Monday, December 23, 2024
HomeAuto News“ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2018” ขุมพลังใหม่ดีเซล Bi-Turbo พร้อมอัดแน่นเทคโนโลยีเต็มคัน ในราคาเริ่มต้น 1.299-1.799 ล้านบาท

“ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2018” ขุมพลังใหม่ดีเซล Bi-Turbo พร้อมอัดแน่นเทคโนโลยีเต็มคัน ในราคาเริ่มต้น 1.299-1.799 ล้านบาท

เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2018 ซึ่งเป็นการยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลางไปอีกขั้นด้วยประสิทธิภาพและความปลอดภัย รวมถึงสมรรถนะทรงพลังจากเครื่องยนต์ดีเซลที่มีให้เลือกทั้งขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า และ ขนาด2.0 ลิตร ไบ-เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า ผสานกับเทคโนโลยีล้ำสมัย จัดจำหน่ายในราคา 1,299,000 -1,799,000 บาท


นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน ประธาน ฟอร์ด อาเซียน และกรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว “ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ สานต่อความโดดเด่นจากฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นปัจจุบัน ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ด้วยการนำความคิดเห็นจากผู้บริโภคที่มีต่อเอเวอเรสต์ รุ่นปัจจุบัน มาพัฒนาประสิทธิภาพ สมรรถนะ และความสะดวกสบาย ให้ตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ได้อย่างดียิ่งขึ้นกว่าเดิม พร้อมตอกย้ำความเป็นหนึ่งในรถยนต์อเนกประสงค์ที่ชาญฉลาดและปลอดภัยที่สุดในตลาด”


หลังจาก ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งเปิดตัวในปี 2558 สามารถคว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี (Thailand Car of the Year 2015) จากสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท) บริษัท ฟอร์ด ประเทศไทย จำกัด ก็ได้เดินหน้าพัฒนาทั้งรูปลักษณ์และสมรรถนะของรถรุ่นนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำความแข็งแกร่งของรถยนต์อเนกประสงค์ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย อัดแน่นไปกับตัวช่วยขับขี่อัจฉริยะ


4 รุ่นย่อย ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2018 ต่างกันตรงไหน???

ในด้านรูปลักษณ์ของ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2018 ไม่ได้รับการปรับเปลี่ยนสักเท่าไหร่นัก จะมีความแตกต่างจากรุ่นเดิมในส่วนของกระจังหน้าที่ดูหรูหรายิ่งขึ้นด้วยการหุ้มขอบโครเมียม ลวดลายของล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วในรุ่น เทรนด์ ขับเคลื่อน 2 ล้อก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วในรุ่นไทเทเนี่ยม และขอบ 20 นิ้ว ในรุ่นไทเทเนี่ยม พลัส ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ ไทเทเนี่ยม พลัส ไบ-ดีเซลขับเคลื่อน 4 ล้อ

อีกหนึ่งลูกเล่นของความสะดวกสบายได้รับการติดตั้งให้กับรถทั้ง 3 รุ่นได้แก่ ไทเทเนี่ยม ไทเทเนี่ยมพลัส และ ไทเทเนี่ยมพลัส ไบ-เทอร์โบนั่นคือ ประตูท้าย เปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าแบบแฮนฟรี สั่งการและทำงานด้วยการยื่นเท้าไปที่ใต้กันชนหลัง ฝาท้ายก็จะเปิดโดยอัตโนมัติ สำหรับหลังคาแบบพาโนรามิค มูนรูฟ ออฟชั่นเท่ๆจะมีในรุ่นไทเทเนี่ยม พลัส และ ไทเทเนี่ยม พลัส ไบ-เทอร์โบ เท่านั้น

ห้องโดยสารแต่งด้วยโทนสีดำ เสริมความโดดเด่นด้วยเส้นสายทั้งคอนโซลและแผงข้าง ทุกที่นั่งหุ้มด้วยหนังสีดำ ในรุ่น ไทเทเนี่ยม เบาะคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง ส่วนรุ่น ไทเทเนี่ยม พลัส และไทเทเนี่ยม พลัส ไบ-เทอร์โบ เพิ่มระบบไฟฟ้าให้กับผู้โดยสารตอนหน้าและเบาะแถวที่ 3 ซึ่งพับได้ด้วยไฟฟ้าเช่นกัน

อุปกรณ์มาตรฐานใหม่ทั้ง “ระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอก” และ “ซิงค์ 3 เวอร์ชั่นภาษาไทย”

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2018 ทุกรุ่นเพิ่มความสะดวกสบายด้วยกุญแจอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ท รวมถึงระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอก (Active Noise Cancellation) ทำให้ได้ห้องโดยสารที่ปราศจากเสียงรบกวน ในขณะที่กระบวนการวิศวกรรมออกแบบให้ความสำคัญกับการลดเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์และระบบเกียร์ พร้อมพัฒนาซีลกันเสียงและวัสดุดูดซับเสียงภายในห้องโดยสารให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

