BMW 330 LI M Sport ถือเป็นครั้งแรกที่ BMW เปิดตลาดกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความสะดวกสบายกับรถที่มีฐานล้อยาว ในรูปแบบของรถลิมูซีน แต่อยู่ในคลาสของ ซีรีส์ 3 พร้อมติดตั้งขุมพลังเบนซินยอดนิยม ขนาดความจุ 1,998 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า พร้อมแรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่มากับเทคโนโลยี และความปลอดภัยครบครัน ในราคาจำหน่าย 2,899,000 บาท มาดูถึงความคุ้มค่าและสมรรถนะของรถคันนี้กันว่าน่าสนใจขนาดไหน
ครั้งแรกที่ ซีรีย์ 3 รุ่นฐานล้อยาวเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทย ซึ่งในจีนแผ่นดินใหญ่นั้นค่อนข้สงเห็นกันเกบื่อน และต่อจากนั้นจึงไปทำตลาดใรอินเดีย แล้วจึงต่อยอดมาที่เมืองไทย ซึ่งจริงๆแล้ว คำต่อท้ายรุ่นว่า L นั้น มาจากคำว่าทLong Wheelbase ที่ผ่านมาจะเห็นมีก็แต่ลักซูรีซีดานสุดหรูในรุ่นซีรีย์ 7
ขนาดไซส์เด่นเรื่องความยาว เพราะยาวกว่ารุ่นปกติ (BMW 330e M Sport) 110 มม.ซึ่งเพิ่มทั้งตัวรถและฐานล้อ แต่สั้นกว่าซีรีส์ 5
เสริมความดุดันด้วยชุดแต่ง M Sport ที่กันชนหน้าและหลัง พร้อมล้อทูโทน เงาสลับดำ หุ้มยางต่างขนาด ด้านหน้า 225 45 18 ด้านหลัง 255 45 18 ในขณะที่ 330e เป็นขนาด 19 นิ้ว
ไฟหน้าเป็น LED แต่ยังไม่ถึงขั้น Adaptive LED และน่าสนใจว่าไฟตัดหมอกถูกตัดออก
กุญแจเป็นแบบSmart Key สามารถเปิดรถได้ง่ายและมีที่เปิดฝาท้ายให้ในตัว
เบาะนั่งหุ้มหนัง Vernesca คู่หน้าปรับไฟฟ้า มีระบบ Lumbar Support พร้อมหน่วยความจำ แต่จุดโดดเด่นจริงๆตกเป็นพื้นที่ของเบาะหลัง เพราะมีที่วางขาเพิ่มขึ้นเกือบ 5 ซม.รวมถึงปรับความหนาของเบาพเพื่อความนุ่มสบาย แต่ไม่ควรตัดฟังค์ชั่นม่านบังแดดดออก
ชุดคอนโซลแต่งวัสดุสีเงิน Tetragon พวงมาลัย M Sport มาพร้อม Paddle Shift และมีพาโนรามิคซันรูฟขนาดใหฯ่บนหลังคา
มาตรวัด Live Cockpit Visual มีลูกเล่นเก๋ๆด้วยชุดมาตรวัดที่สวนทางกับสากล ตรงกลางจะมีระบบนำทางแสดงอยู่ และบนกระจกมี Head Up Display
จอทัชสรีนอัพเดทระบบปฏิบัติการเป็น Os 7 ใช้งานได้ไหลลื่น นอกจากแสดงการทำงานของระบบความบันเทิง ยังโชว์การทำงานของวัดบูสต์เทอร์โบ อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง แรงม้า และแรงบิด
ทีเด็ดอีกหนึ่งเรื่องนั่นคือการสั่งงานระบบความบันเทิงด้วยปลายนิ้วหรือ Gesture Control
มีระบบช่วยจอดและช่วยถอยอัตโนมัติ ใช้งานไม่ยากแค่เข้าเกียร์ถอย กดปุ่ม Reversing Assistant ปล่อยมือจากพวงมาลัย แต่ต้องคุมเบรคให้ความเร็วไม่เกิน 9 กม./ชม. ระบบจะจำให้ในระยะ 50 ม. ซึ่งต้องใช้ความเร็วไม่เกิน 35 กม./ชม. อีกต่างหาก
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา ก็เป็นอีกระบบที่น่าสนใจเพราะนอกจากจะจดจำเส้นทางซึ่งทำงานร่วมกับระบบช่วยจอด และเพียงคุณเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน BME Connected App. จะสามารถรู้สถานะของรถด้วยการสั่งเปิดกล้องรอบคันได้
ชุดเครื่องเสียงหนีไม่พ้น Harman Gordon มี Wireless Charger อยู่ที่ช่องเก็บของหน้าคันเกียร์ รวมถึงช่องเสียบชาร์จแบบ Type C และระบบปรับอากาศเป็นแบบ 3 โซน ซึ่ง 330e M Sport ยังคงเป็นแบบ Dual Zone
บีเอ็มดับเบิลยูห่างหายไปนานกับเครื่องยนต์เบนซินสันดาป เพราะหลังๆจะมาเป็นระบบไฮบริดกับดีเซลเทอร์โบ ใน 330 LI ถือว่าเป็นการกลับมาให้หายคิดถึงกับขุมพลังเป็นแบบเบนซิน Twin Power Turbo ใช้เทอรโบแบบ Twin scroll ขนาดความจุ 1,998 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้าที่ 5,000-6,500 รอบ และแรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,550-4,400 รอบ อัตราเร่ง 0-100 ในเวลา 7.1 วินาที อัตราสิ้นเปลือง 15.6 กม./ลิตร
