Saturday, July 27, 2024
HomeAuto TestTest DriveNEW HONDA CIVIC กับสัมผัสแรกในประเทศไทย หล่อ เร็ว แรง มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 DUAL VTC TURBO

NEW HONDA CIVIC กับสัมผัสแรกในประเทศไทย หล่อ เร็ว แรง มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 DUAL VTC TURBO

NEW HONDA CIVIC กับสัมผัสแรกในประเทศไทย
หล่อ เร็ว แรง มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 DUAL VTC TURBO

กระแสดังที่หลายท่านคงจะพอทราบถึงเรื่องราวความเป็นมาของซีดานรุ่นเรือธงจากค่ายฮอนด้า ซึ่งอีกไม่นานจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเพื่อให้แฟนๆได้ยลโฉมและจับจองเป็นเจ้าของ ใช่แล้วครับ…สิ่งที่ผมกำลังจะนำเสนอ นั่นคือ NEW HONDA CIVIC ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์1.5 VTC TURBO แบบใหม่ล่าสุดภายใต้เทคโนโลยี EARTH DREAM

การท้าทายเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงจนเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในวงการรถยนต์ ซึ่งค่ายฮอนด้าได้นิยามสั้นๆให้กับรถรุ่นนี้ว่านี่คือ “พรีเมี่ยมสปอร์ตซีดาน”ที่สมบูรณ์แบบ NEW HONDA CIVIC จะได้รับการพัฒนาด้านไหน และ มีอะไรโดดเด่น คำถามนี้ผมไปหาคำตอบมาให้ทุกท่านจากสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เชิญรับชมก่อนรถจริงจะเปิดตัวพร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้เลยครับ

HONDA CIVIC ได้ออกสู่สายพานการผลิตในเจนเนอเรชั่นแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1972  ความเป็นมากว่า 43 ปี ซึ่งมีการวางจำหน่ายไปยัง 170 ประเทศ โดยใช้ฐานการผลิตจากโรงงาน 9 แห่งทั่วโลก จวบจนเข้าสู่รุ่นปัจจุบันในเจนเนอเรชั่นที่ 10 ทั้งยังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการคว้า 6 รางวัล จาก 5 สถาบันชั้นนำ ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา หลังจากวางจำหน่ายเพียง 4 เดือน สิ่งที่ทำให้กวาดรางวัลมากมายในระยะเวลาไม่นานส่วนหนึ่งมาจากเทคโนโลยี  EARTH DREAM ซึ่งได้คิดค้นมาในปี 2554 และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน กระทั่งวิศวกรจากค่ายฮอนด้าได้นำเทคโนโลยีนี้มาผสานรวมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร กลเม็ดเด็ดดวงยังมีเรื่องของการติดตั้งระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จ ทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงานทัดเทียมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร

เจาะลึกเครื่องยนต์ VTC TURBO

รหัสใหม่ของความแรงและประหยัด

ถึงแม้ว่าเครื่องยนต์ระบบ Variable Valve Timing And Lift Electronic Control จะสร้างชื่อให้กับฮอนด้ามาเป็นเวลานาน แต่การพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่งทำให้ระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ถูกพัฒนามาเข้ามาเป็นตัวช่วย แถมยังมีประสิทธิภาพสูงทั้งอัตราเร่งและการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง โดยทางบริษัทผู้ผลิตเคลมไว้ว่า”ถึงแม้จะเป็นเครื่องยนต์ที่มีขนาดความจุเพียง 1.5 ลิตร แต่ก็สามารถเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตรได้อย่างสบายๆ โดยการทำงานของเครื่องยนต์เป็นการผสมรวม 3 เทคโนโลยีทันสมัยเข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่

ระบบหัวฉีด ไดเรคท์ อินเจคชัน และท่อไอดีแบบตรง หัวฉีดไดเรคอินเจคชันจะทำการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังกระบอกสูบโดยตรง ซึ่งเป็นการช่วยลดอุณหภูมิภายในกระบอกสูบและการไหลของไอดีแบบตรง ส่งผลให้อากาศและเชื้อเพลิงผสมกันได้อย่างรวดเร็ว การเผาไหม้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องยนต์จึงทำงานได้ราบรื่นและต่อเนื่อง

