ก่อนที่จะเข้าสู่เรื่องราวของการทดสอบ ปัญหาคาใจหลังจากมีข่าวการปรับลดราคาจำหน่ายของรถยนต์ซูบารุ สำหรับเรื่องนี้ผู้บริหาร บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) ได้ไขข้อข้องใจว่าเพราะเหตุใดถึงได้มีการปรับลดราคาและ จะไม่ถือเป็นการเอาเปรียบกลุ่มลูกค้าที่ซื้อไปก่อนหน้า คำตอบทั้งหมด เราได้เจาะลึกข้อมูลมาให้ทุกท่านครับ
คุณตะวัน คำฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “ราคาที่ปรับลดลงมาในขณะนี้เป็นโปรโมชั่นสำหรับรถเอสยูวี 2 รุ่นได้แก่ XV และ Forester สำหรับ XV ปีก่อนเราได้เปิดตัวและซึ่งในเวลาไม่นานนักรถรุ่นนี้ได้เป็นโปรดักซ์ไฮไลต์ ขณะเดียวกัน ตันจง กรุ๊ป ในฐานะบริษัทแม่ได้มีการปรับโครงสร้างราคาทั้งหมดของรถยนต์ทุกรุ่น รวมถึงมีนโยบายสนับสนุนการขายร่วมกับ Fuji Heavy Industries ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิต ทำให้ ทีซี ซูบารุ(ประเทศไทย) จำกัด จำหน่ายรถรุ่นนี้ในราคาที่เหมาะสมกับตลาด และแข่งขันกับคู่แข่งได้มากขึ้น แต่ปีนี้ประเทศไทยมีการเปลี่ยนโครงสร้างภาษี ทำให้ XV รับผลกระทบโดยตรงจากราคาที่ปรับขึ้นตามโครงสร้างภาษี รุ่นเริ่มต้นปรับเพิ่ม 100,000 บาท จากราคา 998,000 บาทกลายเป็น 1,098,000 บาท ในส่วนของ Forester เปิดตัวในราคา 1,398,000 บาท และ 1,498,000 บาท ซึ่งทั้ง 2 รุ่นมาในรูปแบบของรถ CKD (CAR KNOCK DOWN) โดยเป็นรถที่ประกอบมาจากโรงงานในประเทศมาเลเซียจึงทำให้ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าและยังมีราคาจำหน่ายห่างจากรุ่นทอพ ซึ่งเป็นรถนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นหลายแสนบาท”
คุณตะวัน กล่าวเพิ่มเติมว่า “สถานการณ์ตลาดแบบนี้ กลุ่มตันจง กรุ๊ป ในฐานะของบริษัทแม่จึงให้เงินสนับสนุนพร้อมให้นโยบายจัดโปรโมชั่นช่วงแนะนำทั้ง XV และ Forester เพื่อให้ผู้บริโภคได้ซื้อในราคาเดิม สำหรับ XV ไมเนอร์เชนจ์รุ่น 2.0 i AWD ที่จำหน่ายในราคา 1,198,000 บาท รุ่น 2.0 i-P AWD ราคา 1,298,000 บาท ได้ทำการปรับราคาใหม่เหลือแค่ 2.0 I AWD ราคา 998,000 บาท และ2.0 i-P AWD1,098,000 บาท ส่วนราคาเดิมของ Forester รุ่น 2.0 i AWD 1,398,000 บาท และ 2.0 i-P AWD ราคา 1,498,000 บาท สำหรับราคาใหม่ รุ่น2.0 i AWD ลดลงเหลือ 1,198,000 บาท และรุ่น2.0 i-P AWD เหลือเพียง 1,398,000บาท ซึ่งถ้าเทียบกับราคาตอนเปิดตัวมีทั้งโปรแกรมส่งเสริมการขายในเรื่องอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ประกันชั้น1 ฟรีแมนทาแนนซ์ แพคเกจ ทั้งหมดนี้รวมมูลค่าประมาณ 1 แสนบาท แต่ส่วนของการปรับลดราคาจะไม่ได้รับโปรแกรมส่งเสริมการขาย เพราะราคาที่ปรับลงมาอยู่ตอนนี้คือราคาตัวรถอย่างเดียวไม่มีโปรโมชั่น กรณีที่ลูกค้าซื้อราคาใหม่และต้องการโปรแกรมส่งเสริมการขายจะต้องซื้อแพคเกจเพิ่มเติม ซึ่งบางโปรแกรมจะไม่มีการแยกขาย”
