Friday, March 29, 2024
HomeAuto Testพาเบบี๋ เบนซ์ “The new Mercedes-Benz C220d AMG Dynamic” ไปซิ่งในสนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์

พาเบบี๋ เบนซ์ “The new Mercedes-Benz C220d AMG Dynamic” ไปซิ่งในสนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์

รถใหม่ป้ายแดงที่ได้ทำการทดสอบในครั้งนี้เป็นรถหรูน้องใหม่ไซส์เล็กขวัญใจมหาชนกับ The new Mercedes-Benz C220d AMG Dynamic ประกอบในประเทศ ที่มาพร้อมกับความทันสมัย เพิ่มความสปอร์ตด้วยชุดแต่ง AMG และยังมีสมรรถนะที่โดดเด่น จากเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร พัฒนาใหม่พร้อมระบบ Mild Hybrid ด้วยความเร้าใจของสมรรถนะ จึงเป็นเหตุให้สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ถูกใช้เป็นสถานที่ทดสอบขุมพลังอันเร้าใจ ไปดูกันครับว่า เบบี๋เบนซ์ เมื่อใช้งานในสนามแข่ง จะมีความคุ้มค่าและน่าสนใจเพียงใด เรื่องราวทั้งหมด พร้อมให้รับชม

The new Mercedes Benz C Class ในรหัส W206 น้องใหม่ล่าสุด ที่ เมอร์เซเดส เบนซ์ ประเทศไทย เปิดตัวและให้จับจองเป็นเจ้าของเมื่องานมอเตอร์ โชว์ครั้งที่ผ่านมา โดยมีด้วยกัน 2 รุ่นประกอบในเทศ ได้แก่ C220d Avangard ราคา 2,599,000 บาท และ C22d AMG Dynamic ราคา 2,999,000 บาท

Benz C220d 1

รุ่นที่เราได้นำมาทดสอบนั่นคือ C 220d AMG Dynamic ซึ่งแตกต่างกับอีกรุ่น จะมีเพียงแค่ลายล้อ และชุดแต่ง ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์แบบสปอร์ตและขนาดตัวรถที่กว้างขึ้นในทุกมิติ

Benz C220d 2

Benz C220d 4

ไฟหน้าเป็นแบบ Multibeam LED เพิ่มระบบไฟสูงที่ส่องไกลได้ถึง 650 เมตร มาพร้อมกระจังและกันชนหน้าลายใหม่จาก AMG ด้านท้ายมีท่อไอเสียออกคู่ทั้งฝั่งซ้ายและขวา ในส่วนของฝาท้ายติดตั้งระบบแฮนด์ฟรี

Benz C220d 5

หลังคาพาโนรามิคซันรูฟติดตั้งมาให้เสร็จสรรพ สำหรับล้อเป็นของ AMG ด้วยเช่นกันในขนาด 19 นิ้ว แต่ยางคนละไซส์ ด้านหน้าขนาด 225/40 ส่วนด้านหลังใข้ขนาด 255/35

Benz C220d 7

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง ออกแบบโดยมีต้นทางมาจาก S Class แต่ลดขนาดลง เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง สลับกับผ้าไมโครไฟเบอร์เดินด้ายคู่สีแดง เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรัยและพับได้ด้วยไฟฟ้า ส่วนตอนหลังสามารถปรับเอนพนักพิงได้เล็กน้อย มือเปิดประตูออกแบบเก๋ๆ สไตล์ใหม่

Benz C220d 8

ห้องโดยสารปรับสีได้ 64 เฉด ทันสมัยด้วยจอดิจิตอลขนาดใหญ่ ชุดมาตรวัดขนาด 12.3 นิ้ว เลือกการแสดงผลได้ทั้งแบบ Classic Sport และ Super Sport

Benz C220d 9

Benz C220d 10

พวงมาลัยเปลี่ยนเป็น AMG Performance แบบใหม่ พร้อมปุ่มกด Touch Control และบนกระจกมีการแสดงผลของหน้าจอเฮดอัพดิสเพลย์

Benz C220d 11

หน้าจอกลางขนาด 11.25 นิ้วแนวตั้งคล้ายไอแพด มาพร้อมระบบปฏิบัติการ MBUX ระบบสั่งการด้วยเสียง Hey Mercedes และเพิ่มเติมในส่วนของ Mercedes Me Connect ประกอบด้วยระบบโทรออกฉุกเฉิน ระบบวิเคราะห์สภาพรถยนต์ และฟังค์ชั่นสตาร์ทเครื่องยนต์เพื่อเปิดระบบปรับอากาศด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่ นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อได้กับสมาร์ทโฟนทั้งระบบ Android Auto และ Apple Carplay ขับกล่อมความบันเทิงผ่านลำโพง Burmaster

Benz C220d 12

ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติแบบแยกฝั่งทั้งซ้ายและขวา ซึ่งมีช่องระบายความเย็นไปยังท้ายรถอีกด้วย