ระบบการควบคุมการเปิด-ปิดวาล์วแบบคู่ (Dual VTC) ของท่อไอดี และท่อไอเสีย ระบบนี้จะช่วยให้การทำงานของ Valve Timing Control (VTC) ควบคุมจังหวะการเปิด-ปิดวาล์วของท่อไอดีและท่อไอเสียสอดคล้องกัน ทำให้เครื่องยนต์ทำงานเต็มประสิทธิภาพแม้ในขณะรอบเครื่องยนต์ต่ำ

เทอร์โบ ชาร์จเจอร์ ระบบอัดอากาศที่ได้รับการเพิ่มเติมระบบควบคุมช่องระบายไอเสียส่วนเกินด้วยไฟฟ้าซึ่งติดตั้งใบพัดขนาดเล็กเพื่อนำพลังงานไอเสียส่วนเกินกลับมาใช้ใหม่ ทำให้เครื่องยนต์สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว

รู้ลึกถึง 3 องค์ประกอบหลักซึ่งเป็นที่มาของจุดเด่นในเครื่องยนต์เทคโนโลยีล่าสุดไปแล้ว สำหรับ NEW HONDA CIVIC ได้รับการติดตั้งขุมพลังขนาด 1.5 ลิตร VTEC TURBO ซึ่งเป็นการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีมให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาทีด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 220 นิวตัน-เมตร ที่ 5,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติซีวีที ซึ่งเพิ่มความสนุกในการขับขี่ด้วยระบบเกียร์แบบมีบวก/ลบ

รูปโฉมเฉี่ยวสไตล์ท้ายลาดแบบลูกผสม

ที่มาของคำว่า “พรีเมี่ยมสปอร์ตซีดาน”

นอกจากจุดเด่นในด้านของเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ หากไม่พูดถึงความงามของรูปลักษณ์และห้องโดยสารภายในก็คงจะคาดเดากันลำบาก ภาพที่ทุกท่านเห็นคือรุ่น RS ซึ่งเป็นรุ่นท๊อพ แต่ในรุ่นสแตนดาร์ดอาจมีบางส่วนแปลกตาไป ซึ่งยังถือเป็นข้อมูลลับโดยทางผู้ผลิตยังไม่สามารถเผยได้ เอาเป็นว่าข้อมูลบางอย่างที่ผมนำมาเผยแพร่ค่อนข้างจะมั่นใจได้เลยว่าในรถรุ่นมาตรฐานจะมีอุปกรณ์พวกนี้ติดตั้งมาจากโรงงานแน่นอน

สิ่งที่ประทับใจที่เกิดขึ้นตั้งแต่แรกเห็น ความสวยงามของลายเส้นที่ออกแบบมาได้อย่างลงตัวและใกล้เคียงกับรถในสไตล์แฮทแบคเอาเสียมากๆ ไอเดียเก๋ๆบางอย่างเช่นแก้มด้านข้างมีไฟเลี้ยวติดตั้งไว้จนบางมุมมองไปคล้ายกับ NSX รถสปอร์ตระดับตำนานของค่ายฮอนด้า ชุดกระจังหน้ารวมถึงโคมไฟค่อนข้างคล้ายคลึงกับ HR-V  รายละเอียดของวัสดุแน่นนอนว่าเป็นไปตามยุคสมัย คือการนำหลอดแอลอีดีรวมถึงโปรเจคเตอร์เลนส์มาติดตั้ง อีกหนึ่งจุดที่สะดุดตาคือกล้องเพื่อตรวจสอบมุมอับสายตาที่ติดตั้งบริเวณกระจกมองข้างด้านซ้าย ท้ายรถอาจจะดูไม่ต่างจากรุ่นเดิมสักเท่าไหร่เพราะโคมไฟท้ายที่ใกล้เคียงรุ่นเดิม แต่เพิ่มเติมดีไซน์โคมไฟที่เลยไปถึงขอบบนกระโปรง ในส่วนของรูปลักษณ์และอุปกรณ์ภายนอกรถค่อนข้างจะชัดเจนว่าที่กล่าวถึงจะติดตั้งมากับ NEW CIVIC ทุกรุ่น

