รถสปอร์ตไซส์เล็ก กะทัดรัด ห้องโดยสารแต่งเรียบง่าย พร้อมเบาะทรงบักเกตซีท เครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร 230 แรงม้า ทำงานร่วมกับ 4 โหมดการขับขี่ ซึ่งเลือกขับสนุกได้ตามใจต้องการ ด้านการยึดเกาะมั่นใจไปกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro
ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ Audi อย่างเป็นทางการในประเทศไทย รุกหนัก จัดกิจกรรมทดสอบรถยนต์ โดยนำรถทุกรุ่นที่มีจำหน่ายมาให้สื่อมวลชนสายยานยนต์ ร่วมทดสอบสมรรถนะและความโดดเด่นของยนตรกรรม ทั้ง Audi TT,Audi Q5,Audi Q7 และ The New A5 Coupe บนเส้นทาง กรุงเทพ-อยุธยา
หลังจากการจับฉลากเลือกรถ Audi TT สปอร์ตร่างเล็กได้เป็นรถที่ผมได้ครอบครองตลอดการเดินทาง ก่อนอื่นขอทำการสำรวจเล็กน้อยก่อนที่จะทดสอบอย่างเต็มรูปแบบ
จะว่าไปแล้วรูปทรงและหน้าตาของ Audi TT Coupe 45 TFSI Quattro S Line ก็ไม่ได้เปลื่ยนไปจากรุ่นเดิมเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน เพียงนำมาแต่งองค์ เพิ่มเหลี่ยมสัน เติมความโฉบเฉี่ยวให้กับตัวรถ เสริมความดุด้วยชุดแต่ง S Line ที่มากับสปอยเลอร์ และ สเกริต์รอบคัน โคมไฟหน้ามากับความสปอร์ต โดดเด่นด้วยการใช้หลอดแอลอีดี ติดตั้งไฟกลางวันไว้ในโคมเดียวกัน พร้อมระบบ Cornering light ช่วยปรับทิศทางแสงไฟตามการเลี้ยวของพวงมาลัย รวมถึงติดตั้งระบบเปิด-ปิดไฟหน้าและ ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
ด้านท้ายยังคงความโค้งมน โหด ดุ ด้วยท่อไอเสียคู่ มีสปอยเลอร์ช่วยด้านแอโรไดนามิคซุกซ่อนบริเวณฝากระโปรงท้าย จะยกตัวสูงขึ้นในแบบอัตโนมัติเมื่อความเร็วเกิน 120 กม./ชม. และจะลดระดับกลับมายังตำแหน่งเดิมในขณะที่ความเร็วต่ำกว่า 80 กม./ชม. ซึ่งเลือกสั่งการด้วยตัวเองโดยใช้สวิตช์บริเวณคอนโซลกลาง
Audi TT Coupe 45 TFSI Quattro S Line ไม่ได้เป็นรถสปอร์ตแบบ 2 ที่นั่ง เพราะมีเบาะนั่งสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง แต่จะมีขนาดค่อนข้างกระทะรัด ในส่วนเบาะนั่งคู่หน้าออกแบบสไตล์บักเกทซีทแนวสปอร์ต ผลิตจากวัสดุหุ้มหนัง สลับ Alcantara ปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบปรับดันหลังเบาะนั่ง 4 ทิศทาง
พวงมาลัยเป็นแบบสปอร์ต 3 ก้าน ท้ายตัด ติดตั้งระบบมัลติฟังก์ชัน และยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่ (Audi drive select) ตามความเหมาะสมกับเส้นทางและลักษณะการขับขี่ เช่น comfort, auto, dynamic และ individual หรือการกำหนดเอง
คอนโซลกลางออกแบบเรียบง่าย แต่ดุดัน ระบบปรับอากาศเป็นแบบดิจิตอลติดตั้งสวิตช์ควบคุมบริเวณหน้าช่องทางลม หน้าจอการใช้งานระบบต่างๆถูกรวมไว้ที่ชุดแดชบอร์ดซึ่งเป็นจอดิสเพลย์แบบ Audi virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว ซึ่งนอกจากแสดงการทำงานระบบต่างๆ ยังแสดงผลของระบบเครื่องเสียง Audi sound system รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth ระบบ MMI Navigation plus with MMI touch รองรับ DVD, CD, MP3 และ SD card ช่องเชื่อมต่อ AUX-IN และ USB
Audi TT Coupe 45 TFSI Quattro S Line ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว ขนาด 1,984 ซีซี พร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (direct injection) Turbocharge ให้กำลังสูงสุด 230 แรงม้าที่ 4500 – 6200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร ที่ 1600 – 4300 ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ S tronic 6 จังหวะ ซึ่งมีระบบแพดเดิลชิฟท์ที่พวงมาลัย พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ตลอดเวลา (quattro permanent all-wheel drive) เคลมอัตราเร่ง 0-100 กม. / ชม.ในเวลา 5.3 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กม./ ชม.
