Friday, November 22, 2024
HomeAuto TestTestdrive: รถแฮทช์แบคกลุ่มอีโค่คาร์ 3 รุ่น 3 แบรนด์ดังแห่งปี 2017 (ภาพ+คลิปวีดีโอ)

Testdrive: รถแฮทช์แบคกลุ่มอีโค่คาร์ 3 รุ่น 3 แบรนด์ดังแห่งปี 2017 (ภาพ+คลิปวีดีโอ)

การทดสอบในครั้งนี้ เรามีความต้องการนำเสนอถึงความคุ้มค่า คุ้มราคา ของรถยนต์แฮทช์แบคที่จัดอยู่ในกลุ่มอีโค่คาร์เฟสแรก ซึ่งถือว่าเป็นโมเดลสุดท้าย ก่อนปิดมหาโปรเจคที่ลุล่วงมาเป็นเวลากว่า 5 ปีเต็ม สำหรับรถยนต์ที่เข้าข่ายมีทั้งหมด 3 รุ่น จาก 3 แบรนด์ดัง ได้แก่ Mazda 2, Nissan Note, และ Suzuki Swift RX II ผลการทดสอบนั้นจะมีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อรถยนต์ให้กับคุณ มากหรือน้อยเพียงใด www.autoworldthailand.com มีคำตอบครับ

มิติตัวถัง และ รูปลักษณ์

Mazda 2

Mazda 2 สำหรับรุ่นปรับปรุงล่าสุด ได้ปรากฏสู่สาธารณชนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาและยังคงชูจุดเด่นในเรื่องการออกแบบ ภายใต้ Kodo Design SOUL of MOTION หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวที่งดงาม มากับมิติตัวรถตามขนาดความยาว 4,060 มม. กว้าง 1,695 มม. สูง 1,470 มม.

ยังมีขนาดเท่าเดิมทั้งรุ่นแฮทช์แบค และ ซีดาน แต่รูปลักษณ์ได้รับการปรับแต่งในส่วนของไฟหน้า LED Projector และไฟ Day Time Running Light แบบ LED ดีไซน์ใหม่ รวมถึงไฟตัดหมอกแบบ LED พร้อมกรอบโครเมี่ยม และกระจกมองข้างที่มีการติดตั้งไฟเลี้ยวในตัว

รูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นและเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมคือลวดลายของล้อกระทะล้อและอัลลอยที่มีทั้งขนาด 15 นิ้วหุ้มยาง 185/65 R15 และขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 185/60 R16

NISSAN NOTE

NISSAN NOTE ถือกำเนิดมาในรูปแบบของรถแฮทแบครุ่นสุดท้องในกลุ่มอีโค่คาร์เฟสแรก ซึ่งมีตัวถังใหญ่สุดในกลุ่ม ด้วยขนาดความยาว 4,105 มม. กว้าง 1,695 มม. และสูง 1,535 มม. ในขณะที่มีระยะฐานล้อยาวถึง 2,600 มม. พร้อมน้ำหนักตัวโดยรวม 1,061 กก.

NOTE มากับรูปลักษณ์ที่ให้ความโฉบเฉี่ยว ออกแบบเส้นสายได้โดดเด่นภายใต้เอกลักษณ์เฉพาะของนิสสัน กระจังหน้าเป็นแบบ V-Motion ในรุ่นท๊อพ (VL) สะดุดตาไปกับโคมไฟแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อม LED Signature Light ซึ่งสามารถปรับระดับของลำแสงได้ตามความต้องการ

เส้นสายด้านข้างสะท้อนถึงความสปอร์ต พลิ้วไหว และมีหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดีเยี่ยม โดยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (CD) ต่ำสุดเพียง 0.30 มือจับประตูเพิ่มความหรูหราด้วยสีโครเมียม กระจกข้างทำสีเดียวกับตัวรถซึ่งพับและปรับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมติดตั้งไฟเลี้ยวที่ฝาครอบ ส่วนมุมมองด้านท้ายรถสวยงาม ติดตั้งไฟท้าย LED แบบ Signature รูปทรงบูมเมอแรง พร้อมไฟเบรกแบบ LED สำหรับ เสริมลุคสปอร์ตด้วยการติดตั้งสปอยเลอร์บนหลังคา


