Ford Bronco Raptor เอสยูวีที่ได้รับการอัพเกรดจาก Ford Performace เพื่อการลุยหนักทั้งบนพื้นหิน หรือในทะเลทราย ด้วยการพัฒนาโครงสร้าง รวมถึงระบบรองรับ ส่วนด้านขุมพลังยัดบล็อก 6 สูบ 3.0]b9i ให้กำลัง 400 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อน 10 จังหวะ รวมถึงโหมดการขับขี่ในรูปแบบ Terrain Management System ที่มีให้เลือกปรับถึง 7 รุปแบบ
ยังคงพัฒนาต่อเนื่องสำหรับซึ่ง Ford Performance รับหน้าเสื่อเป็นทีมพัฒนาให้มีความดุดันทั้งด้านพละกำลังและการลุย ซึ่งได้แรงบันดาลใจของความแกร่งมาจาก Ultra 4 Racing รถแข่งทะเลทราย รวมถึงระบบรองรับที่ไปคล้ายกับ F-150 Raptor
รถที่ดีที่สุดจากการสร้างของ Ford Performace เพื่อลุยเส้นทางวิบาก เริ่มจากการทำให้คล้ายกับรถต้นแบบ เพื่อความแข็งแรง รวมถึงเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างตัวถัง และจุดยืด ยุบ ของตัวรถ เสา B และ เสา C ก็ได้มีการเสริมคานคันกระแทกด้วยเช่นกัน รวมถึงพิเศษกว่ารุ่นปกติ เนื่องจากล้อที่กว้างกว่าเกือบ 20 ซม.
ในส่วนความสูงมีพัฒนาใหม่ ทำให้สามารถลุยน้ำได้กว่า 37 นิ้ว หรือ 1 เมตร และอัพเกรดระบบสั่นสะเทือนของ Fox ที่พัฒนามาโดยเฉพาะ ล้อที่ใช้ขนาด 17 นิ้ว หุ้มยาง BF GoodRich KO2 ขนาด 37 นิ้ว ซึ่งถือเป็นขนาดใหญ่ที่สุดสำหรับรถเอสยูวีที่มีจำหน่ายในอเมริกา
Ford ยังได้พัฒนาเครื่องยนต์ EcoBoost® เทอร์โบคู่ 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดกว่า 400 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ และที่สำคัญ Terrain Management พัฒนาใหม่ให้มีถึง 7 โหมดการใช้งาน และพิเศษไปอีกขั้นกับการเลือกเสียงท่อไอเสียได้ถึง 4 รูปแบบได้แก่ Normal, Sport, Quiet และ Baja
เจ้าของรถสามารถเลือกตกแต่งห้องโดยสารเช่น เบาะหนังกลับ Black Onyx Neo ที่เจาะรูด้วยเลเซอร์ แผงหน้าปัดที่หุ้มไวนิล พวงมาลัยรูปทรงสปอร์ตที่หนาขึ้นพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์แมกนีเซียมและโลโก้ Raptor สีดำเงา
Bronco Raptor มาพร้อมกับแพ็คเกจ SYNC®4 ที่มีหน้าจอสัมผัสขนาด 12 นิ้ว แบบทัชสกรีน กล้องมองภาพรอบคันแบบ 360 องศา ระบบเสียง B&O 10 ลำโพง
ราคาจำหน่ายของ Ford Bronco Raptor อยู่ที่ 39,995 ดอลลาร์ หรือราว 2.3 ล้านบาท ถามว่าเข้ามาจำหน่ายในบ้านเราหรือไม่ คงเป็นไปได้ยาก ส่วนที่เป็นไปได้แน่ๆ นั่นคือ Next Gen Ranger Raptor เตรียมตัวจำหน่ายหลังจากเปิด Ford Ranger และ Ford Everest เจนใหม่แน่นอนครับ
เครดิต:Netcarshow