Thursday, March 28, 2024
HomeAuto Testทดสอบ BMW 330i,320d และ X5 (ภาพ+คลิปวีดีโอ)

ทดสอบ BMW 330i,320d และ X5 (ภาพ+คลิปวีดีโอ)

ทดสอบ BMW หลากรุ่นทั้ง 330i,320d และX5 ในกิจกรรม BMW Driving Experience ที่มาพร้อมการออกแบบใหม่ เครื่องยนต์ขับสนุก พัฒนาเทคโนโลยีทันสมัยทั้งระบบ BMW Intelligent Personal Assistant โดดเด่นด้วยการตัวช่วยการขับขี่อย่าง Reversing Assistant รวมถึงระบบสั่งงานด้วยเสียงกับประโยคที่แฟนๆค่ายใบพัดฟ้า-ขาวกำลังจะคุ้นหูกับคำว่า “Hello BMW”

สำหรับ BMW Series 3 ใหม่ ได้รับการพัฒนาต่อยอดยาวนานกว่า 40 ปีและจำหน่ายไปทั่วโลกได้กว่า 2 ล้านคัน จวบจนมาถึงเจเนอเรชั่นล่าสุดหรือเจนเนอเรชั่นที่ 7 ในรหัส G20) ซึ่งเปิดตัวพร้อมจำหน่ายในเมืองไทยทั้งรุ่น 330i M Sport ขุมพลังเบนซิน และ 320d Sport ขุมพลังดีเซล โดยมีความกว้างเพิ่มขึ้น 16 มิลลิเมตร ยาวขึ้น 76 มิลลิเมตร และฐานล้อกว้างขึ้นจากรุ่นเดิม 41 มิลลิเมตร
ทดสอบ BMW
ทดสอบ BMW
โดยมากับจุดเด่นด้านโครงสร้างตัวถังและชิ้นส่วนต่างๆอาทิ ฝากระโปรงและกันชนหน้า ผลิตจากอลูมิเนียมคุณภาพสูงที่ให้ความแข็งแร่ง ทนทาน แต่นน.เบา ทำให้ BMW 3 Series รุ่นใหม่มีนน.เบากว่ารุ่นเดิมถึง 55 กก.
ทดสอบ BMW
ทดสอบ BMW
รูปลักษณ์ได้รับการออกแบบให้มีความสวย คม โดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ พร้อมระบบ Active Air Flap ซึ่งเป็นแผ่นปิดหน้ากระจังเพื่อจัดระเบียบการไหลของอากาศ
ทดสอบ BMW
ดีไซน์โคมไฟคู่หน้าให้มีความสวยงามพร้อมอรรถประโยชน์มากยิ่งขึ้นโดยปรับทิศทางลำแสงตามการหมุนพวงมาลัย ไฟท้ายดีไซน์ใหม่รูปทรง L แนวนอนมีการรมดำในโคมไฟแบบสามมิติ และ ท่อไอเสียคู่สไตล์ดุดัน
ทดสอบ BMW
ทดสอบ BMW
ความแตกต่างของรถทั้ง 2 รุ่นนี้นอกจากเครื่องยนต์ก็ยังมีอยู่อีกหลายจุด สังเกตุได้จากล้ออัลลอย 18 นิ้วลาย V Spoke พร้อมยาง 225/45 R18 ในรุ่น 320d และชุดแต่ง BMW Individual high-gloss Shadow Line บริเวณขอบหน้าต่าง ขอบช่องดักอากาศ และซี่บริเวณกระจังหน้าไตคู่สีดำเงา
ทดสอบ BMW
สำหรับ 330i M Sport ได้รับการตกแต่งให้ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่ง M Sport รอบคัน รวมถึงอัพเกรดระบบช่วงล่างและระบบเบรค ล้ออัลลอยก็เป็นของชุดแต่ง M เช่นกัน ซึ่งเป็นขนาด 18 นิ้วลาย Double Spoke พร้อมยางที่ขนาดต่างกันโดยล้อหน้าหุ้มยางขนาด 225/45 R18 แต่ล้อหลังเป็นขนาด 255/45 R18
ทดสอบ BMW
