Mercedes EQE 300 Sedan ยนตรกรรมระดับลักซูรี่ซีดาน จะว่าไปมันคือ EQS ย่อส่วนก็ว่าได้ แถมยังเป็นรุ่นสุดท้ายในกลุ่มของรถในตระกูล EQ ก่อนจะกลับไปเป็นหนึ่งเซกเมนต์ของ Mercedes Benz ที่จะเป็นรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ แต่ในส่วนของ Mercedes AMG สายพันธุ์แรงรุ่นต่างๆยังคงอยู่ รูปลักษณ์ที่งดงามพร้อมกับฟีเจอร์ที่ล้นคันกับขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าตัดตั้งที่ล้อหลัง พละกำลังสูงสุด 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.3 วินาทีพร้อมความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. และทีเด็ดจากแบตเตอรี่ ขนาดความจุ 89 kWh ซึ่งทำระยะทางได้ไกลถึง 651 กม.
ไฮไลท์คร่าวๆก็ว๊าวไม่น้อย ซึ่งราคาค่าตัวของรถคันนี้อยู่ที่ 3.97 ล้านบาท แต่หากต้องการในรูปแบบเช่าซื้อ ราคาจะลดลงจากเดิมแถมไม่ต้องดุแลหรือบำรุงรักษาใดๆ ออกตัวไว้อีกนิดสำหรับอนาคต ลักซูรีซีดานไฟฟ้าแรร์ไอเท็มคันนี้ เสี่ยสายสะสมห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
Mercedes EQE 300 Sedan หรือ จะเรียกว่าเบบี๋ EQS ก็ไม่น่าจะผิดแปลกสักเท่าไหร่ เพียงแต่มีมิติตัวรถที่เล็กลง หากนึกไม่ออก ลองนึกถึงโครงสร้างของ S Class กับ E Class ซึ่งมีความต่างในมิติตามสัดส่วนความยาว 4,964 มิลลิเมตร กว้าง 1,906 มิลลิเมตร สูง 1,492 มิลลิเมตร ในขณะที่ระยะฐานล้อยาวได้ถึง 3,120 มิลลิเมตร ส่งผลให้ห้องโดยสารใหญ่โตตามไปด้วยนั่นเอง
รถคันนี้ประดับประดาไปด้วยดวงดาวรอบคัน หน้ากระจังมีดาวดวงใหญ่ที่ซ่อนเซ็นเซอร์ระบบความปลอดภัยไว้อย่างเนี๊ยบ รวมถึงที่กันชน กระจกหน้า และรอบๆคัน นอกจากดาวดวงใหญ่ ดาวดวงน้อยที่ประดับประดาอยู่ในล้อแม็กขนาด 20 นิ้ว ก็ถือเป็นงานฝีมือที่ผู้สร้างไม่มองข้าม
ไฟหน้าโฉบเฉี่ยวพร้อมลำแสงที่พุ่งไกลตามสไตล์ LED High Performance การตกแต่งโดยรวมเรียกว่าสไตล์ Electric Art Package มากับชุดแต่งรอบคัน Night Package ออกแบบให้มือเปิดประตูซึ่งซ่อนไว้ดูกลมกลืน มีระบบกุญแจ KEYLESS-GO ที่เพียงเดินเข้าใกล้ตัวรถ ประตูก็จะเปิดและปิดอัตโนมัติ
ภายในจะต่างจาก EQS เล็กน้อย ตัดหน้าจอในส่วนผู้โดยสารตอนหน้าออกจาก 3 เหลือเพียง 2 จอ บังคงไว้ในส่วนของมาตรวัด Full Digital ขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอกลาง OLED ขนาด 12.8 นิ้ว พร้อมระบบปฎิบัติการ MBUX 7 และ ระบบ Online Music Streaming รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ติดตั้งที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger
สร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารได้หลากหลายจาก Ambient Light 64 สี ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ THERMATIC แยกอิสระ 2-Zones
เบาะนั่งแบบ Comfort Seats คู่หน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจํา และระบบดันหลัง 4 ทิศทาง แบบ Lumbar support รวมถึงฟังก์ชันอุ่นเบาะสําหรับที่นั่งคู่หน้า ส่วนเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลัง พับได้แบบ 1/3 และ 2/3 สำหรับช่องเสียบ USB Type–C มีให้ 6 ตําแหน่ง
ด้านขุมพลังติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 245 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง RWD อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 89 kWh รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง AC สูงสุด 11 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 170 kW จาก 10 – 80% ใช้เวลา 32 นาที ทำระยะทางสูงสุดต่อการชาร์จเต็มที่ 651 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP)
