Tuesday, July 22, 2025
HomeAuto Test(มีคลิปวีดีโอ) ใช้งานจริง “LEAPMOTOR C10” รถอเนกประสงค์ไฟฟ้าที่กล้าพูดว่าขับดีที่สุดเท่าที่เคยลองมา

(มีคลิปวีดีโอ) ใช้งานจริง “LEAPMOTOR C10” รถอเนกประสงค์ไฟฟ้าที่กล้าพูดว่าขับดีที่สุดเท่าที่เคยลองมา

เป็นอีกครั้งที่ได้สัมผัสกับยนตรกรรมไฟฟ้ารุ่นใหม่ ในนาม “Leap Motor C10” หลังจากที่ได้ลองในสนามทดสอบเพียงไม่กี่รอบสนาม แต่ครั้งนี้จัดเต็มและใช้งานจริง ในชีวิตจริง และเป็นสเป็ครถจริงสำหรับจำหน่ายในไทย กลุ่มพระนครยนตรการ หรือ (PNA) ตั้งราคาค่าตัวเพียง 1,089,000 บาท ซึ่งความเนี๊ยบจากช่วงล่าง ที่ทีมออกแบบจากอดีตวิศวกรค่ายตรีศูล Maserati พอมาได้ใช้งานจริง ยิ่งประทับใจ พละกำลังขับเคลื่อน ไม่ได้บ้าพลังแบบรถจีนหลายๆค่าย แต่ 218 แรงม้า กับ แรงบิด 320 นิวตันเมตร ก็จี๊ดจ๊าดไม่ใช่น้อย 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 7.5 วินาที สำหรับแบตเตอรี่ ชาร์จไฟเต็มทำระยะทางการใช้งานได้ 424 กม. ตามาตรฐาน WLTP

ความโดดเด่นของรถไฟฟ้าลูกครึ่ง จีน-ยุโรป ยังมีให้สาธยายอีกพอสมควร เฉพาะระบบความปลอดภัย ADAS ที่ติดตั้งมาให้ถึง 16 ฟีเจอร์ ก็มากโข และเทคโนโลยีที่มาพร้อมกับความทันสมัยนี้เองที่ทำให้เป็นดาบสองคม แต่ก็ยังดีที่สามารถเลือกเปิด และ ปิด ฟีเจอร์เหล่านี้ได้ เกริ่นมาพอสังเขป มาตามติดเรื่องราวของการทดสอบ Leap Motor C10 กันต่อได้จากรายงาน

Leap Motor C10 2

ชื่อเสียงของ Leap Motor คนไทยอาจจะไม่รู้จักสักเท่าไหร่ แต่ความยิ่งใหญ่ของ Stallentis ในฐานะบริษัทแม่ หลายคนอาจคุ้นหู ยักษ์ใหญ่วงการอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นการถือครองแบรนด์รถยนต์สัญชาติ จีน ยุโรป และ สหรัฐอเมริกามากกว่า 10 ยี่ห้อ อาทิ Alfa Fiat Peugeot Citroen RAM Jeep  Maserati และอีกหลายแบรนด์ รวมถึง Leap Motor

Leap Motor C10 3

Leap Motor C10 เกิดขึ้นจากความร่วมมือของทีมวิศวกรทั้งจีน และ ยุโรป เพื่อให้ได้ยนตรกรรมไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การใช้งาน คงความปลอดภัย และ ขับสนุก ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงจากตัวเลขยอดจำหน่ายของชาติต้นทาง ทั้งจีน และ ยุโรปอีกหลายประเทศ

Leap Motor C10 4

รูปลักษณ์ตามสไตล์รถตรวจการณ์ในเวกเมนต์ C-SUV อัตลักษณ์ของ Leap Motor ที่จะส่งจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อความจดจำของสายตารอบด้าน และ สไตล์ เฉพาะตัว หลังคาพาโนรามิคขนาดใหญ่เคลือบกันแสงยูวี กินพื้นที่ร่วม 90% ของหลังคาทั้งหมด รอบๆรถติดตั้งเซนเซอร์ 12 จุด และกล้องประมวลผลทั้งด้านหน้าและหลัง ล้อขนาด 20 นิ้ว ฝาท้ายมีระบบไฟฟ้า แต่ไม่มีแฮนด์ฟรี และ คิ๊ก เซนเซอร์ มีปุ่มเปิดปิดที่ซ่อนบริเวณไฟท้าย แอบเท่อีกนิดกับที่ปัดน้ำฝนหลัง ซ่อนไว้ใต้สปอยเลอร์

Leap Motor C10 5

ห้องโดยสารกว้างมาก เบาะแถวหน้าติดตั้งระบบนวด และพับได้ระนาบเดียวกับแถว 2 เผื่อสำหรับการทำเป็นที่นอน กรณีที่ต้องนอนในรถ และที่สำคัญ วัสดุที่ใช้หุ้มเบาะทำมาจากวัสดุเดียวกับที่ใช้ผลิตจุกนมเด็ก นุ่มนวลทุกสัมผัส