ห้องโดยสารออกแบบให้มีความหรูหราสไตล์สปอร์ต โดยมีการติดตั้งระบบไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารแบบ ambient light โดดเด่นด้วยชุดแดชบอร์ดขนาด 12.3 นิ้ว ในรุปแบบ Control Display โดยใข้เป็นจอแสดงการทำงานระบบต่างๆของรถ มาพร้อมจอสัมผัสกลางคอนโซลขนาด 10.25 นิ้ว ระบบเครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิ 3 โซน เบาะนั่งสามารถพับได้แบบ 40:20:40
ทดสอบ BMW
ทดสอบ BMW
BMW 3 Series ทั้ง 2 รุ่นนี้มากับออพชั่นที่ต่างกัน ในรุ่น 320d พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน ตกแต่งด้วยวัสดุอลูมิเนียมลาย Mesheffect ส่วน 330i M Sport ติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านหุ้มหนังแท้แบบ M
ทดสอบ BMW
ภายในตกแต่งด้วยวัสดุอลูมิเนียม Tetragon พร้อมระบบเครื่องเสียงคุณภาพจาก Harman Kardon และจอ head-up display ซึ่งแสดงทั้งความเร็ว ระบบนำทางผ่านดาวเทียม นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบ BMW Intelligent Personal Assistant ซึ่งได้อัพเกรดระบบปฏิบัติการ ให้เป็น BMW Operating System 7.0 ทำงานประสานเป็นหนึ่งเดียวกับระบบ BMW Live Cockpit Professional ระบบผู้ช่วยส่วนตัวนี้สามารถรับคำสั่งจากเสียงพูด สามารถเรียนรู้และจดจำการใช้งานประจำวันและความชอบส่วนตัวของผู้ขับขี่ได้ เช่นการปรับหรือลดอุณหภูมิระบบปรับอากาศ หรือปรับช่องสัญญาณวิทยุ ซึ่งรับการสั่งงานได้ด้วยเสียงภาษาไทย
ทดสอบ BMW
และระบบที่ถือเป็นจุดขายอย่าง Reversing Assistant ซึ่งจะช่วยผู้ขับขี่ขณะถอยจอดหรือถอยออกจากที่แคบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ Parking Assistant โดยระบบจะจดจำองศาการเลี้ยวของพวงมาลัยระยะ 50 เมตร ขณะขับขี่ที่ความเร็วไม่เกิน 36 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนที่จะหยุดรถ
ทดสอบ-BMW 14
ด้านของเอสยูวีหรูอย่าง BMW X5 ได้รับการพัฒนามาจวบจนถึงเจเนอเรชั่นที่ 4 ในรหัส G05 ซึ่งสำหรับในประเทศไทยจะมีการจำหน่ายเพียงรุ่นเดียวนั่นคือรุ่น X5 xDrive30d M Sport ซึ่งตัวถังมีความยาวกว่ารุ่นเดิม 36 มม. กว้างขึ้น 66 มม. สูงขึ้น 19 มม. ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์หรู หล่อ พร้อมลุยไปทุกสถานการณ์ ตามสไตล์รถ SAV (Sports Activity Vehicle)
ทดสอบ-BMW
ไฟหน้าเป็นแบบ Adaptive LED headlights พร้อมไฟท้าย LED เสริมความเท่ด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics โดดเด่นสะดุดตาไปกับกระจังหน้าทรงไตคู่หุ้มขอบสีโครเมียม
ทดสอบ-BMW
ทดสอบ-BMW
นอกจากนี้คาลิเปอร์เบรกและช่วงล่างก็เป็น M Sport เช่นเดียวกับล้ออัลลอย M ขนาด 22 นิ้ว ลาย Double-spoke พร้อมยางต่างไซส์ ล้อหน้าขนาด 275/35 R22 ส่วนล้อหลัง 315/30 R22
