Sunday, December 22, 2024
HomeAuto NewsCP FOTON ปลื้มยอดขายปี 64 พร้อมลุยตลาดขนส่งปีนี้เต็มสูบ

CP FOTON ปลื้มยอดขายปี 64 พร้อมลุยตลาดขนส่งปีนี้เต็มสูบ

CP FOTON เผยยอดขายปี 64 ไม่หวั่นแม้วิกฤตวิด-19 เติบโตกว่า 221% ปลื้มรถบรรทุก EV มีกระแสตอบรับท่วมท้น เดินหน้าลุยเป้าปีนี้ส่งรถเพื่อการพาณิชย์บุกตลาดอีก 600 คัน มั่นใจทำได้ภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก จ่อลงทุนสร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ในกรุงเทพฯ พร้อมศูนย์ประสานงานครบครัน เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าและผู้แทนจำหน่าย 

นายกฤษณะ เศรษฐธรางกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี โฟตอน เซลส์ จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถเพื่อการพาณิชย์แบรนด์ “CP FOTON” เปิดเผยถึงภาพรวมในการดำเนินธุรกิจในปี 2564 ว่า แม้ที่ผ่านมา CP FOTON ต้องเจออุปสรรคมากมายจากโรคระบาด COVID-19 รวมถึงวิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลก ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเกือบทุกประเภท แต่ด้วยความมุ่งมั่น และการสนับสนุนที่ดีจากผู้แทนจำหน่ายฯ ทำให้ CP FOTON เติบโตขึ้นเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว สามารถทำยอดขายรวมปี 64 ได้ทั้งหมด 310 คัน หรือเติบโตขึ้น 221% 

ขณะที่ ในประเทศจีนเอง “โฟตอน มอเตอร์” ยังคงเดินหน้าสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และครองแชมป์อันดับ 1 ในอุตสาหกรรมรถเพื่อการพาณิชย์ของประเทศจีน ติดต่อกันถึง 17 ปีซ้อน จากยอดขายล่าสุด ทั้งปี 2564  ของ  บริษัท โฟตอน มอเตอร์ จำกัด  ทำยอดขายไปได้ทั้งหมด 650,018 คัน มีส่วนแบ่งในตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ในประเทศจีนอยู่ที่ 13.41% จากยอดขายรวมรถเพื่อการพาณิชย์ในประเทศจีนทั้งตลาด 4,793,000 คัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าลูกค้ามีเชื่อมั่นในมาตรฐาน ความทนทาน ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายพร้อมขับเคลื่อนธุรกิจด้วยคุณภาพระดับเวิลด์คลาส

“ในปี 2564 ทีผ่านมาถือว่าเราสร้างการเติบโตได้ดีมาก เพราะมีผู้ประกอบการรายใหญ่หลายรายให้ความมั่นใจซื้อรถไปเป็นฟลีทใหญ่ เพื่อนำไปใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ ทั้งรถบรรทุกหัวลากเกียร์ออโต้ และรถบรรทุก 6 ล้อ ซึ่งต่างก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดีและมีคำชื่นชมกลับมาว่า รถของเรามีความคุ้มค่า ทันสมัยเทียบเท่ากับรถค่ายยุโรปได้

ส่วนยอดขายรถมินิบัส เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และมีนโยบายขยายอายุรถตู้สาธารณะ จึงทำให้ยอดขายของเราชะลอตัว แต่คาดการณ์ว่าภายหลังจากที่สถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดี รถมินิบัสขนาด 20+1 ที่นั่ง จะกลับมามียอดขายเพิ่มขึ้นและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นรถที่มีความเหมาะสมกับในหลายธุรกิจ ทั้งรถโดยสารสาธารณะ รถรับ-ส่งลูกค้าโรงแรม, รถโรงเรียน, รถรับ-ส่งพนักงานโรงงาน หรือรถรับ-ส่งผู้โดยสารในสนามบิน ซึ่งถือว่าเราเป็นแบรนด์ที่คุ้มค่าที่สุดในรถประเภทเดียวกันที่มีในตลาด ไม่ว่าจะเป็นมิติที่ใหญ่สุด นั่งสบายสุด รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันที่สุด”

 

ปลื้มรถ EV มียอดจองทะลุเป้า

นายกฤษณะ กล่าวต่อว่า ภายหลังจากที่ CP FOTON ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ซึ่งเป็นรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า (EV) เป็นเจ้าแรกของเมืองไทย ปลายปี 2564 ที่ผ่านมา ยังได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งรถบรรทุก 4 ล้อ ไปจนถึงรถบรรทุกหัวลากขนาดใหญ่ ซึ่งทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนผู้ประกอบการขนส่ง ต่างให้ความสนใจและสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเริ่มทยอยส่งมอบได้ในช่วงกลางปี 2565

“รถบรรทุก EV ที่เราได้เปิดตัวในช่วงปลายปีที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการขนส่งรายใหญ่ให้ความสนใจเยอะมาก ซึ่งจะทยอยส่งมอบได้ในช่วงกลางปี เนื่องจากระหว่างนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการปรับเปลี่ยนจากพวงมาลัยซ้าย ย้ายไปเป็นพวงมาลัยขวา อย่างไรก็ตามแม้จะมีค่ายอื่นนำรถเพื่อการพาณิชย์พลังงานไฟฟ้าจากจีนเข้ามาทำตลาดขนส่งในประเทศไทยเหมือนกัน แต่ด้วยความที่ CP FOTON เป็นรถที่ผู้ผลิตนำมาขายเอง ลูกค้าจึงมีความเชื่อมั่นในเรื่องการให้บริการ และการจัดหาอะไหล่ ผ่านเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย ซีพี โฟตอน ทั่วประเทศ ส่งผลให้เรายังคงได้รับความไว้วางใจมากกว่าค่ายอื่น”