ด้านความปลอดภัยมีทั้งระบบป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ หรือ active safety เช่น ดิสค์เบรก 4 ล้อ ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก ABS (Anti-lock braking system) ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic brake distribution) โดยจะถ่ายทอดแรงยังเบรกแต่ละล้อเป็นอิสระแตกต่างกันตามความเหมาะสม
นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Anti-slip regulation) ทำให้มั่นใจว่ารถจะไม่เสียการทรงตัวแม้จะอยู่ในสภาพเส้นทางที่ไม่ดี เช่น เปียก ลื่น มีระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic control system with stabilization function) ที่จะคอยควบคุมรถให้ยึดเกาะถนนในทุกสภาพเส้นทาง โดยการเลือกส่งกำลังหรือตัดกำลังในแต่ละล้อตามความเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์
ด้านอุปกรณ์เพื่อลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ (passive safety) มีถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ทั้งยังติดตั้งถุงลมนิรภัยด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง เข็มขัดนิรภัยพร้อมระบบเตือนหากไม่คาด
Audi TT ยังเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน เช่น ระบบเบรกมือไฟฟ้า นอกจากจะง่ายต่อการควบคุมแล้ว ยังช่วยลดความเกะกะในพื้นที่ห้องโดยสาร รวมถึงยังมี ระบบล็อกเบรกขณะหยุดนิ่ง (Audi hold assist) ผู้ขับขี่ที่ไม่ต้องเหยียบเบรกตลอดเวลา เพราะระบบจะล็อคเบรกให้อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง โดยไม่ต้องเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ และเมื่อต้องการเดินทางต่อก็แค่เหยียบคันเร่งเท่านั้น
การทดสอบเริ่มต้นขึ้นที่สำนักงานใหญ่บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ มุ่งหน้าสู่จ.พระนครศรีอยุธยา โดยใช้ทางด่วนสายบางปะอิน ด้านของขุมกำลังจากเครื่องยนต์ สบายใจหายห่วงเพราะขุมกำลัง 2.0 ลิตร แสดงกำลัง 230 แรงม้า สามารถนำพาตัวรถที่มีนน.เพียง 1,335 กิโลกรัม ไปได้อย่างสบาย กระแทกคันเร่งเมื่อไหร่ เทอร์โบก็พร้อมจะรีดแรงม้าซึ่งให้แรงบิดมาเต็มกำลังที่ 370 นิวตันเมตร จนสะท้อนมายังตำแหน่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรูปแบบของหลังติดเบาะ
พละกำลังทั้งหมดถ่ายเทลงพื้นด้วยระบบ quattro permanent all-wheel drive ซึ่งจะถ่ายเทกำลังไปยังล้อหน้าและล้อหลังตามสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้เพื่อได้มาซึ่งการยึดเกาะถนนและสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกสนาน
