Friday, November 22, 2024
HomeAuto Test“PORSCHE Panamera 4S Driving Experience 2017” กิจกรรมพิสูจน์สมรรถนะซาลูนสายพันธุ์สปอร์ต

“PORSCHE Panamera 4S Driving Experience 2017” กิจกรรมพิสูจน์สมรรถนะซาลูนสายพันธุ์สปอร์ต

ครั้งแรกกับการทดสอบสมรรถนะ PORSCHE PANAMERA 4S หลังจากที่เผยโฉมในงาน Bangkok International Motor Show 2017 กิจกรรมนี้ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด จัดเต็มกับรูปแบบของงาน โดยนำรถราคา 13.5 ล้านบาท มาให้สื่อมวลชนได้ทดสอบสมรรถนะในสนามแข่งปทุมธานี สปีดเวย์ ไปดูกันครับว่ารถคันนี้จะเข้าไปครองใจแฟนพันธุ์แท้เจ้าชายกบได้มากน้อยเพียงใด

Porsche Panamera 4S ยังคงรูปโฉมเดิมไว้ ซึ่งส่งต่อการออกแบบจากรุ่น 911 โดยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในรูปแบบของรถซาลูนขนาดอลังการ มากับเส้นสายที่ให้อารมณ์ของรถสปอร์ต พร้อมซุ้มล้อขนาดใหญ่ ลดความลาดเทของหลังคาให้ต่ำกว่าเดิมถึง 20 มิลลิเมตร ลดน้ำหนักตัวรถให้เบากว่าเดิมถึง 80 กิโลกรัม จากการใช้วัสุดอลูมิเนียมในการผลิตตัวถัง

ความโดดเด่นภายในห้องโดยสารมาจากความโอ่โถง หรูหรา แต่ยังคงความสปอร์ตไว้อย่างลงตัว มีการติดตั้งระบบดิจิตอลซึ่งถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกเพื่อให้ข้อมูลการใช้งานระบบต่างๆ เรียกว่า Porsche Advanced Cockpit ประกอบด้วยหน้าจอดิจิตอล 2 จอบริเวณชุดมาตรวัด ปรับรูปแบบการแสดงผลด้วยสวิตช์ควบคุมบริเวณพวงมาลัย

กลางคอนโซลมีมอนิเตอร์ขนาด 12 นิ้ว สั่งงานด้วยระบบสัมผัส หรือ Porsche Communication Management (PCM) สำหรับแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ ควบคุมการทำงานผ่าน Direct Touch Control ได้โดยง่าย ในตำแหน่งผู้โดยสารทางด้านหลังสามารถเพลิดเพลินกับจอทัชสกรีนขนาดใหญ่บริเวณด้านหลังหัวหมอนของเบาะนั่งคู่หน้า

Porsche Panamera 4S ติดตั้งเครื่องยนต์ เบนซิน V6 ขนาดความจุ 2.9ลิตร ให้กำลัง 440 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะคลัทช์คู่ 8 จังหวะ หรือ PDK II อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในแวลาเพียง 4.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 289 กิโลเมตร/ชั่วโมง พร้อมอัตราบริโภคเชื้อเพลิงที่ 12.1-12.3 กม./ลิตร รวมถึงเป็นครั้งแรกที่ค่ายผู้ผลิตติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อหรือ permanent all-wheel drive system เพื่อเสถียรภาพการยึดเกาะถนนที่แม่นยำ

นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น ระบบช่วงล่างแบบถุงลม three-chamber air suspension, ระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง rear axle steering, ระบบควบคุมการทำงานของตัวถัง electronic 4D Chassis Control รวมไปถึงระบบช่วยเหลือการขับขี่เต็มพิกัด ทั้งยังเพิ่มเติมในส่วนของความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

สำหรับการทดสอบในรูปแบบของกิจกรรม PORSCHE Panamera 4S Driving Experience 2017 ได้แบ่งช่วงทดสอบออกเป็น 3 สถานี เพื่อจำลองการใช้งานจริงในด้านต่างๆ ได้แก่

สถานีBraking

ถือเป็นสถานีเริ่มต้น จากจุดสตาร์ทตรงไปยังช่องทางที่กำหนดไว้ เพื่อเบรกกะทันหันและหักหลบไปในจังหวะเดียวกัน ระบบช่วงล่างแบบถุงลม three-chamber air suspension ทำงานได้ดี แน่น หนึบ ด้านการยึดเกาะสอบผ่านสบายๆ ส่งผลใหการหยุดรถพร้อมกับควบคุมไปยังทิศทางที่ต้องการทำได้อย่างมั่นใจ

สถานี Handling

ต่อจากสถานีแรก เส้นทางต่อไปคือทางโค้งหลากรูปแบบ Panamera 4S ได้พัฒนาการตอบสนองของพวงมาลัยเพื่อการควบคุมรถที่แม่นยำ และ รวดเร็ว พร้อมกับติดตั้งระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) มีรูปแบบการขับขี่ที่สามารถเลือกใช้โหมด Comfort ไปจนถึง Sport โดยสัมผัสได้ถึงความแตกต่างพละกำลังที่มาจากเครื่องยนต์ และสมรรถนะช่วงล่างที่เกาะถนนหนึบ

สถานี Slalom

สำหรับรถที่มีมิติตัวถังขนาดใหญ่อย่าง Panamera 4S อาจจะดูอึดอัดไปสักนิดกับการขับขี่ในรูปแบบซิกแซก หรือ Slalom แต่เทคโนโลยีอัจฉริยะของระบบ Porsche Dynamic Chassis Control Sport (PDCC Sport) ระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง Rear axle steering หรือระบบควบคุมตัวถัง Porsche 4D Chassis Control ก็ทำงานช่วยเหลือกันอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง น้ำหนักรถที่เบาลงถึง 80 กก. ส่งผลให้ด้านท้ายอาจเบาไปสักนิด แต่ด้วยระบบการควบคุมรถที่แม่นยำ ทำให้การทดสอบในรูปแบบนี้ทำได้อย่างสบายๆ

สำหรับ PORSCHE Panamera 4S Driving Experience 2017 ในครั้งนี้ นอกจากจะทำให้ได้รู้จักกับ ซาลูนพันธุ์สปอร์ต ในรูปแบบการขับขี่แบบเค้นสมรรถนะมากกว่าแบบใช้งานในชีวิตประจำวัน อารมณ์ โหด ดุ ของเครื่องยนต์ขนาด 2.9 ลิตร 440 แรงม้า ใช่ว่าจะควบคุมยาก เพราะระบบอัจฉริยะซึ่งเป็นตัวช่วยในการขับขี่ที่ Porsche ได้ทำการติดตั้งมาในรถคันนี้ทำให้การควบคุมทำได้อย่างง่ายด่าย แม่นยำ และปลอดภัย ราคาค่าตัว 13.5 ล้านบาทถ้าใจรักและเป็นแฟนพันธุ์แท้ คงยากที่จะปฏิเสธ

RELATED ARTICLES

Most Popular