Thursday, March 28, 2024
HomeAuto Test(มีคลิปวีดีโอ) ทดลองขับ All New Honda Civic RS จัดเต็มความปลอดภัย พร้อมโมดิฟายขุมพลังใหม่

(มีคลิปวีดีโอ) ทดลองขับ All New Honda Civic RS จัดเต็มความปลอดภัย พร้อมโมดิฟายขุมพลังใหม่

All New Honda Civic ก้าวสู่เจนเนอเรชั่นที่ 11 กับรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว ภายในแต่งหรู ขุมพลัง V-Tec Turbo โมฯเพิ่ม ในพิกัดความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติซีวีที มาพร้อมระบบความปลอดภัย Honda Sensing กับราคาค่าตัว 1.199 ล้านบาท จะมีความคุ้มค่าน่าใช้ขนาดไหน ติดตามรับชมได้จากรายงาน

ถือว่าเป็นรุ่นแรกของรถพวงมาลัยขวาที่ผลิตจากโรงงานประกอบรถยนต์มนประเทศไทย เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังอีกหลายประเทศซึ่งใช้รถพวงมาลัยขวาสำหรับ All New Honda Civic เจนเนอเรชั่นที่ 11 ที่ 11 ซึ่งเรื่องราวของการรีวิวนั้น เราได้ทำการแนะนำไปแล้ว โดยสามารถเข้าไปดูได้ตามลิงค์นี้ครับ และในครั้งนี้ จึงขอรวบรัดเข้าสู่เรื่องราวของการทดสอบสมรรถนะซีดานรุ่นธง โมเดลล่าสุดจาก ฮอนด้า ออโตโมบิลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กันเลยครับ

All New Honda Civic 1

การทดสอบสมรรถนะในครั้งนี้ใช้ระยะทางราว 150 กม. ในการสัมผัสกับระบบต่างๆ แต่จะมีเพียงหนึ่งระบบที่ไม่ได้ทำการทดสอบและเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ของเทคโนโลยี Honda Sensing นั่นคือระบบ Auto Highbeam หรือการปรับไฟสูงต่ำอัตโฯมัติ เนื่องจากการทดสอบในครั้งนี้ได้ดำเนินการในช่วงกลางวัน

All New Honda Civic 2
จากการเดินทางในเมืองสู่นอกเมืองในย่านความเร็วต่ำ การเก็บเสียงภาบในห้องโดยสารเงียบสนิท จาการติดตั้งวัสดุซับเสียงที่ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น รวมถึงกระจก 3 บานหน้าแบบ Acoustic Glass ที่ช่วยให้การเก็บเสียงจากลมปะทะได้ดียิ่งขึ้น

All New Honda Civic 3
เบาะนั่งก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่พิถีพิถัน ออกแบบเบาะนั่งให้ใหญ่ขึ้นพร้อมโอบกรับช่วงหลัง ไหล่ และที่รองนั่ง ดยใช้หนังหุ้มขอบ ส่วนตรงกลางเป็นแบบกำมะหยี่และเย็บด้ายแดงตามสไตล์รุ่นท๊อป RS รวมถึงเบาะนั่งแถว 2 ที่ออกแบบให้นั่งสบาย พื้นที่ศรีษะก็กว้างขึ้น ส่วนพื้นที่วางขามีเหลือเฟือ แต่ติดตรงที่ว่าไม่มีการติดตั้งช่องแอรหลัง ซึ่งหากเป็นรุ่นที่ขายในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีช่องแอร์ด้านหลัง ทั้งที่ประเทศไทยนั้นร้อนกว่า

All New Honda Civic 4
พวงมาลัยน้ำหนักเบา แปรผันตามรอบความเร็วูกปรับแต่งให้มีการควบคุมที่แม่นยำขึ้น รวมถึงระบบมิลติฟังค์ชั่นที่ใช้งานง่ายโดยติดตั้งปุ่มควบคุมทั้งระบบความบันเทิงและการปรับเซ็ทค่าต่างๆของรถ รวมถึงสั่งการระบบต่างๆในเทคโนโลยี Honda Sensing รวมถึงระบบแพดเดิลชิฟท์

All New Honda Civic 5

หน้าจอดิสเพลย์เป็นแบบTFT ขนาด 10.2 นิ้ว แสดงภาพได้อย่างคมชัด ซึ่งปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้หลายรูปแบบ และทีเด็ดอยู่ที่การแสดงภาพขณะขับขี่ ไม่ว่าจะค่อมช่องทาง หรือ ไฟเบรค ก็มีแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน

All New Honda Civic 6
คอนโซลหน้าจัดวางเลย์เอาท์ใหม่ โดยย้ายจอสัมผัสมาไว้ด้านบนคอนโซล ในรุ่น RS จะใช้ขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ AppleCarPlay แบบไร้สาย และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri รวมถึงแสดงภาพจากระบบ Honda Lane Watch กล้องมองภาพรอบคัน และกล้องมองหลัง แต่การปรับเซ้ทอาจทำยากไปสักนิด เนื่องจากควบคุมได้จากเพียงหน้าจอแฃะพวงมาลัย ไม่มีปุ่มควบคุมแยกอิสระมาไว้ที่คอนโซลกลาง หรือ คอนโซลเกียร์แบบคู่แข่ง

All New Honda Civic 7
ออฟชั่นพิเศษสำหรับรุ่นนั่นคือ Wiress Charger ที่ให้กระแสไฟแรงขนาด 1.5 วัตต์ ซึ่งทำให้กำลังไฟเข้าสู่โทรศัพท์ ทำได้มนระยะเวลาที่สั้นลง นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบ Android Auto และ Apple Carplay และพิเศษตรงที่หากใช้สมาร์ทโฟนในระบบ Apple Carplay โดยไม่จำเป็นที่ต้องใช้สายในการเชื่อมต่อ หรือในรูปแบบ Wifi นั่นเอง

All New Honda Civic 8
คอนโซลเกียร์ตกแต่งใหม่ นอกจากคันเกียร์มีการติดตั้งเบรคมือไฟฟ้าพร้อม Auto Brake Hold รวมถึงติดตั้งสวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่แยกออกมาชัดเจน นอกจากโหมด Econ และ Normal โดยเพิ่มโหมด Sport มาให้เรียบร้อย

All New Honda Civic 10
สำหรับขุมพลังได้รับการโมดิฟายใหม่แต่ขนาดความจุเดิมในพิกัด 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมพัฒนาชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ให้ทรงประสิทธิยิ่งขึ้นลให้กําลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทํางานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT ด้านอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่เคลมจากอีโค่สติกเกอร์อยู่ที่ 17.2 กม./ลิตร ซึ่งหากเทียบกับรุ่นเดิม จะมีอัตราบริโภคเชื้อเพลิงมากว่าอยู่เล็กน้อย แต่การตอบสนองของเครื่องยนต์ทำได้ดีขึ้นชัดเจน

All New Honda Civic 10
การใช้งานในเมืองนั้น หากขับขี่ทั่วไปในส่วนของระบบเกียร์ซีวีที ทำงานได้ราบรื่น แต่หากเมื่อไหร่ที่ต้องการเรียกความแรง ระบบเกียร์ซีวีทีที่ออกแบบมาให้มีคุณสมบัติต่างไป เนื่องจากมีช่วงรอยต่อของเกียร์ที่สัมผัสได้ถึง 4 จังหวะ แต่หากใช้แพดเดิลชิฟท์ จะแบ่งอัตราทดเกียร์ได้ถึง 7 จังหวะ

All New Honda Civic 11
รบบช่วงล่างฟิลลิ่งแตกต่างไปจากเจนที่แล้วชัดเจน ทั้งที่ระบบหลักเป็นแบบเดียวกัน ด้านหน้าเป็นแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท และ ด้านหลังเป็นแบบอิสระมัลติลิงค์ แต่มีการปรับแต่งให้แน่น และ หนึบมากยิ่งขึ้นอย่างชัดเจน ในช่วงการใช้งานความเร็วสูง สมรรถนะในการยึดเกาะถนนของระบบช่วงล่างยังคงเป็นเยี่ยม มีบางช่วงได้ทดลองกระโดดคอสะพาน การรับแรงกระแทกของโช๊คอัพ และ สปริง สะท้อนได้ถึงความแน่น หนึบ เพราะช่วงยืด ยุบ ที่คอยช่วยซับแรงสั่นสะเทือน

All New Honda Civic 12

โหมดการขับขี่ทั้ง 3 ระบบ ทำงานแตกต่างกันอย่างชัดเจน เริ่มจาก ECON Mode หรือ โหมดการขับขี่แบบประหยัด พร้อมปรับการทํางานของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับการขับขี่เพื่ออัตราการประหยัดเช้ือเพลิงมากขึ้น ส่วน Normal Mode เป็นโหมดการขับขี่แบบปกติ สําหรับการขับขี่ใช้งานโดยทั่วไปซึ่งกล่องสมองกลจะปรับการทำงานโดยสั่งจ่ายเชื้อเพลิงมากขึ้นกว่าโหมด Econ และที่เพิ่มเติมเข้ามานั่นคือ Sport Mode ที่สั่งการทํางานของเครื่องยนต์ให้ตอบสนองอัตราเร่งได้ดียิ่งขึ้น รอบเครื่องยนต์ปรับเพิ่มจาก Normal ประมาณ 500 รอบ/นาที เพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ

All New Honda Civic 13

ด้านระบบ Honda Sensing ได้อัพเกรดอีก 2 ระบบใหม่

ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) ช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็วเมื่อมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน หรือคนเดินถนนที่อยู่ในระยะไม่ปลอดภัย โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง รวมถึงมีการสั่นเตือนของพวงมาลัยในกรณีรถสวนทาง ซึ่งหากผู้ขับขี่ยังไม่ตอบสนอง หรือในกรณีที่อยู่ในระยะเสี่ยงต่อการชน ระบบจะชว่ยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนหรือลดความรุนแรงจากอุบัติเหต

New Honda civic 20

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ํา (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) ช่วยควบคุมความเร็วของรถให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ตั้งค่าไว้ และระบบจะปรับความเร็วอัตโนมัติ โดยมีกล้องตรวจจับรถคันหน้าเพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างเหมาะสม และในการขับขี่ที่ความเร็วต่ํา ระบบจะช่วยปรับความเร็วให้รถเคลื่อนที่ตามรถคันหน้า รวมถึงเบรกและหยุดตามอัตโนมัติ ระบบจะเริ่มทํางานอีกครั้งเมื่อผู้ขับขี่กดปุ่มที่พวงมาลัยหรือเหยียบคันเร่ง

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) กล่องด้านหน้าจะทําการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ ซึ่งระบบจะช่วยเพิ่มแรงหน่วงของพวงมาลัยเพื่อช่วยผู้ขับขี่ควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางปกติ และลดอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่

New Honda civic 21

ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure MitigationSystem with Lane Departure Warning: RDM with LDW) ระบบจะใช้กล้องด้านหน้าในการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางจราจร หากพบว่ารถอยู่ในสภาวะเบี่ยงออก นอกช่องทางโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอแสดงข้อมูลพร้อมการสั่นเตือนของพวงมาลัย และในกรณีที่รถเริ่มเบี่ยงออกนอกช่องทางมากยิ่งขึ้น ระบบจะช่วยหน่วงพวงมาลัย เพ่ือให้รถกลับเข้าสู่ช่องทางปกติ ช่วยลดความเสี่ยงที่รถจะออกนอกช่องทางจราจร

New Honda civic 23

ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) ปรับไฟสูง-ต่ําอัตโนมัติด่วยกล้อง โดยจะปรับเป็นไฟสูงเมื่อขับขี่ในที่มืด และจะปรับเป็นไฟต่ําเมื่อตรวจจับได้ว่ามีรถสวนทางหรือรถยนต์ด้้านหน้า

New Honda civic 24

ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคล่ือนที่ (Lead Car Departure NotificationSystem: LCDN) ระบบที่ตรวจจับการเคลื่อนที่ของรถคันหน้า โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดง ข้อมลูและสัญญาณเสียง เพื่อให้ผู้ขับขี่เคลื่อนที่ตามรถคันหน้า

ทั้งยังครบครันด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ําสมัย อาทิ

-ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปล่ียนเลน (Honda LaneWatch) ช่วยลดจุดบอด ในการมองเห็นของกระจกมองข้างด้านซ้าย โดยใช้กล้องจับภาพ

New Honda civic 23

-ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor) ตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ผ่านการควบคุมพวงมาลัย เมื่อพบว่าประสิทธิภาพในการควบคุมรถของผู้ขับขี่ลดน้อยลง ระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอ TFT และเมื่อตรวจพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากความเหนื่อยล้า ระบบจะทําการสั่นเตือนที่พวงมาลัย

-กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการถอย โดยสามารถเลือกดูมุมกล้องที่แตกต่างกันได้ทั้งแบบ 130 องศา 180 องศา และมุมมองจากด้านบน

-ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)

-ถุงลม 6 ตําแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ถุงลมด้านข้างคู่หน้า (Side Airbags) และม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)

-ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง (Front Passenger and Rear Seat Belt Reminder)

-ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)

New Honda civic 24

-ระบบป้องกันล้อล๊อก (ABS) และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ช่วยป้องกันล้อล็อกเมื่อเบรกกะทันหัน เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถและหักพวงมาลัยหลบสิ่งกีดขวางที่อยู่ด้านหน้า ขณะที่ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) จะช่วยกระจายแรงเบรกระหว่างล้อหน้าและล้อหลังเพื่อให้ความสมดุลกับน้ําหนักในการบรรทุกและเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรก

-ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA) ช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง ช่วยการยึดเกาะถนน มั่นใจกับทุกการขับขี่

New Honda civic 25

-ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) ระบบจะทําหน้าที่ในการป้องกันไม่ให้ตัวรถเคลื่อนที่ไปทางด้านหลังในจังหวะที่มีการปล่อยเท้าออกจากแป้นเบรกเมื่อรถยนต์จอดอยู่บนทางลาดชัน

-สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal – ESS) ทํางานอัตโนมัติโดยสัญญาณไฟฉุกเฉินจะทํางานเม่ือมีการเหยียบเบรกกะทันหัน เป็นการแจ้งเตือนรถที่ตามมาข้างหลัง

อีกหนึ่งเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายนั่นคือ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) จะเป็นฟีเจอร์มาตรฐานเฉพาะรุ่นท๊อพ (RS) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ทํางานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน มาพร้อมหลากหลาย ได้แก่

New Honda Civic 26

1. My Service ตรวจสอบประวัติการเข้ารับบริการ รวมทั้งการประเมินรายการอะไหล่และค่าใช้จ่ายเบื้องต้น โดยจะมีการแจ้งเตือนกําหนดการเข้ารับบริการครั้งต่อไป

2. Car Log ข้อมูลการขับขี่จะประกอบดวยพฤติกรรมการขับขี่ ที่สามารถแสดงผลเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปี และ บันทึกการเดินทาง ที่สามารถเลือกทริปโปรด และแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น ไลน์ อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ เป็นต้น

3. WiFi สามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สายจากรถยนต์ โดยจะใช้งานได้พร้อมกันสูงสุดถึง 5 อุปกรณ์ มีระยะการส่งสัญญาณห่างจากตัวรถยนต์อยู่ที่40 เมตร โดยต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง

4. Airbag Deployment เมื่อเกิดอุบัติเหตุและถุงลมทํางาน กล่องอุปกรณ์ TCU จะส่งสัญญาณเตือนให้ทราบทันทีผ่านทางแอปพลิเคชัน พร้อมทั้งส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้าเพื่อทําการติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ หรือเบอร์โทรฉุกเฉินที่ลูกค้าผู้ใช้งานระบุไว้ในระบบ เพื่อทําการประสานงานให้ความชวยเหลือขั้นต้น

5. Car Status แจ้งเตือนสถานะรถยนต์ เมื่อเกิดความผิดปกติจากระบบของรถยนต์ และ แจ้งเตือนสัญญาณกันขโมย เมื่อเกิดความผิดปกติกับรถยนต์จากภายนอก เช่น การเปิดประตู กระโปรงหน้าและฝากระโปรงท้ายของรถยนต์อย่างผิดปกติ

6. Remote Vehicle Control สามารถสั่งการล็อกและปลดล็อกประตูทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถสั่งสตาร์ตเครื่องยนต์ พร้อมทั้งตั้งค่าระดับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศในรถยนต์ และการสั่งดับเครื่องยนต์ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสั่งเปดสัญญาณไฟ ทั้งไฟหน้าและไฟท้าย โดยผู้ใช้งานจะต้องกําหนดรหัสส้วนตัวเป้นตัวเลข 4 หลัก (PIN) และจะต้องป้อนรหัสส่วนตัวทุกครั้งก่อนการใช้งาน

7. Geo Fence & Speed Alert สามารถกําหนดขอบเขตการขับขี่รถยนต์ทั้งเข้าและออกตามพื้นที่ที่กําหนดไว้ และยังสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนความเร็วตามกําหนดได้อีกด้วย

8. Find My Car สามารถตรวจสอบพิกัดรถยนต์ โดยระบบจะส่งพิกัดรถยนต์ บนแผนที่ล่าสุด แสดงผลบนแอปพลิเคชัน ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องใส่รหัสส่วนตัว 4 หลัก (PIN) ก่อนการใช้งาน

New Honda Civic 26

สรุปการทดสอบในครั้งนี้ นอกจากรุปลักษณ์ที่สปอร์ต หรู ภายในออกแบบให่ก็ยังคงสไตล์ความหรูหรา จากการตกแต่งขอบคอนโซลและแผงข้างด้วยวัสดุสีโครเมียม เบาะนั่งกระชับมากยิ่งขึ้น และในส่วนเบาะหลัง นั่งสบายกว่าเดิม ระบบที่เติมเต็มนั่นคือ Honda Sensing ที่เติมเต็มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่ที่ชัดเจนนั่นคือสมรรถนะของขุมพลัง และช่วงล่าง ที่ปรบแต่งเพื่อการขับขี่ที่สนุก และมั่นใจมากยิ่งขึ้น ราคาค่าตัว 1.199 ล้านบาท ไม่ถือว่าสูง เมื่อเทียบกับฟีเจอร์ต่างๆที่ได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรร์มาตรฐาน และที่สำคัญ หลังจากเปิดตัวจนถึงวันนี้ ยอดจำหน่ายถล่มทลายไปแล้วหลายพันคัน

RELATED ARTICLES

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

Most Popular