คุณตะวัน ทิ้งท้ายว่า “ปัจจุบันลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายทุกท่านรู้กันดีว่าราคาจริงอยู่ที่เท่าไหร่ อย่าง XV ก็กลับไปขายในราคาเก่าก่อนที่จะมีการปรับโครงสร้างภาษี ฉะนั้นราคาจะไม่มีการเหวี่ยงขึ้น ลง และจะคงโปรโมชั่นนี้เอาไว้เพื่อให้ลูกค้าได้รถยนต์ที่มีคุณภาพในราคาที่ไม่ไกลเกินเอื้อม อย่างไรก็ตามสำหรับลูกค้าเก่า ได้มีการสื่อสารไปยังเจ้าของรถทุกท่านโดยทยอยติดต่อจากฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ซี่งยอมรับว่าอาจไม่ทันใจและมีฟิตแบคกลับมาพอสมควร แต่เราก็จะพยายามดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะเชื่อว่าเราเป็นแบรนด์เดียวที่ออกแคมเปญใหม่และไม่ทิ้งลูกค้าเก่าแน่นอน”
คลายข้อข้องใจไปแล้วก็กลับมาที่เรื่องของการทดสอบ The New Subaru Forester 2.0i-P เป็นเอสยูวีที่สร้างชื่อให้ค่ายดาวลูกไก่มาเป็นเวลานาน สำหรับรุ่นนี้ยังคงเป็นการปรับแต่งรูปแบบไมเนอร์เชนจ์ซึ่งมาจากพื้นฐานเดิมของเจนเนอเรชั่นที่ 4 ในคอนเซปต์ “Is there Anything You Can’t Do?”เพื่อตอบสนองความต้องการของครอบครัวผู้รักการทำกิจกรรม ด้วยการออกแบบภายใต้แนวคิด Good Visibility ที่ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารมีทัศนวิสัยกว้างทุกมุมมองสามารถมองเห็นภายนอกตัวรถได้อย่างชัดเจน
The New Forester ยังคงใช้มิติตัวรถเดียวกับรุ่นที่ผ่านมาด้วยขนาดความยาว 4,595 มม., กว้าง 1,795 มม. และสูง 1,735 มม. มากับน้ำหนัก 1,535 กก. รูปลักษณ์ภายนอกได้รับการตกแต่งใหม่ให้ทันสมัย ดุดัน ด้วยการออกแบบกระจังหน้าและโคมไฟให้ดูโฉบเฉี่ยว ไฟหน้ามีระบบ SRH หรือ Steering Responsive Headlights โดยจะปรับลำแสงไปตามทิศทางและความเร็วของการหมุนพวงมาลัยและสามารถเปิด-ปิดการทำงานได้ รวมถึงติดตั้งที่ฉีดน้ำล้างไฟหน้าซึ่งทำงานสัมพันธ์กับที่ปัดน้ำฝน เพิ่มไฟกลางวันหรือไฟDaytime แบบแอลอีดีที่มุมด้านล่างของกันชน พร้อมสปอตไลต์ทรงกลม
ด้านบนติดตั้งราวแรคหลังคามาเสร็จสรรพ ท้ายรถมีสปอยเลอร์ติดตั้งไฟเบรกดวงที่ 3 คล้ายคลึงกับโมเดลปี 2012 พร้อมปรับปรุงในส่วนของกรอบไฟท้ายที่เน้นการใช้หลอดไฟแอลอีดี รวมถึงล้อแมกลายใหม่หุ้มด้วยยางขนาด 225/60/17
ภายในกว้างขวางอัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์ครบครัน โดดเด่นด้วยการออกแบบเพดานสูงให้ความรู้สึกโล่งสบาย เปลี่ยนกระจกรอบคันให้มีความหนาขึ้นพร้อมติดตั้งวัสดุซับเสียงทั่วห้องโดยสารเพื่อลดเสียงรบกวน ชุดคอนโซลลางออกแบบใหม่ให้สวยงามด้วยวัสดุสีดำเงาและสีเงินที่คอนโซลกลาง แผงข้าง และกรอบช่องแอร์ ในส่วนของคอนโซลเกียร์ตกแต่งสีดำเงาขลิบขอบสีโครเมียมพร้อมสวิตช์สั่งการเปิด-ปิดระบบ X Mode
พวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังค์ชั่นปรับได้ 4 ทิศทาง ติดตั้งสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง การรับสายโทรศัพท์ ครูสคอนโทรล และสวิตช์สั่งการระบบข้อมูลการขับขี่ ชุดแดชบอร์ดเป็นมาตรวัดทรงกลม ออกแบบเรียบหรู คอนโซลกลางมีระบบปรับอากาศแยกส่วนสามารถปรับอุณหภูมิได้ทั้งฝั่งซ้าย และ ขวา มีหน้าจอสัมผัสซึ่งปรับแต่งเสียงสำหรับระบบให้ความบันเทิงทำงานร่วมกับระบบ Siri Eyes Free ซึ่งเชื่อมต่อกับเครือข่ายของสมาร์ทโฟนจากแอปเปิ้ล รวมถึงทำหน้าที่ควบคุมระบบนำทางด้วยการแสดงภาพจากกล้องมองหลังที่มีเส้นกะระยะ