Suzuki Swift RX-II

ถือเป็นการปรับโฉมครั้งที่ 5 หลังจากที่อีโค่คาร์โมเดลนี้ได้กำเนิดในประเทศไทยเมื่อปี 2012 และสามารถกวาดยอดจำหน่ายทั่วโลกไปแล้วกว่า 5 ล้านคัน แต่ในครั้งนี้ คอนเซปต์การตกแต่งคือ “ล้ำ…ที่สไตล์ สุด…กับทุกฟังค์ชั่น” ยังคงเป็นการปรับแต่งไม่มากสักเท่าไหร่ ทั้งนี้ทีมงานซูซูกิได้ให้ข้อมูลชัดเจนว่าเป็นผลจากการสำรวจตามความต้องการของผู้บริโภค

รูปลักษณ์ของ Suzuki Swift RX-II ยังถือว่าไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมสักเท่าไหร่นัก ความโดดเด่น สะดุดตา มาในรูปแบบของออฟชั่นที่ถูกติดตั้งเพิ่มเติม อาทิโคมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ HID ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ ไฟตัดหมอกเป็นอีกหนึ่งส่วนที่ได้ปรับใหม่มาพร้อมไฟ LED เปิด-ปิดตามการทำงานของไฟหรี่ ด้านบนหลังคามีเสาอากาศในรูปแบบของครีบฉลาม

Suzuki Swift RX-II มากับขนาดตัวถังที่มีความยาว 3,850 มม. กว้าง 1,695 มม. และสูง 1,510 มม. ติดตั้งล้อแมกลาย 5 ก้านคู่สี Gun Metallic ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 185/55 R16 ซึ่งถือเป็นตัวชูโรงที่ทำให้ Suzuki Swift RX-II ดูสปอร์ต ดุดัน ขึ้นมาทันที แต่หากใครที่ติดตามรถยนต์โมเดลนี้จะสังเกตุได้ว่ารถคันนี้เป็นการผสมผสานระหว่าง Swift RX กับ Swift SEI และทำออกมาได้ค่อนข้างลงตัวทีเดียว

ห้องโดยสาร และ ออฟชั่น

MAZDA 2

สำหรับการตกแต่ง Mazda 2 เติมเต็มให้แปลกตาด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบเดียวกับ Mazda 3 MY 2017 มาพร้อมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control คอนโซลหน้าตกแต่งด้วยหนังแท้ จัดวางสวิทต์ควบคุมการใช้งานระบบต่างๆให้ใกล้มือและใช้งานง่ายตามหลัก HMIหรือ Human Machine Interface

เบาะนั่งเป็นแบบกึ่งหนังแท้สีดำเย็บด้ายสีแดง เบาะนั่งด้านหลังปรับพับได้แบบ 60/40

ติดตั้งจอแสดงความเร็ว Active Driving Displayแบบสี พร้อมตกแต่งภายในแบบ Two-tone Color Decoration

ฟังค์ชั่นล่าสุดที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีระดับสูงและได้ชูเป็นจุดเด่น คือระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control (GVC) ทำหน้าที่ในการควบคุมแรงบิดเครื่องยนต์เพื่อความแม่นยำในการถ่ายทอดกำลังลงล้อ ส่งผลให้การขับขี่ทุกทางโค้งเป็นไปอย่างราบรื่น ทั้งยังมีส่วนช่วยลดอาการโคลงของตัวรถได้อีกด้วย

NISSAN NOTE

ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ทำให้ชีวิตดูง่ายและทันสมัย รวมถึงระยะฐานล้อยาวสุดในกลุ่ม อีกทั้งประตูผู้โดยสารด้านหลังเปิดได้กว้างถึง 85 องศา ส่งผลให้ NOTE เข้า-ออก ห้องโดยสารได้อย่างสะดวก ภายในกว้างขวาง ตกแต่งด้วยโทนสีดำ และแตกต่างด้วยวัสดุสีเงิน เช่น หัวเกียร์ ฐานเกียร์ ขณะที่คอนโซลกลางเป็นสีเปียโน แบล็ค

เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้าสีดำแต่งขอบสีเบจ ในส่วนของเบาะด้านผู้ขับขี่สามารถปรับสูง-ต่ำ ให้เหมาะสมกับสรีระ พร้อมช่องเก็บของด้านหลัง สำหรับเบาะหลังปรับแยกแบบ 60 : 40 พวงมาลัยรูปทรงสปอร์ต แบบ D-Shape ปรับสูงต่ำได้ ติดตั้งระบบมัลติฟังก์ชั่นควบคุมการทำงานของเครื่องเสียงและระบบเชื่อมต่ออื่นๆ ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส

ชุดแดชบอร์ดติดตั้งมาตรวัดเรืองแสงอัจฉริยะมัลติฟังก์ชัน ดิสเพลย์ (MID) แสดงข้อมูลการขับขี่ แสดงระยะการเข้ารับบริการ อุณหภูมิภายนอก นาฬิกาดิจิทัล เสียงสัญญาณเตือนลืมปิดไฟหน้า ระบบเตือนเมื่อลืมกุญแจ มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติ

ในส่วนระบบความบันเทิง ติดตั้ง วิทยุ ซีดี เอ็มพี 3 แบบ 1 แผ่น หน้าจอ LED แบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว พร้อมเชื่อมต่อ AUX, USB, Bluetooth และช่อง AV-in , HDMI ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบ Bluetooth

SUZUKI SWIFT RX-II

ภายในยังคงความสปอร์ตไว้ครบถ้วน ทั้งลวดลายของเบาะนั่ง และ แผงข้าง ในขณะที่เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระ

พวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังค์ชั่น ติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและสวิทช์ควบคุมระบบเครื่องเสียง พร้อมกับติดตั้งระบบแพดเดิล ชิฟท์ เพื่อการขับขี่ที่สนุกสนาน

มาตรวัดทรงกลมแต่งขอบด้วยวัสดุสีเวินตามแนวโค้งพร้อมฟังก์ชั่นปรับแสงอัตโนมัติ ช่วยให้มองเห็นได้ดีขึ้น ทั้งยังมีจอแสดงผลแบบ MID (Multi Information Display) แสดงผลนาฬิกา, อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน, ค่าเฉลี่ยการใช้น้ำมันต่อระยะทาง, ระยะทางการขับขี่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน


คอนโซลกลางติดตั้งระบบเครื่องเสียงแบบดิจิตอล และมีระบบปรับอากาศอัตโนมัติแสดงผลในรูปแบบดิจิตอล

ขุมพลัง และ ระบบช่วงล่าง

MAZDA 2

ขุมพลังของ Mazda 2 เป็นเครื่องยนต์เบนซินใช้ชื่อเรียกว่า SKYACTIVE-G ขนาดความจุ 1,299 ซีซี แบบ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 93 แรงม้าที่ 5,800 รอบ/นาที พร้อมแรงบิด 123 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาทีโดยเคลมอัตราสิ้นเปลืองไว้ที่ 23 กม./ลิตร และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ต่ำเพียง 100 กรัม/กม.

ระบบส่งกำลังเป็นแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-DRIVE พร้อมโหมด รวมถึงติดตั้งระบบแพดเดิล ชิฟท์ที่พวงมาลัย ในด้านของระบบรองรับด้านหน้าเป็นแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม

NISSAN NOTE

ขุมพลังเป็นบล๊อกเดียวกับ March และ Almera ในรูปแบบของเครื่องยนต์เบนซินรหัส HR12DE แบบ 3 สูบ แถวเรียง DOHC 12 วาล์ว CVTC (Continuously Variable-valve Timing Control) ขนาด 1,198 ซีซี มาพร้อมกับหัวฉีดอีเลคทรอนิคส์ มัลติพอยท์ (ECCS) 32 บิท ให้กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที พ่วงระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ เมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) ช่วยให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น


ระบบเกียร์เป็นแบบ XTRONIC CVT D-Step Logic ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ทำได้นุ่มนวล แต่ให้อัตราเร่งต่อเนื่องและตอบสนองทันใจ รวมถึงติดตั้งระบบรองรับด้านหน้า อิสระ แม็คเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลัง ทอร์ชัน บีม พร้อมเหล็กกันโคลง

SUZUKI SWIFT RX-II

ติดตั้งเครื่องยนต์รหัส K 12 แบบเบนซิน 4 สูบ ขนาดความจุ ขนาด 1.25 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 118 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที รองรับเชื้อเพลิง อี 20


ระบบส่งกำลังติดตั้งชุดเกียร์ CVT แบบ 7 จังหวะ และระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม

ราคาจำหน่าย

MAZDA 2 ราคา 670,000 บาท

NISSAN NOTE ราคา 640,000 บาท

SUZUKI SWIFT RX-II ราคา 599,000 บาท

คุยหลังขับ

ข้อมูลโดยรวมของรถแฮทช์แบคในกลุ่มอีโค่คาร์ทั้ง 3 คันได้บรรยายไว้เสร็จสรรพ จะเหลือก็แต่สมรรถนะการขับขี่และเทคโนโลยีตัวช่วยต่างๆ ซึ่งทั้งหมดเรามีทัศนะจาก 3 สื่อมวลชนผู้คว่ำหวอดในการทดสอบรถยนต์มาพูดคุยแบบเจาะลึก ติดตามได้จากคลิปวีดีโอนี้ครับ

RELATED ARTICLES

Most Popular