ในด้านการขับขี่กับโหมด Audi drive select ซึ่งออกอรรถรสมาหลากรูปแบบเริ่มต้นที่ Comfort โหมดนี้สำหรับการใช้งานปกติ ไม่รีดสมรรถนะมากมาย พวงมาลัยน้ำหนักเบา เสียงท่อไอเสียไม่กระหึ่ม เหมาะสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันในการจราจรที่พลุกพล่าน
โหมด AUTO เป็นรูปแบบการใช้งานกึ่งๆสปอร์ต สมองกลจะทำการสั่งการร่วมกับการใช้คันเร่ง ซึ่งหากเหยียบคันเร่งด้วยความรุนแรงหรือขับขี่โดยใช้ความเร็ว สิ่งที่สัมผัสได้คือนำหนักพวงมาลัยที่หนักขึ้นตามรอบความเร็ว และ เสียงเครื่องยนต์ที่ส่งผ่านมายังท่อไอเสียจะให้สุ้มเสียงที่เร้าใจยิ่งขึ้น
โหมด Dynamic ออกแบบเพื่อการใช้งานแบบเต็มกำลัง เรี่ยวแรงที่เครื่องยนต์สร้างออกมาได้เท่าไหร่ ใช้งานได้เต็มพิกัด พวงมาลัยแน่นขึ้น เสียงท่อไอเสียเพิ่มเสียงเร้าใจในทุกรอบความเร็ว สมองกลสั่งงานให้เครื่องยนต์ทำงานเต็มระบบ ขับสนุก เร็ว และ แรง ตามสไตล์รถสปอร์ต
โหมด individual เป็นการดีไซน์รูปแบบการขับขี่ด้วยตัวเอง ซึ่งต้องทำงานร่วมกับช่วงล่างที่เป็นชุดแต่งของทาง AUDI แต่ใน Audi TT Coupe 45 TFSI Quattro S Line ยังไม่มีการติดตั้งระบบช่วงล่างนี้ จึงไม่ได้ทดสอบโหมดนี้เท่าที่ควร
ทั้ง 4 โหมดได้ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป หากต้องการสมรรถนะสูง ขับสนุก ให้ปรับไปที่ Dynamic หากอยากขับสบายๆหรือใช้งานในชีวิตประจำวัน โหมด Comfort ก็ถือว่าตอบสนองได้อย่างเพียงพอ แต่ถ้าเลือก Auto ระบบก็จะทำการวิเคราะห์และสั่งการเครื่องยนต์ตามคำสั่งที่ถูกส่งมาจากคันเร่ง สำหรับ individual ถ้าได้ชุดชอคอัพและสปริงที่เป็นออฟชั่นพิเศษจะทำให้คุณออกแบบการขับขี่ได้ตามใจต้องการ
บทสรุปของ Audi TT Coupe 45 TFSI Quattro S Line ถือเป็นสปอร์ตร่างเล็กที่มีสมรรถนะเกินตัว รูปลักษณ์ยังมีกลิ่นอายของเวอร์ชั่นแรก โดยทำการปรับความคม เสริมความดุให้กับเส้นสาย พร้อมเติมเต็มหลักอากาศพลศาสตร์ด้วยชุดแต่ง S Line ภายในอาจจะไม่ตอบโจทย์สำหรับการใช้งานทั้ง 4 ที่นั่ง สมรรถนะเครื่องยนต์เร็ว แรง เร้าใจ เลือกปรับโหมดการขับขี่ให้สนุกไปกับ Audi drive select ซึ่งดีไซน์รูปแบบให้ปลดปล่อยสมรรถนะแตกต่างกันไป แต่ก็มั่นใจได้กับการยึดเกาะที่เป็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยระบบ quattro permanent all-wheel drive
ค่าตัวของรถคันนี้อยู่ที่ 3,199,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่คุ้มค่า ในขณะเดียวกัน ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด กำลังเดินหน้าขยายศูนย์บริการเพิ่มเพื่อให้รองรับกับยอดจำหน่ายที่กวาดไปหลายร้อยคันในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา นั่นคือการสะท้อนถึงการดำเนินธุรกิจอย่างจริงจังเพื่อให้ค่ายสี่ห่วงกลับมาเฉิดฉายในเมืองไทยอีกครั้ง
เรียบเรียง และ ทดสอบโดย ณัฐเทพ เผ่าจินดา