ห้องโดยสารกว้างขวางใกล้เคียงกับรถยนต์ในระดับ D Segment จนทำให้นึกถึงภายในของ ACCORD หลังจากลองอัดเข้าไปเต็มอัตราโดยมีทั้งคนขับและผู้โดยสารรวม 5 ที่นั่ง เบาะนั่งแถวหลังนั่งเต็มทั้ง 3 ตำแหน่งโดยเพื่อนๆนักข่าวร่างกายกำยำถึง 3 คน ต่างคอมเมนต์เป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่อึดอัด” และยังได้ทัศน์วิสัยการมองที่ดีขึ้นจากการออกแบบเบาะนั่งให้เตี้ยลง อุปกรณ์ที่โดดเด่นเริ่มจากจอ TFT บริเวณแผงแดชบอร์ดและจอทัชสรีนที่อยู่บริเวณคอนโซลกลาง รวมถึงยกระดับความหรูด้วยเบรคมือไฟฟ้า

“สมรรถนะเกินตัว”

นิยามนี้พูดได้ไม่ผิดเพี้ยน

สาธยายมาพอหอมปากหอมคอกับทีเด็ดใน NEW CIVIC 2016 ถึงเวลาลองของกันสักทีครับ อย่างที่เกริ่นไว้ตั้งแต่แรกว่าการทดสอบในครั้งนี้ ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ใช้สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต เป็นสถานที่เปิดประสบการณ์ใหม่เพื่อให้คณะของเราได้สัมผัสเป็นครั้งแรก รถที่ได้ทำการทดสอบมีอยู่ 2 คันซึ่งเป็นรุ่นท๊อพในชื่อรุ่น“RS” และสื่อแต่ละสำนักมีโอกาสได้ลองขับคนละ 2 รอบสนาม ระยะทางรวมเกือบ 10 กม. จริงๆอาจจะดูว่าน้อยไปสักนิดสำหรับการทดสอบรถ 1 คัน แต่การขับในสนามแข่งคือการลองสมรรถนะอย่างเต็มกำลัง เค้นสมรรถนะกันสุดโต่ง แล้วยิ่งเป็นการทดสอบในสนามแข่งระดับโลกด้วยอีกต่างหาก ไม่มีทางที่จะขับแบบกินลม…ชมวิว แน่นอน

