Toyota Altis 2019 ชูจุดเด่นนวัตกรรม TNGA รุ่นที่ 3 ต่อจาก Camry และ CHR เปิดตัวพร้อมกัน 3 เครื่องยนต์ ขนาด 1.6 ลิตร 132 แรงม้า ขนาด 1.8 ลิตร 142 แรงม้า และ และขนาด 1.8 ลิตร ทำงานร่วมกับระบบไฮบริดเจนเนอเรชั่นที่ 4 ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า โดดเด่นด้านการประหยัด โดยจะเข้ามามีบทบาทในฐานะ “ผู้เล่นที่จะมาเปลี่ยนเกมส์ในตลาด C Segment” ได้หรือไม่
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดงานเปิดตัว All New Toyota Corolla Altis ตามคอนเซ็ปต์ “Make a New High-ข้ามขีดสุดที่เหนือกว่า ซึ่งมาพร้อมดีไซน์ภายนอกโดดเด่น ภายในกว้างขวาง พร้อมด้วยฟังก์ชันที่สะดวกและครบครัน ระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกรุ่นล่าสุด (Toyota Safety Sense) และถือเป็นครั้งแรกที่มาพร้อมกับระบบไฮบริดรุ่นล่าสุด ในเจเนอเรชั่นที่ 4
Toyota Altis 2019 แบ่งออกเป็น 6 รุ่นได้แก่ Hybrid High, Hybrid Mid, Hybrid Entry,1.8 GR Sport,1.6 G และ Limo ซึ่งแบ่งขุมพลังออกเป็น 3 รุ่น ดังนี้
ในรุ่น 1.6 G และ Limo ใช้เครื่องยนต์รหัส 1ZR-FAE ในรูปแบบของ Dual VVT-i ขนาด 1,598 ซีซี 125 แรงม้าที่ 6,050 รอบ แรงบิด 159 นิวตันเมตรที่ 4,200 รอบ ส่งกำลังผ่านเกียร์อตโนมัติ CVT รองรับเชื้อเพลิงอี 85
ส่วน 1.8 GR Sport เครื่องยนต์รหัส 2 ZR-FE Dual VVT-i ขนาด 1,798 ซีซี 140 แรงม้าที่ 6400 รอบ แรงบิด 173 นิวตันเมตรที่ 4000 รอบ ส่งกำลังผ่านเกียร์ Super CVT-i พร้อม Sequential Shift ซอยเกียร์เป็น 7 จังหวะ รองรับเชื้อเพลิงอี 85
และอีก 3 รุ่น ได้รับการติดตั้งระบบไฮบริดเจน 4 ที่โดดเด่นด้านความเงียบและประหยัด มาจากเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรรหัส 2 ZR-FXE ความจุ 1,798 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้าและแรงบิด 142 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแรงดัน 600 โวลท์ ให้พลัง 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร เมื่อรวมทั้ง 2 ระบบจะทำให้มีกำลังรวม 122 แรงม้า
ระบบส่งกำลังเป็นแบบเกียร์ E-CVT แบตเตอรี่ใช้ Nickel Metal Hydride แรงดัน 201.6 โวลท์ ทำอัตราสิ้นเปลืองได้สูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร และรองรับเชื้อเพลิงอี 20
Toyota Altis 2019 ถือเป็นการปรับโฉมใหม่ในเจนเนอเรชั่นที่ 12 ซึ่งมาโครงสร้างตัวถังนวัตกรรม TNGA รุ่นที่ 3 ต่อยอดจาก Camry และ CHR มากับมิติตัวรถที่มีความยาว 4,630 มม. กว้าง 1,780 มม. สูง 1,435 มม. หากเทียบกับเจนเดิมจะยาวกว่า 10 มม. กว้างกว่า 5 มม. แต่เตี้ยลง 25 มม. จุดศูนย์ถ่วงลดลง 10 องศา ความแกร่งของตัวถังเพิ่มขึ้น 60%
รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบภายใต้แนวคิด “Shooting Robust” กับเส้นสาย ที่โฉบเฉี่ยว ทันสมัย ไฟหน้าเป็นแบบ LED Projector มีระบบเปิด – ปิด อัตโนมัติพร้อมไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED Daytime Running Lights
รุ่นท๊อพ Hybrid High ทำงานไปพร้อมกับระบบเปิด-ปิด ไฟสูงอัตโนมัติ หน้ากระจังตกแต่งด้วยวัสดุสีโครเมียม ในรุ่น Hybrid จะมีการฝังเรดาร์ที่โลโก้ เพื่อประมวลผลการทำงานของระบบระบบเตือนเมื่อผู้ขับขี่เหนื่อยล้า Driver Assist Alert,ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทางพร้อมหน่วงพวงมาลัยอัตโนมัติ,ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control ปรับความเร็วตามคันหน้าจนถึงหยุดนิ่งและระบบความปลอดภัยก่อนการชนซึ่งจะทำหน้าที่ในการเบรกอัตโนมัติ
ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ได้รับการติดตั้งในรุ่น Hybrid High และ 1.8 GR Sport ส่วนที่เหลือเป็นขนาด 16 นิ้ว ยกเว้นในรุ่น Limo ที่เป็นขอบ 15 นิ้วเท่านั้น และยังมีระบบซึ่งได้ทำการติดตั้งระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry) สามารถปลดล็อกประตูได้โดยอัตโนมัติ
ด้านหลังออกแบบไฟท้ายใหม่แบบแอลอีดี พร้อมโลโก้ประจำรุ่นติดตั้งบริเวณฝากระโปรงท้ายรถ
ภายในกว้างขวาง เพิ่มวัสดุซับเสียงจากพื้นและห้องเครื่องยนต์เบาะนั่งออกแบบได้ประณีต ติดตั้งมาตรวัดเรืองแสงแบบ Optriton พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว
บริเวณคอนโซลกลางติดตั้งจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว เชื่อมต่อกับระบบนำทางอัตโนมัติและรองรับการเชื่อมต่อกับ Apple Carplay ในรุ่น Hybrid High จะติดตั้งอุปกรณ์พิเศษกว่าทุกรุ่นได้แก่ ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อมนวด เครื่องฟอกอากาศนาโนอิ และ Head Up Display
Toyota Altis 2019 ทุกรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ Hybrid บริเวณคอนโซลเกียร์จะมีการติดตั้งปุ่มควบคุม EV Mode,Tracktion Control และโหมดขับขี่ในรูปแบบต่างๆรวมถึงเบรกมือไฟฟ้า และ Auto brake Hold
ระบบช่วงล่างหน้าแมคเฟอร์สัน หลังมัลติลิงค์ดับเบิลวิชโบน มาพร้อมระบบความปลอดภัยเต็มพิกัดทั้ง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Vehicle Stability Control ระบบควบคุมการทรงตัว Anti-lock Brake System ระบบป้องกันล้อล็อก Electronic Brake-force Distribution ระบบกระจายแรงเบรก Brake Assist ระบบเสริมแรงเบรก ถุงลมเสริมความปลอดภัยระบบ SRS 7 ตำแหน่งทุกรุ่น โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA พร้อมคานนิรภัย
ออฟชั่นพิเศษในรุ่นท๊อพ Hybrid High ยังมีกล้องมองภาพขณะถอยจอด ,ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง และ ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถผ่านขณะถอยหลัง ระบบเตือนเมื่อผู้ขับขี่เหนื่อยล้า Driver Assist Alert กล้องรอบคัน 360 องศา และระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง
รุ่นพิเศษอย่าง 1.8 GR Sport มาพร้อมชุดแต่งทั้งภายนอกและภายใน นอกจากชุดสเกริ์ตรอบคัน เบาะนั่งคู่หน้าจะเป็นทรงสปอร์ตสีดำขลิบแดง ติดตั้งมาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron จะมาพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีขนาด 4.2 นิ้ว ทั้งยังติดตั้ง Back Guide Monitor หรือกล้องมองภาพขณะถอยหลังและแพดเดิลชิฟท์ที่พวงมาลัย
Toyota Altis 2019 มีให้เลือกทั้งหมด 7 สีได้แก่ White Pearl,Phantom Brown,Super White II,Attitude Black Mica,Silver Metallic และ Red Mica Metallic
ด้านของราคาจำหน่ายได้แบ่งไว้ทั้งหมด 6 รุ่นดังนี้
รุ่น Hybrid High ราคา 1,099,000 บาท
รุ่น Hybrid Mid ราคา 989,000 บาท
รุ่น Hybrid Entry ราคา 939,000 บาท
รุ่น 1.8 GR Sport ราคา 999,000 บาท
รุ่น 1.6 G ราคา 869,000 บาท
รุ่น Limo ราคา 829,000 บาท
สำหรับแคมเปญช่วงเปิดตัว สามารถเลือกผ่อนดอกเบี้ยต่ำ 1.99% 4 ปี หรือผ่อนเริ่มต้นเพียง 8500 บาท รวมถึงขยายการรับประกันจาก 3 ปีเป็น 5 ปี ซึ่งสามารถสอบถามรายละเอียดได้ทุกโชว์รูมโตโยต้าทั่วไทย