หลังประกาศแต่งตั้งผู้จำหน่ายรถยนต์อย่างเป็นทางการทั้ง 11 แห่งทั่วประเทศ ก็รุกต่อเนื่องด้วยการเปิดตัวรถยนต์ Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé รุ่นประกอบในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ Mercedes-AMG ประกอบนอกประเทศเยอรมัน แถมราคายังถูกลงถึง 1 ล้านบาท
Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé ถือเป็นรถยนต์สมรรถนะสูงตระกูล 43 ที่ผู้เป็นเจ้าของสามารถสัมผัสถึงความโดดเด่นของแบรนด์ Mercedes-AMG ได้ในทุกจังหวะการขับขี่ ซึ่งได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นตามหลักปรัชญา “Driving Performance – ขับเคลื่อนทุกสมรรถนะ” พร้อมทั้งยังผสมผสานนวัตกรรมของรถสปอร์ตและรถแข่งไว้ได้อย่างลงตัว
นักออกแบบของ Mercedes-AMG ได้เน้นคุณลักษณะของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญในด้านความก้าวหน้าของนวัตกรรมยานยนต์ เพื่อให้เกิดสมรรถนะที่เหนือกว่า อีกทั้งจุดเด่นอื่นๆ ที่น่าสนใจ อย่างฝากระโปรงหน้าแบบยาว ตัวถังที่กว้างขึ้น ประตูแบบไร้ขอบ กรอบกระจกมองข้างสีดำแบบลอยตัวจากตัวถัง ขอบตกแต่งสีดำเงาบริเวณด้านข้างตัวรถและกรอบหน้าต่าง
หรูหราไปพร้อมกับความสปอร์ตจากกระจังหน้า diamond grille สีเงิน พร้อมตราสัญลักษณ์ Mercedes-ฺBenz และ AMG ทั้งยังมีชุดแอโรพาร์ท AMG Bodystyling (กันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้าง)
ไฟหน้าเป็นแบบ LED Intelligent Light System ติดตั้งระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย (ALS – Active Light System) พร้อมระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (cornering light)
Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé ติดตั้งปลายท่อไอเสียเสริมโครเมี่ยม 2 ท่อพร้อมตัวแบ่งตรงกลางที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน, ล้ออัลลอยดีไซนสปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 หุ้มยางรถยนต์แบบ Run-flat
ดีไซน์ภายในมาพร้อมความสปอร์ต พวงมาลัย AMG Performance เป็นแบบสปอร์ตท้ายตัด ตกแต่งด้วย DINAMICA microfibre ที่ปรับการทำงานตามระดับความเร็ว ซึ่งมี ค่าการแปรผันของการตอบสนองหลายระดับ
ตกแต่งภายในด้วยลาย AMG Carbon-fibre และอะลูมิเนียม ขับกล่อมความบันเทิงด้วย วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 พร้อม Touchpad และ Controller, ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester®
Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé ใช้เครื่องยนต์แบบ V6 ขนาด 3,000 ซีซี เทอร์โบคู่แบบ Bi-Turbo ให้กำลังสูงสุด 367แรงม้าที่ 5,500-6,000 ต่อนาที และแรงบิด 520 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,200 รอบ โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้ มาพร้อมกับนวัตกรรมอัจฉริยะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบแรงดันเสริมของกลไกการอัดอากาศเข้าสู่กระบอกสูบ (boost pressure) ที่สามารถปรับแต่งได้ นอกจากนี้ยังเคลือบสารนาโนสไลด์ (NANOSLIDE® coating) ที่เป็นสารหล่อลื่นชนิดเดียวกับกับที่ใช้ในรถฟอร์มูล่าวันของทีม MERCEDES-AMG PETRONAS ไว้ในกระบอกสูบ โดยสารนี้จะช่วยลดการเสียดสีภายในกระบอกสูบ อีกทั้งยังสามารถยึดเกาะกับพื้นผิวของกระบอกสูบได้นานและทนทานต่อการเสียดสีเป็นอย่างมาก ซึ่งเมื่อกระบอกสูบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ จะส่งผลให้อัตราการใช้พลังงานของรถยนต์ลดลง
ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ (9G-TRONIC) นั้น ทีมงานของ Mercedes-AMG สามารถลดเวลาที่ระบบส่งกำลังใช้เพื่อเปลี่ยนระดับของเกียร์ได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ลงได้หลายระดับ ทำให้ใช้เทคนิคเพื่อเพิ่มกำลังให้กับรถเพื่อเร่งเครื่องเป็นระยะสั้นได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แบบเร้าใจยิ่งขึ้น หากใช้ระบบจำลองการเหยียบคลัทช์แบบ 2 จังหวะ (double-declutching function) ขณะเปลี่ยนเกียร์ลงในโหมด Sport และ Sport Plus พร้อมทั้งยังปรับตั้งค่าการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ใหม่ในโหมดการทำงานของเครื่องยนต์แบบ Eco และ Comfort เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราการเปลี่ยนเกียร์ที่ดีขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีโหมดการทำงานที่จำลองการทำงานของรถยนต์เกียร์ธรรมดา (Manual Mode) ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้ได้ด้วยการกดปุ่มที่แผงคอนโซลกลาง
Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé ใช้ระบบช่วงล่าง AMG RIDE CONTROL แบบสปอร์ตเป็นระบบมาตรฐาน เพลาหน้าใช้เทคโนโลยี 4-ลิงก์ มีแกนบังคับเลี้ยวที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ พร้อมข้อต่อรับน้ำหนักบริเวณแกนจับยึดล้อแบบสปริง เพื่อเสริมการยึดถนนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งค่าระบบรองรับแรงสะเทือนได้ 3 รูปแบบ คือ Comfort, Sport และ Sport Plus
รถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบ AMG DYNAMIC SELECT ที่มีให้เลือก 5 โหมด คือ Eco, Comfort, Sport, Sport Plus และ Individual โดยโหมดการขับขี่แบบ Sport Plus จะสามารถเร้าอารมณ์ของผู้ขับขี่ได้ถึงขีดสุด และยังช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสถึงจิตวิญญาณของแบรนด์ AMG ได้อย่างแท้จริง
สำหรับครั้งแรกในการนำ Mercedes-AMG มาประกอบนอกประเทศเยอรมัน ยังทำให้ ราคารถยนต์รุ่นนี้ถูกลงถึง 1 ล้านบาท ซึ่งบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งราคาจำหน่าย Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé ไว้ที่ 4,140,000 บาท