ตั้งเป้ายอดขาย 600 คัน

นายกฤษณะ กล่าวถึงทิศทางธุรกิจในปี 2565 ว่า CP FOTON ตั้งเป้าจำหน่ายรถเพื่อการพาณิชย์ไว้ที่ 600 คัน โดยจะใช้กลยุทธ์ ดังนี้ 1.มุ่งเน้นในการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วยการมอบบริการหลังการขายที่ดี ทั้งการส่งรถโมบายเซอร์วิส ออกบริการให้กับลูกค้านอกสถานที่ หรือที่หน้าไซต์งาน เพื่อให้ลูกค้าสามารถซ่อมบำรุงรักษารถได้โดยไม่ต้องนำรถเข้าที่มาศูนย์บริการ และไม่ต้องเสียโอกาสในการสร้างรายได้จากการใช้งานของรถ ตลอดจนการให้คำปรึกษาในเรื่องการใช้งานของรถที่เหมาะสมกับธุรกิจอีกด้วย

2.การสร้างเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายและศูนย์บริการ 30 แห่ง ให้คลอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งหัวเมืองใหญ่ และหัวเมืองรอง รวมทั้งจังหวัดที่อยู่เชื่อมกับเขตชายแดน ตลอดจนเพิ่มจำนวนรถโมบายเซอร์วิส เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าที่อยู่ตามพื้นที่นอกเมือง คาดว่าภายในไตรมาส 1/65 จะสามารถขยายเพิ่มได้อีก 5 แห่ง ในพื้นที่โซนภาคตะวันออก ภาคเหนือ และภาคใต้

ทั้งนี้ ในการเปิดรับดีลเลอร์บริษัทจะมีการตรวจสอบมาตรฐานของผู้แทนจำหน่ายและศูนย์บริการอย่างเข้มงวด เนื่องจากปัจจุบัน CP FOTON มีรถเพื่อการพาณิชย์ EV ที่ใช้เทคโนโลยีแปลกใหม่กว่าเครื่องยนต์สันดาป ดีลเลอร์จึงต้องมีความเชี่ยวชาญและมีความพร้อมในการให้บริการ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของ CP FOTON และสร้างความเชื่อมั่นกับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง

3.การสร้างการรับรู้ผ่านคุณภาพและนวัตกรรมของรถ โดยจะมีการเปิดตัวรถบรรทุก 4 ล้อโฉมใหม่ ที่สามารถใช้แทนรถกระบะ ซึ่งจะตอบโจทย์กับผู้ประกอบการขนส่งได้เป็นอย่างดี และมีความเหมาะสมในการใช้เป็นรถส่วนบุคคลได้อีกด้วย พร้อมกันนี้ ยังมีรถ Mixer ระดับเวิลด์คลาสตั้งแต่ขนาด 3-6 คิว ที่จะส่งรุกตลาดวงการก่อสร้าง ให้สอดรับกับนโยบายการด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งขณะนี้มีบริษัทเอกชนรายใหญ่มาซื้อไปใช้งานแล้วหลายราย

“ในปีนี้แม้สถานการณ์โควิด-19 จะยังไม่หายไป แต่ยังนับว่ามีทิศทางที่เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี ขณะที่หลายภาคส่วนเองก็มีการปรับตัวเข้าตั้งรับกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น จึงทำให้เราไม่ค่อยมีความกังวลมากนักในเรื่องของเป้ายอดขาย เพราะที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นแล้วว่าลูกค้ามีความเชื่อมั่นในคุณภาพและการบริการของเรา

Headquarter แห่งใหม่ เพื่อรองรับการเติบโตทุกด้าน

ส่วนแผนด้านการลงทุนในปีนี้ บริษัทเตรียมสร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ ในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะประกอบด้วย อาคารสำนักงานขนาดใหญ่, ศูนย์บริการและซ่อมบำรุงรถ, ศูนย์ฝึกอบรมด้านเทคนิค, คลังอะไหล่และสต๊อกสินค้า, ศูนย์ประสานงานดีลเลอร์ และสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อให้ลูกค้าของ CP FOTON ได้รับการดูแลที่สะดวกอย่างครบครันและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน ยังมีแผนที่จะติดตั้งสถานีชาร์จยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ให้กับดีลเลอร์ทั่วประเทศเพื่อขยายเครือข่ายสถานีชาร์จให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกพร้อมเสริมความมั่นใจในการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าให้กับผู้ประกอบการขนส่ง และเตรียมรองรับการใช้งานกับทั้งยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ภาคเอกชนและประชาชนทั่วไปใช้อยู่ด้วย

พร้อมเติบโตไปพร้อมกันกับลูกค้า

นายกฤษณะกล่าวส่งท้ายว่า อยากให้ลูกค้าเปิดใจทดลองใช้รถเพื่อการพาณิชย์จาก CP FOTON ซึ่งเป็นยานยนต์เพื่อการพาณิชย์อันดับหนึ่งในจีนและได้รับการยอมรับในระดับโลก ทั้งนี้ ภายใต้เครือ CP ที่มีธรรมมาภิบาลและความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจขนส่งไทยให้ก้าวหน้าเท่าทันตลาดสากล จึงอยากให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในแบรนด์นี้ เนื่องจากเป็นรถที่มีสมรรถนะและเทคโนโลยีทัดเทียมกับรถยุโรป แต่มีราคาที่สามารถแข่งขันได้กับรถญี่ปุ่น จึงเชื่อว่าจะสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของลูกค้า และสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าได้เป็นอย่างดี

RELATED ARTICLES

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

Most Popular