุดรอบคัน กล้องทุกตัวจะจับภาพขณะเคลื่อนไหวจริง และแสดงผลเป็นภาพมุมสูงแบบ Bird’s-eye View ผ่าน หน้าจอเครื่องเสียงกลางคอนโซลขนาด 9 นิ้ว ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน Moving Object Detection (MOD) ซึ่งทำหน้าที่ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบบุคคลหรือวัตถุที่กล้องรอบคันจับการเคลื่อนไหวได้ โดยจะปรากฏบนหน้าจอเครื่องเสียงกลางคอนโซล ช่วยให้การขับรถในสถานการณ์ต่าง ๆ ง่ายยิ่งขึ้น
พิเศษขึ้นไปอีก สำหรับ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ รุ่น 4WD ที่เพิ่มระบบ Off-Road Mode เมื่อเปิดระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งช่วยเพิ่มมุมมองรอบตัวรถขณะขับขี่ให้คุณมั่นใจและปลอดภัย แม้ในทางที่ลำบาก รวมถึงการทำงานร่วมกับ Parking Sonar ที่ติดตั้งเซนเซอร์ที่กันชนหน้า 4 จุด และกันชนหลัง 4 จุด เมื่ออยู่ในเกียร์ D และเคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่เกิน 10 km/h ทันทีที่เซนเซอร์ตรวจพบวัตถุ จะส่งเสียงเตือนและระบบ IAVM จะแสดงภาพโดยอัตโนมัติที่หน้าจอเครื่องเสียง เพิ่มทัศนวิสัยให้ผู้ขับขี่ ลดข้อจำกัดสำหรับรถยนต์ที่มีความสูงได้เพิ่มมากขึ้น
เทคโนโลยีเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW) จะส่งสัญญาณเสียงพร้อมสัญลักษณ์เตือนบนหน้าปัด หากพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้า เมื่อเข้าใกล้รถคันหน้ามากเกินไป โดยเทคโนโลยีนี้สามารถตรวจจับได้ถึงรถคันที่สองที่อยู่ต่อจากคันหน้า
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking – IEB) ระบบนี้จะทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ ซึ่งจะช่วยวิเคราะห์ระยะห่างและความเร็วของรถยนต์ด้านหน้า เพื่อชะลอความเร็ว และหยุดรถ เพื่อลดความรุนแรง หรือ ลดความเสียหายที่จะเกิดจากอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ เทคโนโนยีต่างๆยังคงอัดแน่นเต็มๆคัน ได้แก่
-เทคโนโลยีเตือนรถในมุมอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW)
-เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA)
-เทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning – LDW)
-เทคโนโลยีเตือนผู้ขับขี่เมื่อรู้สึกถึงการขาดสมาธิหรือเหนื่อยล้า(Intelligent Driver Alertness – IDA)
-เทคโนโลยีช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA) และ เทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันHill Descent Control (HDC)
-ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control (TCS) และ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัจฉริยะ Vehicle Dynamic Control (VDC)
-ระบบเบรกมากับ ABS, EBD และ B-LSD พร้อมถุงลม SRS คู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยรวม 6 ตำแหน่ง
เส้นทางที่ใช้จากกรุงเทพ ออกรรังสิต-นครนายก แล้วไปทางอ.วังน้อย ตัดเข้าแก่งคอย จ.สระบุรี เพียงแค่ประมาณ 100 กม. ก็จะถึง “ชะอม” ซึ่งเป็นที่เที่ยวที่เกิดขึ้นพร้อมกับโควิดกำลังระบาด จึงอาจจะไม่ได้รับความนิยมมากนัก สถานที่แห่งนี้โอบล้อมไปด้วยภูเขาและลำธาร มีที่พักและลานกางเต๊นท์กระจายอยู่โดยรอบ
สำหรับบนรถที่มีเด็ก ถ้ามีอุปกรณ์ความบันเทิงอย่างจอกลางบริเวณเหนือศรีษะของเบาะนั่งแถว 2 ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์สำหรับเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เนท เพื่อการดูหนังฟังเพลง กับแอพลิเคชั่น ได้ทั้ง Youtube และ Net Flix เพียงเท่านี้ก็สะกดจิตเด็กน้อยให้ไม่กวนตลอดการเดินทางได้เป็นอย่างดี
การเข้าออกพื้นที่แถวที่ 2 และ 3 นั้นก็ทำได้สะดวกเพราะการปรับและพับเบาะที่ทำได้ง่ายและเป็นแบบ One Touch แถมยังได้ความเงียบ จากห้องโดยสารที่มีการติดตั้งวัสดุซับเสียงพร้อมกระจกแบบ Acoustic Glass
ด้านสมรรถนะหายห่วง ขุมพลัง รหัสYS23DDTT ขนาดความจุ 2.298 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,750 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ อัตราเร่งเคลมตามผู้ผลิตอยู่ที่ ประมาณ 12 วินาที และอัตราสิ้ยนเปลืองอยู่ที่ประมาณ 14 กม./ลิตร
การเดินทางในรูปแบบครอบครัวซึ่งไม่ได้เค้นขุมพลังมากมายนัก แต่ที่ต้องชื่นชมคือ ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าที่เป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบ five-link coil spring rear suspension system ซึ่งซับแรงสั่นสะเทือนและให้การยึดเกาะที่ดีเยี่ยม
ตัวช่วยการขับขี่เพื่อความปลอดภัยมีมาให้ครบ และทีเด็ดนั่นคือ เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง และ เทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน ซึ่งทำหน้าที่ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบบุคคลหรือวัตถุที่กล้องรอบคันจับการเคลื่อนไหวได้ ครอบครัวไหนที่มีเด็กเล็ก ฟีเจอร์ 2 ระบบนี้ถือว่าสำคัญ
ปล่ายทาง “ชะอม” ถือเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและไม่ชอบสถานที่ที่ผู้คนพลุกพล่าน อาหารการกินแบบง่ายๆ มีร้านข้างทางตลอดพื้นที่ ทั้งร้านอาหารแนวชิคๆ หรือจะเป็นไก่ย่าง ส้มตำ นั่งโต๊ะม้าหินริมธารก็หาทานได้ไม่ยาก
กิจกรรมคงไม่พ้นเล่นน้ำ และสูดอากาศ ทิ้งเวลาไปกับความร่มรื่น แต่สิ่งที่ควรระวังนั่นคือในเรื่องความของกระแสน้ำ และไม่ควรประมาทเมื่อลงไปแช่ตัวอยู่ในลำธาร
ปิดทริพครอบครัวกับการเดินทางใกล้กรุง สู่สถานที่พักตากอากาศริมธารน้ำสำหรับ “ชะอม” ซึ่งต้องหาเวลากลับไปซ้ำอีกสักรอบ รถยนต์ที่เป็นพาหนะในการเดินทางอย่าง Nissan Terra VL 4×4 ถือเป็นตัวช่วยให้เติมสานสัมพันธ์ในตครอบครัวได้เป็นอย่างดี ลูกสาวที่เข้าสู่วัยกวน ถูกสะกดจิตด้วยการตูนที่แสดงผ่านจอขนาดใหญ่ ในห้องโดยสารที่เงียบ และซับแรงสั่นสะเทิอน ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่ง กับค่าตัวที่ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ตั้งราคาจำหน่ายไว้่ไม่ถึง 1.5 ล้าน หลายคนคงเทใจให้ได้ไม่ยาก เพราะถือเป็นราคาที่ต่ำสุดสำหรับรถยนต์ในกลุ่มนี้