ฟังค์ชั่นที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับ The New Forester เริ่มตั้งแต่ระบบ Easy Entry ทำงานร่วมกับรีโมทคอนโทรลเพื่อล็อกและปลดล็อกรถ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งผู้ขับมีหน่วยความจำ 2 ตำแหน่ง รวมถึงหน้าจอเอนกประสงค์แบบใหม่ที่แสดงข้อมูลของระบบขับเคลื่อน อัตราสิ้นเปลือง ซึ่งสามารถปรับตั้งค่าได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส กระจกมองข้างมีลูกเล่นเป็นไฟรูปลูกศรกะพริบเมื่อเปิดไฟเลี้ยว ทั้งยังมีเบาะหลังแยกพับได้ 60:40 ควบคุมและสั่งการด้วยสวิตช์แยกส่วนซ้าย-ขวา ซึ่งจะช่วยขยายพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระเป็น 1,592 ลิตรทันทีเมื่อพับพนักพิงเบาะหลัง ประตูบานท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ ซึ่งสั่งการจากสวิตช์ในรถและที่รีโมทคอนโทรล
ขุมพลังใช้เป็นแบบเครื่องยนต์เบนซินสูบนอนในชื่อ Subaru Boxer ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของรถจากค่ายนี้ มากับขนาดความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิด 198 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที พร้อมระบบเกียร์ LINEARTRONIC CVT แบบพิเศษที่ใช้สายพานโซ่แทนยาง มากับโหมด Manual +/- 6 จังหวะ และระบบ SI-Drive ให้เลือก 2 โหมดการขับ ได้แก่ I-Intelligent เน้นความราบเรียบและประหยัด และ S-Sport ให้การตอบสนองที่ฉับไวขึ้น คงตำแหน่งเกียร์ไว้แม้ผ่อนคันเร่ง
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นแบบ Full Time Symmetrical AWD เสริมตัวช่วย X MODE และระบบควบคุมการลงทางลาดชันเพื่อใช้ในสถานการณ์คับขัน รองรับด้วยระบบช่วงล่างหน้าแบบอิสระ แม็กเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นอิสระ ปีกนก 2 ชั้น พร้อมเหล็กกันโคลง
ลองของจริงทั้งบนถนนหลวงและเส้นทางออฟโรด
กิจกรรมทดลองขับ The New Subaru Forester จัดขึ้นบนเส้นทางกรุงเทพฯ–กาญจนบุรี โดยเป็นการทดสอบทั้งแบบการใช้งานในชีวิตประจำวันบนถนนหลวงและในเส้นทางลุยสไตล์ออฟโรด เพื่อสะท้อนถึงการใช้งานจริงว่าระบบต่างๆที่ติดตั้งมากับรถคันนี้ว่าจะมีทีเด็ดขนาดไหน…ติดตามกันต่อได้เลยครับ
หากรถคันนี้เปรียบเป็นคน ผมให้อยู่ในช่วงวัยของวัยรุ่นตอนปลายที่ดูแลตัวเองอย่างดีในด้านของผิวพรรณและทรวดทรง ด้วยรูปลักษณ์ปราดเปรียว สุขุม ปรับเปลี่ยนลุคส์ให้มีความทันสมัย มีความใจใหญ่ที่จะนำพาครอบครัวขนาดกลางไปเที่ยวทุกหนแห่ง จากห้องโดยสารที่กว้างขวาง นอกจากนั้นยังอุ่นใจและสบายอารมณ์ไปกับการเดินทางซึ่งนอกจากจอทัชสกรีนที่ใช้ควบคุมความบันเทิงและเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ด้วยฟังค์ชั่น Siri Eyes Free โดยใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนของแอพเปิล ยังเสริมด้วยอุปกรณ์ที่ติดตั้งเป็นมาตรฐานทั้งระบบ Easy Entry ทำงานหน้าที่ล๊อคและปลดล็อครถ เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าปรับเซทท่านั่งได้แม่นยำตามหน่วยความจำ หน้าจอเอนกประสงค์ประสิทธิภาพสูงบ่งบอกถึงการเข้ากับยุคสมัยซึ่งแสดงข้อมูลการใช้งานได้หลากหลาย ทั้งระบบขับเคลื่อนและอัตราสิ้นเปลือง ซึ่งสามารถปรับตั้งค่าได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ลูกเล่นเล็กๆที่ทำให้ดูหวือหวาไปสักนิดแต่ก็ดูเท่ห์ไปอีกแบบอย่างไฟเลี้ยวในกระจกมองข้าง ซึ่งเป็นไฟรูปลูกศรกะพริบจะทำงานทุกครั้งเมื่อเปิดไฟเลี้ยว