ระบบช่วงล่างแบบ Comfort Suspension ติดตั้งช็อคอัพแบบ Passive Selective Damping ทำงานตามโหมดการขับขี่ร่วมกับระบบ Dynamic Select ซึ่งมีโหมด Individual ปรับแต่งได้ตามสไตล์ส่วนตัว
ระบบความปลอดภัยเต็มพิกัดมาตรฐานนำเข้าทั้งคันจากเยอรมัน ได้แก่
ถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตําแหน่ง สําหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตําแหน่ง สําหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า
ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้างป้องกันศีรษะ 4 ตําแหน่ง สําหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่าผู้ขับขี่
ถุงลมนิรภัยระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า
เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 5 ที่นั่ง
สัญญาณเตือนเข็มขัดนิรภัยบนหน้าจอ สําหรับผู้โดยสารด้านหลัง
โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP (Electronic Stability Program)
ไฟเบรกกะพริบฉุกเฉิน Adaptive brake light
ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร
ระบบสร้างเสียงจําลอง สําหรับเตือนผู้ใช้ถนน Acoustic presence indicator
ระบบช่วยการนํารถเข้าจอดอัตโนมัติ Active Parking Assist
ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ Active Brake Assist
ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind Spot Assist
ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ATTENTION ASSIST
ระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้า และควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Active Distance Assist DISTRONIC
กล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยจอด
ระบบป้องกันก่อนเหตุ PRE–SAFE® system
ระบบเตือนแรงดันลมยาง
อุปกรณ์ปะยางแบบฉุกเฉิน TIREFIT
การทดสอบสมรรถนะในครั้งนี้ได้ทดลองหลากหลายรูปแบบ ที่เด็ดคือฟิลิล่งช่วงล่างที่ให้อารมณ์ต่างจากรถไฟฟ้าจีนอย่างชัดเจน ทั้งควบคุมง่าย มั่นใจ และให้การยึดเกาะถนนพร้อมซับแรงสั่นสะเทือนที่มาตรฐานสูง นั่งสบาย
ด้านความเร็วอาจจะไม่ถึงกับจี๊ดจ๊าด บ้าพลังเหมือนกระแสที่ว่า 0-100 กม./ชม.ในเวลาไม่ถึง 4 วินาที จากรถไฟฟ้าฝั่งแผ่นดินใหญ่ แต่สำหรับ Mercedes EQE 300 Sedan ที่ทำได้ในเวลา 7.3 วินาที ซึ่งถ้าลองใช้งานโหมด Sport อาการหลังติดเบาะที่สัมผัสได้ก็รุนแรงไม่น้อย ยิ่งความเร็วปลายทะลุ 200 กม./ชม. ในการควบคุมที่ง่ายและมั่นใจ แค่นี้ก็เพียงพอ
ตัวช่วยการขับขี่มีให้มากมานและปรับให้ทำงานได้ราบลื่นและนุ่มนวลกว่าที่ผ่านมา ยิ่งไหมดจดจำเส้นทางในกรณีถอยจอด จะยิ่งช่วยให้จอดรถได้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพราะมีความจำเส้นทางได้มากถึง 100 ม.
ปุ่มควบคุมต่างๆยังไม่ได้ถูกย้ายเข้าไปสั่งการผ่านหน้าจอสีมผัส เพราะฉะนั้นการใช้งานทำได้ง่ายดายและคุ้นชิน ไม่ต้องเสียเวลาต้นหาตำแหน่งที่อยู่ของฟีเจอร์นั้นๆให้วุ่นวาย
สุดท้ายด้วยเงื่อนไขกรณีเช่าชื้อกับโปรแกรม My Star กับ MBLT ดาวน์ 0% ผ่อน 58,000 บาท x 60 เดือน พร้อมฟรี MBSP Extra Guatantee 5ปี และ MBSP Easy Care 5 ปี พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 (MB Protection) 3 ปี และฟรี UnlimitedDC Charging ระยะเวลา 1 เต็ม