หลังจากรับฟังการบรรยายสรุปเรื่องรูปแบบการขับขี่รวมถึงจุดเด่นของสมรรถนะเครื่องยนต์ก็ถึงเวลาสำหรับการ “ลองของ” บริเวณพิทอินซึ่งใช้เป็นตำแหน่งปล่อยรถ ความเร็วจะถูกจำกัดไว้ไม่เกิน 60 กม./ชม.แต่พอตัดเข้าเส้นทางที่ใช้ขับจริง คันเร่งถูกกระแทกอย่างรุนแรงสร้างแรงดึงได้ดีในระดับหนึ่งแต่ก็ไม่ถึงกระชากจนหลังติดเบาะ ในช่วงทางตรงซึ่งเป็นจุดเด่นของสนามแห่งนี้มีความยาวกว่า 1 กม. ผมเหลือบตามาดูความเร็วซึ่งไปเตะอยู่ประมาณ 170 กม./ชม. ในขณะนั้นเหมือนจะไม่เร็วนัก เพราะทั้งสนามมีเพียง NEW HONDA CIVIC เพียงคันเดียวที่ขับอยู่บนแทรก อีกอย่างที่น่าจะทำให้เพลิดเพลินกับความเร็วนั่นคือเรื่องของการเก็บเสียงจากภายนอกรวมถึงเสียงของเครื่องยนต์ที่เร็ดรอดเข้ามาในตัวรถถือว่าซับเสียงได้ดี จากช่วงสุดทางตรงจะเป็นทางโค้ง แพดเดิลชิฟท์หลังพวงมาลัยมีบทบาทขึ้นมาทันที การเปลี่ยนเกียร์โดยใช้แพดเดิลชิฟท์เพื่อเป็นการชะลอรถโดย ENGINE BRAKE ทำได้ค่อนข้างจะนุ่มนวล บางครั้งต้องลดทีละ 2-3 ตำแหน่ง เพื่อลดความเร็วก่อนเข้าโค้งตามทฤษฏีของการขับรถในสนามแข่ง ปรุงแต่งทิศทางและกำลังเครื่องยนต์ด้วยการเบรคเป็นบางจังหวะ ก่อนจะเติมความเร็วเมื่อออกจากโค้ง ขณะที่ทิศทางได้ตามต้องการผมตัดสินใจกระแทกคันเร่งอย่างรุนแรงเพื่อสังเกตว่ารถจะเสียอาการมากน้อยเพียงใด ขอยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าระบบช่วงล่างนั้นได้ทำการปรับเซทมาเป็นอย่างดี อาการย้วยจากการออกโค้งสัมผัสได้น้อยมาก สปริงและโช๊คอัพทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่นุ่มและไม่แข็งจนเกินไป โดยรวมถือว่าเยี่ยมยอด แต่ที่ไม่ค่อยดีนักคือหมดเวลาสำหรับการทดลองเนื่องจากหมดโควต้าที่ทีมผู้จัดได้ให้ไว้เพียงท่านละ 2 รอบเท่านั้น

การที่ผมชื่นชมถึงการปรับเซทช่วงล่างที่ปรับมานั้น มาถึงบางอ้อก็เมื่อเปิดฝากระโปรงท้ายออก เหล็กแท่งยาวๆทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างโช๊คอัพทั้งด้านซ้ายและขวา หรือรู้จักกันในชื่อ “สตรัทบาร์” เป็นอุปกรณ์ที่ทำให้คลายความสงสัย และมีการยืนยันว่าติดตั้งมากับรถทุกรุ่น นอกจากนี้ความอลังการของพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่มีขนาดความจุทะลุ 500 ลิตร เป็นอะไรที่ถูกซ่อนไว้ได้อย่างกลมกลืน อีกฟังค์ชั่นที่ต้องโชว์คือกุญแจอิมโมบิไลเซอร์mujติดตั้งระบบสั่งการให้เครื่องยนต์สตาร์ทและดับเครื่องได้ด้วยวิธีกดปุ่มที่กุญแจรีโมท และจะทำงานก็ต่อเมื่อเกียร์อยู่ในตำแหน่งP แต่จะทำการเมื่อประตูลอคเท่านั้น โดยมีรัศมีทำการคลอบคลุมระยะไม่เกิน 10 เมตร และจะทำงานแค่ 10 นาที หลังจากนั้น เครื่องยนต์จะดับอัตโนมัติ

ข้อมูลที่จัดทำขึ้นถือเป็นการจัดเต็มกับกระแสดังของรถรุ่นเรือธงคันล่าสุดจากค่ายฮอนด้า มาถึงตอนนี้ชักเริ่มอยากเห็นตัวจริงกันแล้วใช่หรือไม่ อดทนรออีกสักนิด ไม่เกินกลางเดือนมี.ค. NEW CIVIC 2016 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการแน่นอน โดยเครื่องยนต์มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 1.8 ลิตร และ 1.5 VTC TURBO รวมถึงแยกออกเป็น 4 รุ่นย่อย ประสบการณ์ตรงที่ผมได้สัมผัสและข้อมูลลับที่ผมนำเสนอสามารถฟันธงได้ว่า…สาวกของรถรุ่นนี้ต้องไม่ผิดหวัง 

RELATED ARTICLES

Most Popular