ซีดานหรูขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด ภายใต้แบรนด์ “EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz” (อีคิว – อีเลคทริค อินเทลลิเจนซ์ บาย เมอร์เซเดส-เบนซ์)เคลมอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 40 – 47.62 กิโลเมตร/ลิตร ปรับราคาเพิ่มจาก The E 220 d เพียง 100,000 บาท มาพร้อมเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยและติดตั้งระบบอำนวยความสะดวกเต็มคัน
The E 350 e มากับรูปลักษณ์สง่างามตามแบบฉบับของรถยนต์ตระกูลอี-คลาส เปิดตัวทั้งหมด 3 รุ่นได้แก่ The E 350 e Avantgarde มาพร้อมกับไฟหน้าแบบ LED High Performance
ส่วนรุ่น The E 350 e Exclusive และ The E 350 e AMG Dynamic มาพร้อมกับไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LEDประกอบด้วยหลอดไฟมากถึง 84 หลอด นอกจากนี้ยังมี ระบบส่องสว่างอัจฉริยะ (ILS – Intelligent Light System), ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย (ALS – Active Light System), ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (cornering light), ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist Plus)
The E 350 e AMG Dynamic พิเศษด้วยชุดแต่งรอบคันจาก AMG อาทิ โดยติดตั้งล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว กันชนหน้า หลัง และสเกิร์ตข้าง รวมถึงดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน และสัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิปเปอร์ เบรกหน้า
ห้องโดยสารนั้นถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของค่ายรถตราดาวด้วยการคว้ารางวัลจากงาน “Automotive Interiors Expo Awards” ประจำปี 2016 ในด้าน “ห้องโดยสารยอดเยี่ยมสำหรับรถยนต์ที่ผลิตเพื่อการจัดจำหน่ายจริง (the best interior of a standard-production automobile)” และ “นวัตกรรมยอดเยี่ยมแห่งปี” จากผลงานการออกแบบแผงควบคุมระบบสัมผัสบนคอพวงมาลัยในรถยนต์ The E-Class อีกด้วย ทำให้ห้องโดยสารดูกว้างขวางและเพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมาย พร้อมดีไซน์เบาะที่นั่งตอนหลังซึ่งสามารถพับลงแบบ 1/3 และ 2/3 เพื่อความสะดวกในการบรรจุสัมภาระ
ภายในของ The E 350 e Avantgarde และ The E 350 e Exclusive ได้รับการตกแต่งสไตล์หรูหรา มากับเบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง nappa
ขณะที่ The E 350 e AMG Dynamic จะมาพร้อมกับเบาะนั่งหุ้มหนัง nappa, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ตท้ายตัดหุ้มหนัง nappa
มาถึงเรื่องของจอแสดงข้อมูลในรุ่น The E 350 e Exclusive และ The E 350 e AMG Dynamic เป็นแบบ widescreen cockpit ส่วนรุ่น The E 350 e AMG Dynamic พิเศษด้วยการติดตั้งระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up Display)
ในส่วนของภาคบันเทิงThe E 350 e AMG Dynamic จะมาพร้อมกับระบบเสียง รอบทิศทาง Burmester® นอกจากนี้ ทั้ง 3 รุ่นยังมาพร้อมกับ ระบบ COMAND Online พร้อม Controller, ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย Touchpad, ระบบสั่งการด้วยเสียง (LINGUATRONIC) เฉพาะภาษาอังกฤษ, ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS (Apple CarPlay™) และ Android (Android Auto)
ทั้งยังได้รับการติดตั้งระบบแผนที่นำทาง พร้อมเพิ่มสุนทรียภาพในการโดยสารด้วยระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี
The E 350 e ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ขนาด 1,991 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,200-4,000 รอบต่อนาที และกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 88 แรงม้า แรงบิดสูงสุดจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 440 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 6.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะ (9G-TRONIC PLUS) พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
ด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัยได้รับการติดตั้งระบบ “Mercedes-Benz Intelligent Drive” เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยสูงสุด ด้วยระบบการช่วยเหลือและระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist) และระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless charging for mobile phone) โดย The E 350 e Avantgarde จะมาพร้อมกับกล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ
สำหรับ The E 350 e Exclusive และ The E 350 e AMG Dynamic ติดตั้งกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง รวมถึงระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Distance Pilot DISTRONIC) และระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist) ที่ติดตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในรถยนต์รุ่นนี้อีกด้วย
ราคาจำหน่ายของ The 350 e มีดังนี้
The E 350 e Avantgarde ราคา 3,490,000 บาท
The E 350 e Exclusive ราคา 3,790,000 บาท
The E 350 e AMG Dynamic ราคา 4,090,000 บาท