ทดสอบ-BMW
ห้องโดยสารหรูหรา กว้างขวางและโอ่อ่า สไตล์รถ 5 ที่นั่ง ตกแต่งด้วยวัสดุหนังแท้ Vernasca เบาะหลังสามารถพับได้แบบ 40 : 20 : 40 รองรับการบรรทุกสัมภาระตั้งแต่ 650 ลิตรจนถึง 1,870 ลิตร พร้อมประตูท้ายที่สามารถแยกเปิดสองส่วนเพื่อสะดวกต่อการขนย้าย ซึ่งสามารถเปิดปิดอัตโนมัติด้วยไฟฟ้า
ทดสอบ-BMW
ทดสอบ-BMW
คอนโซลหน้าแต่งด้วยหนังผสมกับลายไม้คุณภาพ ติดตั้งมาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และจอ Control Display ระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ทั้งยังมีระบบ BMW Intelligent Personal Assistant และ Reversing Assistant แบบเดียวกับ BMW Series 3 พร้อมระบบ BMW Head-Up Display เช่นเดียวกัน รวมถึงยังสามารถแสดงภาพกราฟฟิคแบบสามมิติขณะที่ระบบควบคุมผ่าน iDriveพร้อมฟังค์ชั่นสั่งการแบบ BMW Gesture Control ด้วยการใช้มือเคลื่อนไหว รวมถึงระบบ BMW ConnectedDrive ซึ่งช่วยให้เกิดการเชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัดระหว่างรถยนต์และผู้ขับขี่ และหลังคากระจกแบบ Panorama ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นเก่า 30%
ทดสอบ-BMW
ทดสอบ-BMW
การทดสอบสมรรถนะเริ่มต้นที่ในสนามแข่งรถยนต์ปทุมธานีสปีดเวย์ โดยสัมผัสความแรงของ BMW 330i เป็นรุ่นแรก เริ่มที่ทดสอบอัตราเร่งบนทางตรงระยะทางเกือบ 400 เมตร การตอบสนองของเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 258 แรงม้า พร้อมแรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,550 -4,400 รอบเป็นไปอย่างเร้าใจ เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะมีรอยต่อค่อนข้างชิด ทำให้การเปลี่ยนอัตราทดนั้นนุ่มนวล แต่ด้วยระยะทางที่ถูกจำกัด ทำให้มีการเปลี่ยนอัตราทดเพียง 4 เกียร์ ซึ่งเมื่อเหยียบคันเร่งเต็มแรง เสียงเครื่องยนต์ก็จะคำรามผ่านท่อไอเสียทรงคู่ โดยเสียงที่สะท้อนม่ให้ได้ยินนั้นเป็นเสียงสังเคราะห์ผ่านลำโพงที่แผดคำรามอย่างดุดัน
ทดสอบ-BMW
ทดสอบ-BMW
ต่อจากทางตรงซึ่งสัมผัสในเรื่องอัตราเร่ง ก็จะมาถึงเส้นทางโค้งทั้งหักศอก โค้งกว้างและโค้งยูเทริน์ ซึ่ง BMW 330i นั้นมีโหมดการขับขี่ที่เรียกว่า Driving Experience Control มีให้เลือกทั้ง Sport,Comfort และ Eco Pro ซึ่งสะท้อนมายังระบบช่วงล่างและพวงมาลัยที่แตกต่างกัน และในสถานการณ์แบบนี้ โหมด Sport จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบสนองการขับขี่ได้ดีที่สุด สำหรับโหมด Sport จะมีการปรับเซทระบบช่วงล่างให้แน่นหนึบขึ้นจนสัมผัสได้อย่าชัดเจนเช่นเดียวกับน้ำหนักของพวงมาลัยที่รู้สึกตึงมือขึ้นมาทันที