ส่งกำลังผ่านระบบ Sport Steptronic พร้อม Paddle Shift แบบ 8 จังหวะ พร้อมโหมดขับขี่ Sport Eco Pro และ Comfort ซึ่งปกติจะมี Sport Plus มาให้ด้วย
ช่วงล่างหน้าเป็นแบบ Double Joint Sprint Sturt หลังแบบ Five Link แต่ไม่ใช่ M Adaptive รวมถึง เบรคเป็นจานทั้ง 4 ล้อ แต่คาลิปเปอร์เป็นแบบธรรมดา
• ระบบ Driving Assistant ประกอบด้วย
• ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร Lane Departure Warning,
• ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา Lane Change Warning
• ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง Crossing-traffic Warning Rear
• ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ตรวจจับรถ และ คนเดินถนน ที่ความเร็วต่ำ City Braking Function
• ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ขณะถอยจอด Rear Collision Prevention
• ระบบเตือนป้ายจราจร Speed Limit Info and no-overtaking indicator
ในส่วนของระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติหรือ Cruise Control นั้นมีแต่ไม่ถึงขั้น Adaptive พิเศษตรงที่มีระบบ Curve Speed Limiter ช่วยลดความเร็วอัตโนมัติในกรณีเข้าโค้ง หรือรักษาความเร็วคงที่ขณะลงทางชัน
สำหรับรุ่นนี้แน่นอนว่าเด่นสุดๆคงเป็นเรื่องของพื้นที่นั่งแถว 2 ที่ได้มาจากฐานล้อที่ยาว ทำให้มีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารที่เงียบ แม้ในช่วงความเร็วสูง
ส่วนเรื่องสมรรถนะเรียกง่ายๆว่าหายห่วง และฟิลลิ่งของขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปจากค่ายใบพัดก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง สมรรุนะจากขุมพลังขนาด 2.0 ลิตร 258 แรงม้า พร้อมแรงบิด 400 นิวตันเมตรนั้นพละกำลังเหลือเฟือ 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ประมาณ 7 วิ และอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ประมาณ 15.6 กม./ ลิตร โดดเด่นและตอบสนองได้รวดเร็วจากระบบ Twin Power Turbo ซึ่งไม่ใช่เทอร์คู่ เข้าใจง่ายๆคือการแยกอากาศไปยังแต่ละลูกสูบมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งทุกครั้งมี่เค้นพลังก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง
ระบบช่วงล่างดีไซน์ออกมานุ่มไปนิด แต่เมื่อมองถึงวัตถุประสงค์ของความกว้างขวางจากห้องโดยสาร ก็ถูกแล้วที่ออกแบบมาให้มีนุ่มนวล
ในเรื่องตัวช่วยการขับขี่มาครบ ทั้งเตือนพร้อมดึงรถกลับเมื่อออกนอกเลน มีระบบเตือนจุดอับสายตา ระบบเตือนเมื่อมีรถเคบื่อนตัวขณะถอยหลัง แต่ที่เด่นสุดคงหนีไม่พ้นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ที่ถึงแม้ไม่ใช่ Adaptive Cruise Control แต่ก็มีระบบ Curve Speed Limiter ซึ่งคอยควบคุมและรักษาความเร็วจากเส้นทางที่ระบบประเมินแล้วว่าน่าจะไม่ปลอดภัยทั้งทางลาดชันและทางโค้ง และในส่วนของระบบช่วยจอดพร้อมและช่วยถอยอัตโนมัติก็อัจฉริยะไม่เป็นรองใคร
สรุปได้ว่า BMW 330 LI Gran Sedan นั้นโดดเด่นในเรื่องความกว้างขวาง นั่งสบาย ตัวช่วยการขับขี่มีมาให้ครบ แถมสมรรถนะยังไม่ธรรมดา แต่น่าเสียดายที่ม่านบังแดด และไฟตัดหมอก ควรจะติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ราคาจำหน่ายที่ตั้งไว้ 2,899,000 บาท แพงกว่า 330e M Sport อยู่ 100,000 บาท และยังไปเตะกับซีรีส์ 5 ตัวล่าง แต่ 330 LI M Sport ก็ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ยังไร้คู่แข่งในตลาดอยู่ดี