Friday, March 29, 2024
HomeAuto News(มีคลิปวีดีโอ) พรีวิวคันจริง All New MG5 ถ้ารุ่นท็อปราคาไม่เกิน 900,000 บาท น่าซื้อไหม

(มีคลิปวีดีโอ) พรีวิวคันจริง All New MG5 ถ้ารุ่นท็อปราคาไม่เกิน 900,000 บาท น่าซื้อไหม

20 ก.ค. 64 ถือฤกษ์ดี เปิดราคาจำหน่ายกับ All New MG 5 สปอร์ตคูเป้ซีดานที่มีมิติตัวรถจัดอยู่ในกลุ่ม C Segment แต่สามารถทำราคาให้อยู่ในกลุ่ม B Segment ได้ แค่นี้ก็น่าสนใจไม่น้อย และด้วยความโฉบเฉี่ยวจากรูปลักษณ์ พร้อมความกว้างขวางและสะดวกสบายของห้องโดยสารที่มากับฟีเจอร์ทันสมัยอีกเพียบ ทางด้านขุมพลัง 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ CVT และระบบช่วงล่าง แบบเดียวกับ MG ZS แต่พัฒนาใหม่ รายละเอียดต่างๆเป็นเช่นไรติดตามได้จากรายงาน…ถ้าให้เดาว่ารุ่นท็อปไม่เกิน 900,000 บาท จะขายดีไหม

ใกล้ถึงเวลาเต็มทีกับการเปิดตัวพร้อมจำหน่ายสำหรับ “ALL NEW MG5” รถยนต์สปอร์ตคูเป้ซีดานมาพร้อมนิยาม “BORN TO BE BEYOND : คิดให้เหนือกว่า เพื่อทุกความเป็นคุณ” ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นให้มีความเหนือกว่าในทุกด้านด้วยการออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC เพื่อให้เป็นยนตรกรรมที่มีความสปอร์ต พร้อมความสะดวกสบายตอบทุกไลฟ์สไตล์ด้วยฟังก์ชัน และเทคโนโลยีล้ำสมัย ซึ่งจะมีจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น แต่รุ่นที่เราได้นำข้อมูลมานำเสนอนั้นเป็นรุ่นท๊อป ซึ่งรุ่นอื่นๆนั่นเพียงแค่ลดหลั่นกันไปในส่วนของการตกแต่งภายนอกเล็กน้อย ภายในอีกนิด และปรับลดฟีเจอร์การใช้งานตามความเหมาะสมด้านราคา

All New MG 5 (1)

ALL NEW MG5 โดดเด่นด้วยการออกแบบใหม่ล่าสุดของเอ็มจี พร้อมตัวถังเพรียวยาวตามสไตล์รถยนต์สปอร์ตคูเป้ซีดาน มากับมิติตัวถัง 4,675 x 1,842 x 1,480 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง) ระยะความยาวฐานล้ออยู่ที่ 2,680 มิลลิเมตร ซึ่งหากเทียบสัดส่วนจะอยู่ในกลุ่ม C Segment ใกล้เคียงกับมาสด้า 3 ที่ถือว่ามีมิติตัวรถใหญ่สุดในกลุ่ม

All New MG 5 2

กระจังหน้า 3 มิติ Digital Burning Grille มาพร้อมไฟหน้าเปิด-ปิด อัตโนมัติแบบ LED Projector และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวันรวมไว้ในโคมเดียวกัน และไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์ Leopard Claw และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานให้กับรถทุกรุ่น สำหรับล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์ใบพัด 5 ก้าน หุ้มยาง Maxxis ขนาด 215/50 R17 จะติดตั้งอยู่ในรุ่นท็อปเท่านั้น

 

All New MG 5 (4)

All New MG 5 (2021)

พื้นที่ภายในกว้างขวางอย่างลงตัว พร้อมความสะดวกสบาย มีการออกแบบในสไตล์สปอร์ตแต่ยังมีจุดเด่นในเรื่องความกว้างของพื้นที่ห้องโดยสาร และมีพื้นที่เหนือศีรษะ (Headroom) ที่สูงโปร่ง พร้อมหลังคาซันรูฟ

All New MG 5 (6)

สิ่งอำนวยความสะดวกและฟังก์ชั่นที่ตอบไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งานได้อย่างลงตัว มีเบาะหนังทรงสปอร์ตโอบรับสรีระ ในส่วนของคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะหลังสามารถพับได้ สำหรับรถสีเหลืองจะใช้เบาะดำด้ายแดงเพียงสีเดียวเท่านั้น

All New MG 5 (6)

แผงคอนโซล 3D Diamond Design ลวดลายสปอร์ตพรีเมี่ยม พวงมาลัยไฟฟ้ามาพร้อมระบบมัลติฟังก์ชัน ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์ ปรับน้ำหนักได้ 3 ระดับ