ทดสอบ-BMW
และด้วยการเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง หากเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงเกินไป อาการท้ายดิ้นจะมีให้สัมผัสได้บ้างแต่ก็มี Tracktion Control ที่คอยคุมอาการรถไม่ให้เสียการควบคุมได้ง่ายๆและแก้กลับมายังทิศทางที่เหมาะสมได้ไม่ยากเย็นนัก
ทดสอบ-BMW
ในส่วนสถานี Elf Test ซึ่งเป็นการหักหลบสิ่งกีดขวางแต่จะยากกว่ารูปแบบของการหักหลบทั่วไปเนื่องจากต้องบังคับรถให้ไปตามทิศทางที่ได้จัดไว้ แต่ด้วยระบบช่วงล่างที่ไว้ใจได้จึงทำให้ผ่านพ้นไปอย่างสบายๆ
ทดสอบ-BMW
ปลายทางของการทดสอบ BMW 330i ในสนามแข่งจะมีการขับขี่ในรูปแบบจิมคาน่าพร้อมสัมผัสระบบ Reversing Assistant สำหรับระบบนี้ถือเป็นความอัจฉริยะของเทคโนโลยีรุ่นล่าสุดที่จะช่วยให้การถอยออกจากช่องทางแคบๆทำได้อย่างปลอดภัย โดยระบบจะจดจำการขับขี่ 50 เมตรสุดท้ายซึ่งจะตรวจจับในขณะที่ความเร็วไม่เกิน 36 กม./ชม. หลังจากจอดสนิทสามารถเลือกใช้งานระบบนี้ซึ่งแสดงบนจอทัชสกรีนขนาด 10.25 นิ้ว ระบบจะทำการสั่งงานและควบคุมทิศทางของรถโดยปรับตำแหน่งพวงมาลัยย้อนกลับไปตามเส้นทางเดิม เพียงแค่ผุ้ขับขี่ต้องควบคุมความเร็วไว้ไม่เกิน 9 กม./ชม. หากความเร้วสูงกว่าที่กำหนด ระบบจะตัดการทำงานทันที
ทดสอบ-BMW
รถรุ่นต่อไปคือ BMW 320d ซีดานคันนี้มีรูปลักษณ์แบบเดียวกับ 330i เพียงแต่ระบบต่างๆอาจจะไม่มากเท่า และเครื่องยนต์ที่มีขนาดความจุน้อยกว่า โดยเป็นเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ในส่วนของแรงบิดจะมอบพละกำลังที่รอบเครื่องยนต์สูงกว่าคือ 1,750-2,500 รอบ ในขณะที่ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบเดียวกัน
ทดสอบ-BMW
ทดสอบ-BMW
การทดสอบนั้นใช้รูปแบบเดียวกัน เแน่นอนว่าความโหดจากขุมพลังที่ด้อยกว่าทำให้ BMW 320d กลายเป็นรถพ่อบ้านหรูซึ่งหากเค้นพละพลังจากเครื่องยนต์นั้นคนละเรื่อง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ได้ในเวลา 6.8 วินาที น้อยกว่า 330i อยู่ 1 วินาที แต่ก็มีข้อดีในส่วนที่ควบคุมได้ง่ายและไม่ดื้อ รวมถึงอัตราสิ้นเปลืองที่ถือเป็นจุดเด่นโดยมีการเคลมจากบริษัทผู้ผลิตไว้ถึง 21.7 กม./ลิตร ในขณะที่ 330i มีอัตราบริโภคเชื้อเพลิงอยู่ที่ 16.1 กม./ลิตร
ทดสอบ-BMW