ความโดดเด่นที่ได้รับการพัฒนาอีกหนึ่งฟีเจอร์นั่นคือ ระบบซิงค์ 3 (SYNC 3) ซึ่งรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบบลูทูธ จอทัชสกรีน ฟูลคัลเลอร์ ขนาด 8.0 นิ้ว และกล้องมองหลัง ผู้ขับขี่ยังสามารถใช้งาน Apple Maps และระบบแผนที่นำทางด้วยดาวเทียมซึ่งติดตั้งมากับรถ เมื่อออกนอกพื้นที่ที่มีสัญญาณโทรศัพท์ ทั้งยังมากับระบบจดจำเสียง และระบบสั่งงานเสียงด้วยภาษาไทย เพื่อการใช้งานที่คล่องตัว


นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยโทรฉุกเฉิน (Emergency Assistance) คือ ระบบ SYNC ที่ได้รับการพัฒนามาขึ้นอีกขั้น เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธด้วยระบบ SYNC และต่อสายไปที่เบอร์ 1669 เมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน

ทีเด็ดอยู่ที่เครื่องยนต์ดีเซลแบบใหม่สไตล์ไบ-เทอร์โบ พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2018 ไม่มีเครื่องยนต์ขนาด 3.2 ลิตร และ 2.2 ลิตร แบบเดิมที่เคยมีมา จะมีก็เพียงแต่ขุมพลังใหม่ที่เปี่ยมล้นไปด้วยเทคโนโลยีและเป็นบล๊อคเดียวกับ ฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์ นั่นคือเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ (Bi-turbo Diesel Engine) ให้กำลังสูงสุดถึง 213 แรงม้า ทั้งยังโดดเด่นในด้านลดเสียงรบกวนจากการทำงานของเครื่องยนต์ไปในขณะเดียวกัน นอกจากนี้ เครื่องยนต์ไบเทอร์โบยังสามารถกระจายแรงบิดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยแรงบิดสูงสุดถึง 500 นิวตันเมตร ที่ความเร็ว 1,750 -2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่าน มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่มีปุ่ม บวก/ลบ อยู่ที่บริเวณหัวเกียร์

ทั้งนี้ยังมีขุมพลังอีกหนึ่งทางเลือกได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า พร้อมแรงบิด 420 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ซึ่งส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะด้วยเช่นกัน

ระบบกันสะเทือนด้านหน้ายังคงใช้แบบอิสระปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยล์สปริง และ เหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบคอยล์สปริงพร้อมวัตต์ลิงค์และเหล็กกันโคลง ในรุ่นไทเทเนี่ยม พลัส ขับเคลื่อน 4 ล้อ ได้รับการติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ พร้อมระบบ Terrain Management รวมถึงเฟืองท้ายแบบ Electronic Locking Rear Differential และ ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน เพื่อให้ได้มาซึ่งสมรรถนะในการเดินทางสไตล์สมบุกสมบัน


ในรุ่นท๊อฟอย่าง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนี่ยม พลัส  มาพร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนนของฟอร์ด ซึ่งผสานระบบเบรกแบบ Autonomous Emergency Braking (AEB) เข้ากับระบบตรวจจับคนเดินถนน (Pedestrian Detection) และระบบตรวจจับยานพาหนะ (Vehicle Detection) บริเวณรอบตัวรถ เพื่อหยุดรถ และช่วยลดอัตราการชนท้ายและการชนคนเดินถนนลง โดยระบบนี้จะทำงานเมื่อใช้ความเร็วสูงกว่า 3.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2018 พร้อมมอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วยฟีเจอร์ใหม่อย่าง ระบบตรวจจับลมยาง (Tire Pressure Monitoring System) ซึ่งได้รับการติดตั้งในรถระดับนี้เป็นครั้งแรก ทำหน้าที่ในการตรวจวัดความดันลมในยางล้อทั้ง 4 ล้อ และเตือนผู้ใช้งานเมื่อความดันลมเปลี่ยนแปลง ระบบนี้นอกจากจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้น้ำมันแล้ว ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย และยืดอายุการใช้งานของยางอีกด้วย


นอกจากฟีเจอร์ใหม่ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะอันเป็นเอกลักษณ์ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เพลิดเพลินกับประสบการณ์การขับขี่อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย ได้แก่

•ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control)
•ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System)
•ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System)
•ระบบแจ้งเตือนการขับขี่ (Driver Alert System)
•ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto High Beam Control)
•ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist)
•ระบบตรวจจับรถในจุดบอด (BLIS – Blind Spot Information System) ที่มาพร้อมระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด (Cross Traffic Alert)
•กล้องมองหลังขณะถอยจอดและสัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้า (Rear View Camera and Sensors)

ราคา สี และบริการ

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2018 มีสีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่สีใหม่ Diffused Silver Metallic

 

Aluminum Metallic

Absolute Black Metallic

Arctic White

Sunset Metallic

Blue Reflex Metallic

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2018 วางจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่น ตามราคาดังต่อไปนี้
•รุ่นไทเทเนี่ยม พลัส เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,799,000 บาท
•รุ่นไทเทเนี่ยม พลัส เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,599,000 บาท
•รุ่นไทเทเนี่ยม เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,439,000 บาท
•รุ่นเทรนด์ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,299,000 บาท


ลูกค้าฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2018 จะได้รับความคุ้มค่าและความสะดวกสบาย ด้วยบริการฟรีค่าแรงในการตรวจเช็คตามระยะ สูงสุดถึง 5 ปี หรือภายในระยะ 75,000 กิโลเมตร เพียงเข้าตรวจเช็คระยะทุก 15,000 กิโลเมตร หรือทุก 1 ปี

RELATED ARTICLES

Most Popular