Benz C220d 13

ถัดมาบริเวณคอนโซลกลาง จะมีสวิทช์ Dynamic Select ซึ่งเป็นโหมดการขับขี่ทั้ง Eco Normal Sport และ Sport+ และเพิ่ม Sliperry สำหรับใช้งานบนสภาพพื้นที่เปียก นอกจากนี้ยังมีช่องเสียบ USB ให้มากมาย ทั้งแบบปกติ และ USB C รวมถึง Wiress Charger

เบบี๋ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า พร้อมแรงบิด 440 นิวตันเมตร โดยมีระบบ Mild Hybrid ขนาด 48 โวลท์ ที่ให้กำลังสูงสุด 15 กิโลวัตต์ พร้อมแรงบิด 200 นิวตันเมตร มาช่วยแบ่งภาระของเครื่องยนต์ไปยังไดนาโม ระบบปรับอากาศ หรือระบบไฟอื่นๆ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์9G Tronic ที่โดดเด่นด้านการปรับอัตราทดที่นุ่มนวล โดยขุมพลังนี้สามารถทำความเร็ว 0-100 กม./ชม.ในเวลาเพียง 7.3 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุด 245 กม./ชม.

Benz C220d 15

ระบบรองรับเป็นแบบ Agility Control มาพร้อมระบบความปลอดภัยอีกเพียบ ทั้งระบบจำกัดความเร็วและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบเตือนแรงดันลมยาง ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา รวมถึงระบบช่วยจอดและกล้องมองภาพรอบคัน ที่น่าเสียดายและเป็นเพียงไม่กี่อย่างที่ขาดไป แต่นั่นคือระบบความปลอดภัยของยุคสมัย Adaptive Cruise Control และระบบเตือนพร้อมดึงกลับเมื่อรถออกนอกช่องทาง

การทดสอบในครั้งนี้อย่างที่เกริ่นนำไว้ นั่นคือ เป็นการขับบนสนามแข่ง เพื่อหาสมรรถนะของเบบี๋เบนซ์ รุ่นล่าสุด ในส่วนของ Mild Hybrid นั้นคงไม่สำคัญสักเท่าไหร่กับการขับขี่ด้วยความเร็วสูง

Benz C220d 16

เครื่องยนต์ดีเซล ไบเทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า พร้อมแรงบิด 440 นิวตันเมตร เมื่อต้องเค้นพลัง ต้องบอกว่าแรงเอาเรื่อง แต่ระบบส่งกำลัง 9G Tronic ที่มีเอกลักษณ์ในด้านการปรับเปลี่ยนอัตราทดที่นุ่มนวล การใข้กำลังเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ในกรณีที่ต้องปรับอัตราทด เพื่อเป็นตัวช่วยเบรก อาจจะข่วยได้น้อยไปสักนิด

Benz C220d 17

สำหรับการเบรกต้องชื่นชม เพราะมีการกระจายแรงเพื่อรักษาสมดุลของตัวรถ ทำให้การเข้าโค้งนั้นแม่นยำ และมีระยะหยุดรถที่สั้น เนื่องจากเบรกมีประสิทธิภาพสูง

Benz C220d 18

น้ำหนักพวงมาลัยก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ทำให้ได้การควบคุมทีแม่นยำ ซึ่งโหมดขับขี่แต่ละโหมดนั้นปรับแต่งมาอย่างดี

ในโหมดของ Eco กับ Normal น้ำหนักของพวงมาลัยไม่ค่อยแตกต่าง จะต่างก็ในส่วนของการตอบสนองของแป้นคันเร่ง สำหรับ Eco จะดีเลย์เล็กน้อย

Benz C220d 19

ส่วนของ Sport และ Sport+ ทั้งนน.พวงมาลัย และแป้นคันเร่ง ตอบสนองต่อการใช้งานได้รวดเร็วและเฉียบคม แต่ที่ขอชื่นชมจะเป็นเรื่องของระบบช่วงล่างในรูปแบบ Sport Suspension พอได้ขับในสนามแข่ง การยึดเกาะเมื่อต้องเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงทำได้ดีมาก ขับสนุก และมั่นใจได้

Benz C220d 20

อีกหนึ่งเรื่องต้องขอยกคำชมไปในด้านของเทคโนโลยีการประกอบ การเก็บเสียงในห้องโดยสารเงียบ แม้ในย่านความเร็วสูง ก็ไม่ถึงกับต้องตะเบงเสียงคุยกัน

Benz C220d 21

บทสรุปของการสัมผัส Mercedes Benz The New C220d AMG Dynamic ในสนามแข่ง ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งรถบ้านที่มีสมรรถนะไม่ธรรมดา แม้ระบบ Mild Hybrid จะไม่ได้เข้ามามีส่วนช่วยมากนักในกรณ๊การขับขี่ด้วยความเร็วสูง แต่ขุมพลังที่มีอยู่ในเบบี๋เบนซ์ต้องบอกว่าเหลือๆ ถ้าถามว่ามีอะไรให้ติคงเป็นเรื่องของระบบความปลอดภัยของยุคสมัย อย่าง Adaptive Cruise Control และระบบเตือนพร้อมดึงกลับเมื่อรถออกนอกช่องทาง ถ้ามีมาด้วยล่ะก็…เพอร์เฟค

 

 

RELATED ARTICLES

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

Most Popular