มาถึงคิวของเอสยูวีหรูอย่าง X5xDrive30d การทดสอบในสนามแข่งแบบนี้อาจไม่ตรงประเด็นสำหรับรถหรูสายลุย แต่ก็ไม่ได้มีอะไรด้อยไปกว่า 330i และ 320d ในด้านของขุมพลังเครื่องยนต์ซึ่งถ้าเทียบกันจะเห็นได้ว่ามีพละกำลังที่สูงกว่า โดย X5xDrive30d มากับขุมพลังดีเซลแบบ 6 สูบเทอร์โบคู่ขนาดความจุ 2,993 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 265 แรงม้า และมีแรงบิดมหาศาลถึง 620 นิวตันเมตรที่ 2,000-2,500 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ในเวลา 6.5 วินาที และเคลมอัตราสิ้นเปลืองไว้ที่ 14.5 กม.ลิตร
ทดสอบ-BMW
จุดเด่นของ X5xdrive30d อยู่ที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ xDrive ที่สั่งการถ่ายเทแรงบิดไปยังล้อต่างๆแบบอัตโนมัติโดยประมวลผลผ่านกล่องควบคุมและรูปแบบการใช้คันเร่งของผู้ขับขี่
ทดสอบ-BMW
ในรูปแบบของการทดสอบแบบ Elf Test ซึ่งอาจเป็นปัญหาสำหรับรถเอสยูวีเนื่องจากความสูงของตัวรถนั้นจะทำให้รถมีแรงเหวี่ยงมากยิ่งขึ้น แต่นอกจากระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ Xdrive ยังได้รับการติดตั้งระบบDriving Experience Control มีให้เลือกทั้ง Sport,Comfort และ Eco Pro จนทำให้ผ่านการทดสอบรูปแบบต่างๆไปได้อย่างสะดวก
ทดสอบ-BMW
เสร็จจากการทดสอบสมรรถนะในสนามแข่ง ถึงเวลาลองของจริงบนถนนหลวงเส้นทางรวมประมาณ 60 กม.จากสนามแข่งปทุมธานีสปีดเวย์ไปยังอ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เริ่มจาก BMW 320d รถพ่อบ้านหรูรุ่นนี้พอใช้งานบนถนนกลับมีฟิลลิ่งที่ดี นุ่มนวล ขับสบาย ในขณะใช้ความเร็ว เสียงรบกวนที่เข้ามาในห้องโดยสารนั้นน้อยมาก ทั้งนี้เป็นคุณสมบัติของกระจกแบบ Acoustic Comfort ที่ช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก
ทดสอบ-BMW
สำหรับ 330i มีความห้าวหาญของเครื่องยนต์ที่ไม่ธรรมดา เหนือกว่านั้นคือระบบช่วงล่างที่เหมือนมีการอัพเกรดเป็นโช๊คอัพซิ่งแต่ไม่กระด้าง ซึ่งความเป็นเลิศด้านการยึดเกาะต้องยกเครดิตให้กับช่วงล่าง M Sport
ทดสอบ-BMW
และอีกหนึ่งฟังค์ชั่นซึ่งติดตั้งมาคือระบบ BMW Intelligent Personal Assistant คอยทำหน้าที่ในการสื่อสาร รวมถึงทำความรู้จักและเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ขับขี่ในแต่ละวัน และยังมีการใช้งานคำสั่งเสียงเพื่อสั่งการระบบต่างๆทั้งเครื่องปรับอากาศ วิทยุ และ นำทางไปยังสถานที่ต่างๆด้วยการเปิดใช้งานจากคำสั่งเสียงที่ว่า “Hello BMW”
มาถึงการทดสอบช่วงออฟโรดระยะสั้นๆกับ BMW X5xDrive30d ซึ่งเน้นไปในเรื่องของระบบ xDrive เวอร์ชั่นล่าสุด สภาพเส้นทางที่ทดสอบนั้นไม่ได้โหดร้ายมากนัก รูปแบบจะเป็นพื้นต่างระดับลัดเลาะไปตามคันนาซึ่งระบบจะเข้ามามีส่วนในการถ่ายเทแรงบิดไปยังล้อต่างๆได้อย่างสมบูรณ์ ผู้ขับขี่สามารถดูสภาพเส้นทางข้างหน้าได้จากกล้องแสดงภาพที่ติดตั้งอยุ่ด้านหน้ารถเพื่อความปลอดภัย
