แฮทช์แบค 5 ประตู รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว มีสไตล์ ปรับโฉมใหม่ทั้งภายนอกและภายใน ยกระดับความปลอดภัยเหนือชั้นกว่าคู่แข่ง ทั้งถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งและตัวช่วยการขับขี่ อาทิ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control) และ ระบบควบคุมการทรงตัว (Vehicle Stability Control) สมรรถนะขับสนุกไปกับเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร เกียร์อัตโนมัติซีวีที ทุกรุ่นปรับราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนเพียง 10,000 บาท
หลังจากที่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้แนะนำรถยนต์ โตโยต้า ยาริส คอมแพคแฮทช์แบ็ครุ่นยอดนิยมเข้าสู่ตลาดประเทศไทยเป็นครั้งแรกในเดือนมกราคมปี พ.ศ. 2549 ซึ่งได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีมาโดยตลอด และในเดือนตุลาคมปี พ.ศ. 2556 โตโยต้า ได้เปิดตัว ยาริส เจนเนอเรชั่นที่ 2 ด้วยความโดดเด่นของเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร ตอบสนองความนิยมรถเครื่องยนต์ขนาดเล็กในประเทศไทยทำให้สามารถครองใจลูกค้าชาวไทย ด้วยยอดขายสะสมมากกว่า 150,000 คัน
สำหรับ โตโยต้า ยาริส โมเดลล่าสุดถือเป็นการปรับโฉมในรูปแบบของ Big Minorchange ซึ่งเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่รอบคันทั้งภายนอกและภายใน โดยมีต้นทางมาจาก ยาริส เอทีฟ ที่เปิดตัวไปก่อนหน้าเพียงเดือนเศษ
โตโยต้า ยาริส ใหม่ มากับรูปลักษณ์ของรถในสไตล์แฮทแบค 5 ประตู ซึ่งมากับขนาดมิติตัวถังในขนาดเดิม ตามความยาว 4,145 มม. กว้าง 1,730 มม. และสูง 1,500 มม.โฉบเฉี่ยวด้วยรูปลักษณ์ใหม่ที่ดูแปลกตาไป
มุมองด้านหน้ามีส่วนคล้ายกับรูปลักษณ์ของ ยาริส เอทีฟ กระจังหน้าโครเมียมรมดำ เจาะรูให้ความสปอร์ตในรูปแบบรังผึ้ง ไฟหน้าเป็นแบบ Projector พร้อมติดตั้งระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และมีไฟส่องสว่างเวลากลางวันติดตั้งบริเวณกันชน รวมถึงไฟตัดหมอกที่มุมกันชนทั้ง 2 ฝั่ง
โคมไฟท้ายเป็นอีกหนึ่งจุดที่ได้รับการปรับเปลี่ยนด้วยการใช้หลอดแบบแอลอีดีรวมไปถึงไฟเบรกดวงที่สาม ใกล้กันจะมีเสาอากาศแบบครีบฉลามเข้ากับยุคสมัย และอีกหนึ่งส่วนที่ได้รับการปรับเปลี่ยนคือลวดลายของล้ออัลลอย แต่ยังใช้ขนาดเดิมคือ 15 นิ้ว
ห้องโดยสารภายในตอบโจทย์การใช้งานทุกไลฟ์สไตล์และยังได้รับการติดตั้งวัสดุซับเสียงเพื่อสุนทรียในการเดินทาง ทั้งยังปรับเปลี่ยนให้ดูภูมิฐานสไตล์สปอร์ตด้วยการนำขอบสีเงินมาตกแต่งบริเวณขอบคอนโซลกลางและช่องลมระบบปรับอากาศ เบาะนั่งเปลี่ยนจากสีดำ-ส้ม มาเป็น ดำ-น้ำเงิน สอดรับกับมาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron ซึ่งเปลี่ยนแสงสว่างจากสีส้มมาเป็นสีน้ำเงินเช่นกัน ในขณะที่เบาะนั่งด้านหลังปรับและพับได้แบบ 60:40 เพื่อขยายพื้นที่การเก็บสัมภาระ
พวงมาลัยยังคงเป็นแบบมัลติฟังค์ชั่นมีสวิทช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อกับระบบบลูทูธ
ในส่วนของคอนโซลกลางได้รับการเปลี่ยนแปลงชัดเจน ด้านบนเป็นเครื่องเล่นวิทยุระบบดิจิตอลซึ่งรองรับการทำงานของ CD/MP3/WMA พร้อมช่องต่อ USB/AUX ระบบปรับอากาศเดิมทีเป็นแบบมือหมุนแต่ปรับเปลี่ยนให้เป็นแบบอัตโนมัติพร้อมจอแสดงผลแบบแอลซีดี บริเวณคอนโซลเกียร์เป็นแบบเดียวกับ ยาริส เอทีฟ ซึ่งสามารถผลักคันเกียร์มาที่โหมด S เพื่อการขับขี่ที่สนุกสนาน
ขุมพลังยังคงใช้เครื่องยนต์รหัส 3NR-FE แบบ4 สูบ DOHC 16 วาล์ว DUAL VVT-i ขนาดความจุ 1,200 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 86 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 108 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E20
ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock ในด้านการยึดเกาะได้รับปรับปรุงช่วงล่างแบบจัดเต็มทั้งคอยล์สปริงและโช๊คอัพใหม่ ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นอิสระแบบแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังใช้แบบทอร์ชั่นบีม และคอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง เพื่อความนุ่มนวลทุกสภาพภนน
โตโยต้า ยาริส ใหม่ ได้รับการติดตั้งมาตรฐานความปลอดภัยที่เหนือชั้น เริ่มจากโครงสร้างนิรภัย GOA ถุงลมเสริมความปลอดภัยมีมาให้ถึง 7 ตำแหน่ง เบาะนั่งคู่หน้าเป็นแบบ WIL (Whiplash Injury Lessening) ลดการบาดเจ็บของกระดูกต้นคอเมื่อถูกชนชนจากด้านหลัง เข็มขัดนิรภัยคู่หน้ามาพร้อมระบบกลไกดึงกลับและผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ
นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution)ระบบเบรก ABS (Anti-lock Braking System) และเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill Start Assist Control) รวมถึง ระบบป้องกันการโจรกรรม (Theft Deterrent System) ทำงานร่วมกับ กุญแจแบบ Immobilizer และเปลี่ยนจากการแถมยางอะไหล่เป็น ชุดซ่อมยางฉุกเฉินพร้อมที่ปั๊มลมเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
โตโยต้า ยาริส ใหม่ มีสีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่
สีเขียวมะนาว Citrus Mica Metallic
สีส้ม Orange Metallic
สีแดง Red Mica Metallic
สีขาว Super White
สีเงิน Silver Metallic
สีเทา Gray Metallic
สีดำ Attitude Black Mica
โตโยต้า ยาริส ใหม่ แบ่งออกเป็น 4 รุ่น โดย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ตั้งราคาจำหน่าย รุ่น G เกียร์อัตโนมัติ ไว้ที่ 609,000 บาท ,รุ่น E เกียร์อัตโนมัติ ราคา 559,000 บาท,รุ่น J เกียร์อัตโนมัติราคา529,000 บาท และ รุ่น J ECO เกียร์อัตโนมัติ ตั้งราคาจำหน่ายไว้ที่ 479,000บาท ซึ่งทุกรุ่นปรับราคาจำหน่ายจากเดิมเพียงรุ่นละ 10,000 บาท