อีซูซุเดินหน้าเป็นปีที่ 7 ส่งมอบโครงการ “อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต” แห่งที่ 33 เพื่อให้โรงเรียนด่านอุดมศึกษา จังหวัดศรีสะเกษ มีน้ำดื่มสะอาดอย่างยั่งยืน
กลุ่มตรีเพชร โดย มร. โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “กลุ่มอีซูซุในประเทศไทยเดินหน้าสานต่อโครงการ “อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต” ด้วยปณิธานอันแน่วแน่อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 โดยมุ่งหวังที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่มสะอาดที่เกิดขึ้นในโรงเรียนถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศอย่างจริงจัง
จึงได้ร่วมกับกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดสรรความช่วยเหลือด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ขุดเจาะน้ำบาดาลแบบครบวงจร พร้อมระบบกรองน้ำดื่มสะอาดตามมาตรฐานให้กับทางโรงเรียน ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนและบุคลากรภายในโรงเรียนได้มีน้ำดื่มสะอาดสำหรับอุปโภคและบริโภค อีกทั้งยังช่วยลดรายจ่ายจากการซื้อน้ำมาใช้ และยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการบรรจุน้ำดื่มใส่ขวดเพื่อจำหน่ายราคาพิเศษแก่ชาวบ้านในชุมชนใกล้เคียงในรูปแบบสหกรณ์ และนำรายได้กลับมาเป็นค่าบำรุงรักษาในอนาคตอีกด้วย”
สำหรับโรงเรียนด่านอุดมศึกษา ตำบลด่าน อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ เป็นโรงเรียนประจำตำบลที่มีนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1–6 รวม 157 คน ครูและบุคลากรในโรงเรียน 18 คน รวมทั้งสิ้น 175 คน ชาวบ้านในชุมชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งส่วนใหญ่ยึดอาชีพเป็นเกษตรกร ปลูกข้าว และทำประมงน้ำจืด ต่างประสบปัญหาน้ำดื่มที่ไม่เพียงพอ ต้องซื้อน้ำประปาในหมู่บ้าน นำมาผ่านเครื่องกรองขนาดเล็กสำหรับบริโภค และในช่วงหน้าแล้งในเดือนกุมภาพันธ์ – พฤษภาคม จะขาดแคลนน้ำดื่มอย่างหนัก ต้องใช้น้ำผิวดินที่เป็นตะกรันสีเหลืองมาเสริม ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพกันอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการได้มาซึ่งระบบน้ำดื่มสะอาดที่ได้มาตรฐานสำหรับบริโภคอย่างยั่งยืนจะช่วยให้ทุกชีวิตมีคุณภาพที่ดีขึ้น
โครงการ “อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต” เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเพื่อสังคมที่กลุ่มอีซูซุภาคภูมิใจ ได้รับรางวัลแห่งเกียรติยศทั้งในระดับนานาชาติและในประเทศ ด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับน้ำให้กับโรงเรียนพื้นที่ทุรกันดาร และเป็นโครงการระยะยาวที่กลุ่มอีซูซุดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 และมุ่งมั่นที่จะทำอย่างต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ตามปณิธานที่ว่า “อีซูซุจะดำเนินโครงการนี้จนกว่าจะไม่มีโรงเรียนในประเทศไทยประสบปัญหาน้ำดื่มสะอาดอีกต่อไป”