ทดสอบ-BMW
ทดสอบ-BMW
และอีกหนึ่งระบบที่ไม่ต่างไปจาก 330i นั่นคือ Reverse Assistant แม้จะเป็นเส้นทางที่แคบแบบพอดีคัน เรียกได้ว่าวัดใจกับระบบนี้กันไปเลย การจดจำรูปแบบเส้นทางและการบังคับควบคุมรถก่อนเปิดระบบนั้นถือว่าทำงานได้อย่างไม่บกพร่อง
ทดสอบ-BMW
BMW ทั้ง 3 รุ่นที่ได้ทำการทดสอบยังมีระบบปฎิบัติการใหม่ที่ได้รับการติดตั้ง BMW Operating System 7.0 ทำงานประสานเป็นหนึ่งเดียวกับ BMW Live Cockpit Professional ระบบอัจฉริยะนี้นอกจากจะอัพเดทซอพท์แวร์ได้ด้วยตัวเองหลังจากมีการแจ้งเตือน ยังสามารถดาว์นโลหดแอพลิเคชั่นไปยังสมาร์ทโฟนเพื่อตรวจสอบสถานะของรถ รวมถึงถ่ายภาพด้วยกล้องจากตัวรถได้อีกด้วย
ข้อมูลทางเทคนิค: BMW 330i M Sport
เครื่องยนต์: เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบคุ่
ความจุกระบอกสูบ (ซี.ซี.): 1,998
กำลังสูงสุด (แรงม้า ที่ รอบ/นาที): 258/5,000-6,500
แรงบิดสูงสุด (นิวตัน-เมตร ที่รอบ/นาที): 400 /1,550-4,400
ระบบส่งกำลัง: อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อม Sport Steptronic
ระบบขับเคลื่อน: ล้อหลัง
ระบบกันสะเทือน(หน้า/หลัง): หน้า Double-joint spring strut หลัง Five-link suspension
เบรก(หน้า/หลัง): ดิสก์/ดิสก์
ยาว/กว้าง/สูง(มม.): 4,709 x1,827×1,435 มม
ราคา (บาท): 3,359,000

ข้อมูลทางเทคนิค: BMW 320d Sport
เครื่องยนต์: ดีเซล 4 สูบ เทอร์โบคุ่
ความจุกระบอกสูบ (ซี.ซี.): 1,995
กำลังสูงสุด (แรงม้า ที่ รอบ/นาที): 190/4,000
แรงบิดสูงสุด (นิวตัน-เมตร ที่รอบ/นาที): 400 /1,750-2,500
ระบบส่งกำลัง: อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อม Steptronic
ระบบขับเคลื่อน: ล้อหลัง
ระบบกันสะเทือน(หน้า/หลัง): หน้า Double-joint spring strut หลัง Five-link suspension
เบรก(หน้า/หลัง): ดิสก์/ดิสก์
ยาว/กว้าง/สูง(มม.): 4,709 x1,827×1,435 มม
ราคา (บาท): 2,959,000 ทดสอบ-BMW
ข้อมูลทางเทคนิค: BMW X5 xDrive30d Msport
เครื่องยนต์:ดีเซล 6 สูบ เทอร์โบคุ่
ความจุกระบอกสูบ (ซี.ซี.):2,993
กำลังสูงสุด (แรงม้า ที่ รอบ/นาที): 265/4,000
แรงบิดสูงสุด (นิวตัน-เมตร ที่รอบ/นาที): 620 /2,000-2,500
ระบบส่งกำลัง:อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อม Steptronic
ระบบขับเคลื่อน: 4 ล้อ
ระบบกันสะเทือน(หน้า/หลัง): Adaptive M
เบรก(หน้า/หลัง): ดิสก์/ดิสก์
ยาว/กว้าง/สูง(มม.): 4,922 x2,004×1,745 มม
ราคา (บาท): 5,699,000
ทดสอบ-BMW
 

RELATED ARTICLES

Most Popular