All New MG 5 (8)

หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว จะติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่นท็อปเท่านั้น

All New MG 5 (9)

หน้าจอ Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว แสดงภาพจากกล้อง 360 องศา ระบบนำทางผ่านดาวเทียม และรองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android

All New MG 5 (19)

ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล มากับระบบกรองอากาศ PM 2.5 และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

All New MG 5 (10)

ที่คอนโซลเกียร์ติดตั้งระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) พร้อม Auto Hold

All New MG 5 (12)

ชุมพลังในการขับเคลื่อนใช้แบบเดียวกับ MG ZS ในรูปแบบของเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด พร้อมระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และระบบที่ส่งเสริมการขับขี่ในด้านต่างๆ ให้ทั้งประสบการณ์การขับขี่และความมั่นใจ

All New MG 5 (15)

ALL NEW MG5 มาพร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF (Full Space Frame) และให้ความมั่นใจ ในทุกการขับขี่ด้วย Synchronized Protection System ระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรปซึ่งมีการผสานการทำงานเป็นหนึ่งเดียว อัดแน่นมาเต็มคัน ทั้ง
•ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Brake System)
•ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution)
•ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
•ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่องเหยียบเบรกค้าง (Auto Vehicle Hold)
•ระบบระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System)
•ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
•ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
•ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
•ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
•ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
•ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
•ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
•ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)

All New MG 5 (12)

นอกจากนี้ยังมี ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง เข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer และระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)

ด้านระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART ได้มีการยกระดับเพื่อความสะดวกสบาย ปลอดภัย และเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในยุคดิจิตัล พร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Digital Key สามารถใช้งานรถผ่านกุญแจดิจิตอลโดยรับ – ส่ง โค้ดจากแอพพลิเคชัน i-SMART สามารถสั่งการเปิด-ปิด และสตาร์ทรถยนต์ รวมถึงการส่งกุญแจดิจิตอลให้กับผู้อื่นเพื่อใช้งานรถยนต์ผ่านแอพพลิเคชั่น

Smart Command หรือ ระบบสั่งการอัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
•กุญแจดิจิตอล
•ระบบสั่งการผ่านคำสั่งเสียงภาษาไทย
•ควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
•ค้นหาข้อมูลจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ และวางแผนการเดินทางTravel Plan จากสมาร์ทโฟนส่งเข้าหน้าจอทัชสกรีนของรถได้
•โทรออก – รับสายจากจอทัชสกรีน
•สามารถติดต่อ MG Call Centre เพื่อสอบถามข้อมูล หรือขอรับจุดน่าสนใจ (Point Of Interest ด้วยปุ่มลัดบนพวงมาลัย

All New MG 5 (17)

Smart Connect หรือ ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
•เล่นเพลงทั้งรูปแบบออนไลน์ และสตรีมมิ่ง
•ค้นหาร้านอาหาร ที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยวบนแผนที่นำทาง
•รายงานการจราจรแบบ Real Time
•เรียกดูข้อมูลข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน และข้อมูลพยากรณ์สภาพอากาศ
•อัพเกรดระบบต่าง ๆ ผ่านออนไลน์ (FOTA)

All New MG 5 (16)

Smart Check หรือ ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
•ตรวจสอบสถานะของประตูรถ
•ตรวจสอบตำแหน่งของรถ พร้อมบอกเส้นทางไปยังรถยนต์ผ่านฟังก์ชั่น FIND MY CAR โดยกำหนดให้รถเปิดไฟหน้า ไฟท้าย หรือใช้เสียงแตรผ่านการตั้งค่า
•ตรวจสอบความผิดปกติ และแจ้งสถานะการทำงานของรถ เช่น เครื่องยนต์ ลมยาง และถุงลมนิรภัย
•ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ
•ระบบแจ้งเตือนเมื่อความผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบการทำงาน หรืออุปกรณ์ของรถ
•กำหนดขอบเขตการใช้รถได้ตั้งแต่ 500 ม. ถึง 10 กม. โดยระบบจะแจ้งเตือนเมื่อรถเข้า – ออก ในขอบเขตที่กำหนดไว้

* อุปกรณ์ที่ติดตั้งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น

ALL NEW MG5 มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็น รุ่น C รุ่น D และรุ่น X พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีเหลือง (Nuclear Yellow) สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีเงิน (Silver Metallic) สีแดง (Scarlet Red) และสีเทา (Metal Ash Grey)

All New MG 5 (20)

และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในรูปแบบออนไลน์ (Online Launch) ในวันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 19.00 น. ผ่านช่องทาง Official Facebook Page : MG Thailand

RELATED ARTICLES

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

Most Popular