Leap Motor C10 6

Leap Motor C10 7

ปุ่มกดใช้งานหายเกลี้ยง ย้ายเข้าไปไว้ในจอทัชสกรีนที่รวบรวมทุกการใช้งานไว้ในตัว แม้แต่กระทั่งปรับทิศทางระบบปรับอากาศ ซึ่งควรทำความเข้าใจและรู้ก่อนว่าระบบที่จะใช้งาน อยุ่ในส่วนการควบคุมไหน เพราะหากขับไปเซ็ทระบบไป บอกไว้ตรงนี้เลยว่าค่อนข้างอันตราย และถ้าคุณไม่ควบคุมและสั่งการ ระบบ ADAS จะทำหน้าที่ทุกครั้งหากไม่ปิด เช่น ระบบเตือนและดึงกลับกลางช่องทาง ระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบๆรถ และอีกมากมาย ซึ่งจะเปิด หรือ ปิด การใช้งานก้ทำได้ตามสะดวก ยกเว้นในส่วนของระบบตรวจจับม่านตา ซึ่งจะเตือนตลอดเวลา หากสายตาคุณไม่มุ่งมั่นกับถนน หรือขาดสมาธิในการขับขี่ ระบบจะส่งเสียงเตือนเป็นระยะ

Leap Motor C10 6

โหมดการขับชี่มีให้เลือกหลากหลาย ตรงนี้ปรับเซ็ทมาดี เพราะการหน่วงพลังงานกลับไปสะสมยังแบตเตอรี่ ไม่ดึงหนักจนหัวทิ่มเหมือนในอดีตที่รถไฟฟ้าเคยเป็น

การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้ง 2 ระบบ รวมถึงทำหน้าที่เป็น E SIM ปล่อยสัญญาณอินเตอร์เนทได้จากตัวรถ ซึ่งทำให้แอพพลิเคชั่นเพื่อความบันเทิงหลากหลาย ติดตั้งในรถคันนี้ ทั้ง JOOX TIKTOK Youtube Spotify ลำโพง 12 ตำแหน่งจัดวางรูปแบบโฮมเธีนเตอร์ 7.1 Channel

ขุมพลังมาจากมอเตอรืไฟฟ้าติดตั้งที่ล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 ใช้เวลา 7.5 วินาที ทำความเร็วสุงสุด 170 กม./ชม. และแบตเตอรี่ติดตั้งไว้ในโครงสร้างตัวถัง ขนาด 69.9 กิโลวัตต์ ชาร์จไฟเต็มสามารถใช้งานได้ 424 กม.ตามาตรฐาน WLTP ชาร์จไฟกระแสตรง DC 84 kW จาก 30 – 80% ภายในเวลา 30 นาที

Leap Motor C10 9

 

ระบบช่วงล่างถือเป้นทีเด็ดที่ส่งตรงจากอดีตทีมออกแบบของ Maserati ด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน ด้านหลังเป็นมัลติลิงค์ ซึ่งกวาดรางวัลจากฝั่งยุโรปมาแล้วมากมาย ออกแบบให้มีความยีดหยุ่นและรับการกระแทกได้อย่างมั่นคง รอยต่อถนน คอสะพาน เก็บรายละเอียดดีมาก แถมน้ำหนักที่มายังพวงมาลัย ไม่หนักจนเกินไป ออกแนวกระฉับกระเฉง

Leap Motor C10 9

การ์ด NFC หัวใจสำคัญในการใข้งานรถยนต์ ทำหน้าที่แทนกุญแจ เพียงเอาไปนาบกับเซ็นเซอร์ที่ฝังไว้ที่กระจกมองข้างฝั่งคนขับ ก็จะสามารถเปิด และ ปิด รถคันนี้ หากแต่การขับเคลื่อน ต้องนำการ์ดไปวางไว้ที่ตำแหน่งเดียวกับ Wiress Charger เท่ากับเป็นการเปิดระบบทั้งหมด หรือคือการสตาร์ทรถนั่นเอง

Leap Motor C10 10

อนาคตอันใกล้ การ์ด NFC จะทำงานเพิ่มขึ้นอีกรูปแบบ นั่นคือควบคุมผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งหลังจากระบบใช้งานได้ หลักใหญ่ใจความของการขับขี่ Leap Motor C10 จะสะดวกสบายยิ่งขึ้น เพราะควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนนั่นเอง

Leap Motor C10 11

ประเด็นต่างๆที่ได้นำเสนอเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการทดสอบ ฟิลลิ่งการขับขี่ รวมถึงวิธีการใช้งานระบบต่างๆ ของ Leap Motor C10 สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้จากคลิปวีดีโอ

RELATED ARTICLES

Most Popular