กำลังวังชาของชายหนุ่มตอนปลายส่งผ่านเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร เดิมทีเป็นรหัส EJ ถูกโยกย้ายมาเป็น FB 20 ที่หยิบยกมาจาก Subaru XV แต่ยังคงรูปแบบของเครื่องยนต์สูบนอนที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางค่าย สร้างพลังออกมาได้ 150 แรงม้าที่ 6,200 รอบ และแรงบิด 198 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบ น่าสนใจที่ทีมออกแบบสยบความเกรี้ยวกราดด้วยเกียร์อัตโนมัติ เกียร์ LINEARTRONIC CVT ซึ่งมีนิสัยนุ่มนวล ปรับเปลี่ยนเกียร์ได้ราบลื่น ไร้รอยต่อ ถ้าถึงเวลาซ่าส์ยังเลือกสนุกในรูปแบบแอบห้าวเล็กๆด้วยการปรับเกียร์ในโหมด M และแพดเดิลชิฟท์ที่พวงมาลัย รวมถึง SI-Drive เมื่อเลือกใช้โหมด S-Sport ซึ่งตอบสนองได้รวดเร็ว
ถึงแม้ว่าในเชิงเทคนิคจะมีการปรับแต่งระบบรองรับ ในส่วนของโช๊คอัพและค่าKของขดสปริง โดยทางทีมวิศวกรออกแบบได้เน้นไปที่ความนุ่มนวลและสะดวกสบาย ไม่แข็งกระด้างอย่างที่รถลุยควรจะเป็น แต่ผลพลอยได้จากตำแหน่งการวางเครื่องยนต์ให้ต่ำลง และอีกหนึ่งความโดดเด่นของเครื่องยนต์สูบนอนคือมีการสั่นสะเทือนน้อยกว่าเครื่องยนต์แบบสูบเรียง ส่งผลให้ The New Forester เกิดเสถียรภาพการทรงตัวดีกว่าเครื่องยนต์ที่วางรูปแบบอื่นๆ
เมื่อมาถึงทางวิบากที่ทีมงานได้จัดเส้นทางไว้ใกล้กับที่พักในจ.กาญจนบุรี ตัวช่วยการลุยอย่างระบบ X-MODE อันชาญฉลาดจะเป็นอาวุธลับในการนำพาให้คุณเดินทางไปได้ทุกหนแห่ง แม้ในสถานะการณ์ที่คับขันบนเส้นทางทุรกันดาร ด้วยการควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ เกียร์ เบรก และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยทำงานที่ความเร็วประมาณ 20-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งควบคุมระบบหลักของรถ ได้แก่ คันเร่ง ซึ่งทำหน้าที่หน่วงไม่ให้ลิ้นปีกผีเสื้อเปิดเร็วกว่าที่กล่องสมองกลสั่งการ เพื่อให้ขับขี่ได้ง่ายบนทางวิบาก, ควบคุมระบบส่งกำลังให้อยู่ในเกียร์ต่ำ เพื่อสร้างแรงบิดในการลุย, ควบคุมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยเพิ่มการถ่ายเทกำลังที่เพลาล้อหน้าและล้อหลังซึ่งมีลิมิเต็ดสลิฟทำงานด้วยระบบไฟฟ้า, ควบคุมระบบ VDC หรือ Vehicle Dynamic Control เมื่อล้อฝั่งใดมีการหมุนฟรีระบบจะสั่งการให้เบรกทำงานที่ล้อนั้นทันที รวมไปถึงตัวช่วยอย่าง Hill Descent Control ระบบช่วยลงทางลาดชันจะทำงานที่ความเร็วต่ำกว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อให้ผู้ขับมีสมาธิในการควบคุมพวงมาลัย
การทดลองขับ The New Subaru Forester ในครั้งนี้มีสิ่งที่น่าสนใจอย่างระบบ X MODE ซึ่งเป็นตัวช่วยการขับขี่ที่ดีในเส้นทางทุรกันดาร และมีฟังค์ชั่นหลากหลายติดตั้งมาใหม่โดยเน้นไปที่ความสบายของผู้ใช้เป็นหลัก เรื่องของพละกำลังอาจตกเป็นรอง ทั้งยังถูกดรอปความจัดจ้านด้วยระบบเกียร์ซีวีที แต่การที่ Forester ได้ถูกปรับปรุงมาใหม่เพื่อวัตถุประสงค์ในการเป็นรถเอสยูวีที่ใช้งานสะดวกสำหรับการเดินทางของครอบครัวนักกิจกรรมสมัยใหม่ เพียงเท่านี้ก็น่าจะตอบโจทย์ให้สาวกดาวลูกไก่ และผู้ที่กำลังมองหารถเอนกประสงค์ได้ตามรสนิยมและความต้องการ