Friday, April 19, 2024
HomeFeatureNEW MG VS HEV เอสยูวีขุมพลังไฮบริด เทคโนโลยีเหนือระดับ ราคาจำหน่ายไม่ถึงล้านบาท

NEW MG VS HEV เอสยูวีขุมพลังไฮบริด เทคโนโลยีเหนือระดับ ราคาจำหน่ายไม่ถึงล้านบาท

NEW MG VS HEV สปอร์ต ไฮบริดรุ่นแรกของเอ็มจี ที่มาเติมเต็มโมเดลในเซกเมนต์เอสยูวีของแบรนด์ได้อย่างลงตัว ทั้งรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว ทันสมัยกับเทคโนโลยีที่จัดมาแบบไม่มีกั๊ก พร้อมขุมพลังไฮบริด ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ในเวลาเพียง 9 วินาที กับอัตราบริโภคเชื้อเพลิงที่ให้ความประหยัดสูงถึง 24.4 กม./ลิตร เปิดตัวพร้อมจำหน่าย 2 รุ่น ในราคารุ่นท๊อปที่ไม่ถึง 1 ล้านบาท ก่อนที่จะทดลองขับแล้วมาเล่า ดูรายละเอียดของน้องใหม่จาก MG กันก่อนครับ

New MG VS HEV 1

New MG VS HEV รถยนต์ในคลาส B-SUV รุ่นล่าสุดที่ เอ็มจี เซลส์ ประเทศ ไทย จำกัด ได้ส่งเข้าสู่ตลาดรถยนต์ในเมืองไทยภายใต้ แนวคิด “ABSOLUTE” เป็นตัวตนขั้นสุด หลุดจากทุกมิติเดิมๆ ฉีกภาพจำของรถเอสยูวีด้วยดีไซน์และประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกเร้าใจภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC มากับมิติตัวถัง 4,370 x 1,809 x 1,653 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง) ระยะความยาวฐานล้อ 2,585 มิลลิเมตร

NEW MG VS HEV 2

มิติใหม่ของดีไซน์รถยนต์ไฮบริด ที่แฝงความเป็นสปอร์ตจากกระจังหน้ารูปแบบใหม่ Electrified Matrix Grille เพิ่มการตกแต่งโดยใช้สีฟ้าบริเวณกระจัง และกันชนหน้า

NEW MG VS HEV 3

ไฟหน้าแบบ LED Projector เปิด-ปิดอัตโนมัติที่มาพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน (DAYTIME RUNNING LIGHT)

NEW MG VS HEV 4

ไฟท้ายก็เป็นแบบ LED เช่นกัน ส่วนล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว พร้อม AERO WHEEL COVER ช่วยลดแรงต้านลม และแน่นอนว่ารถแบรนด์นี้ต้องมากับหลังคากระจกขนาดใหญ่

NEW MG VS HEV 5

NEW MG VS HEV 6

ห้องโดยสารยังคงสอดแทรกการตกแต่งโดยใช้สีฟ้า กับสีภายในห้องโดยสาร 2 ทางเลือก คือ สีทูโทน ดำ-ขาว และสีดำ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง พร้อมที่พักแขนด้านหน้า

NEW MG VS HEV 7

ครั้งแรกของรถในกลุ่ม B-SUV ที่มาพร้อมกับ Dual Widescreen Cockpit เสริมความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้วยจอคู่ HD ขนาดใหญ่ ที่ประกอบด้วย หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบ Full Virtual Dashboard ขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอ Touch Screen ขนาดเดียวกันซึ่งรองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android และควบคุมการทำงานผ่าน Illuminated Touch Panel

NEW MG VS HEV 7

ออกแบบคอนโซลสไตล์ Double Layer ด้านบนตกแต่งด้วยวัสดุ PIANO BLACK พวงมาลัยหุ้มหนังและคันเกียร์ตกแต่งลวดลาย LASER PATTERN ให้ความสำคัญกับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น Wireless Charger และ ช่องเชื่อมต่อ USB TYPE A และ C รวมถึงช่องปรับอากาศตอนหลัง

NEW MG VS HEV 8

ขุมพลังไฮบริดมาจากเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ในส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตัน-เมตร รวมพละกำลังสูงสุดที่ 177 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT

NEW MG VS HEV 10

แบตเตอรี่ Lithium-Ion แรงดันสูง ขนาด 2.13 kWh มาพร้อมตัวช่วยชาร์จกำลังไฟอย่าง ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ในเวลาน้อยกว่า 9 วินาที และมีอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงอยู่ที่ 24.4 กม./ลิตร

โหมดขับขี่มีให้เลือก 3 รูปแบบ ได้แก่ Eco, Comfort และ Sport มาพร้อมช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION จากช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างหลังแบบ Torsion Beam

NEW MG VS HEV 12

ระบบความปลอดภัยเรียกได้ว่าเต็มขั้น ใช้โครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) มั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM 12 ระบบ ได้แก่
•ระบบป้องกันการไหลของรถ AVH (Auto Vehicle Hold)
•ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Brake System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution)
•ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
•ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
•ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
•ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
•ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
•ระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control System)
•ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
•ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
•ระบบจำกัดความเร็ว ASL (Active Speed Limit)

NEW MG VS HEV 17

นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ High Definition พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ถุงลมนิรภัย คู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX และระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer

NEW MG VS HEV 13

NEW MG VS HEV เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิทัลเข้ากับฟังก์ชันอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์เอ็มจีด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART มาพร้อมกับ Digital Key Technology รับ – ส่งกุญแจดิจิทัลผ่านสมาร์ทโฟนได้

สำหรับ Smart Command หรือ ระบบสั่งการอัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
•กุญแจดิจิทัล
•ระบบสั่งการผ่านคำสั่งเสียงภาษาไทย
•ควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
•ค้นหาข้อมูลจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ และวางแผนการเดินทาง Travel Plan จากสมาร์ทโฟนส่งเข้าหน้าจอทัชสกรีนของรถได้
•โทรออก – รับสายจากจอทัชสกรีน
•ระบบโทรอัตโนมัติกรณีฉุกเฉิน เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน (Emergency Call)
•ระบบเลขาส่วนตัว MG Call Centre ในการสอบถามข้อมูล ด้วยปุ่มลัดบนพวงมาลัย

Smart Connect หรือ ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
•เล่นเพลงทั้งรูปแบบออนไลน์และแบบสตรีมมิ่ง
•ค้นหาร้านอาหาร ที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยวบนแผนที่นำทาง
•ระบบนำทาง navigation พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time
•เรียกดูข้อมูลข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน และข้อมูลพยากรณ์สภาพอากาศ
•อัพเกรดระบบต่าง ๆ ผ่านออนไลน์ (FOTA)

NEW MG VS HEV 14

Smart Check หรือ ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
•ตรวจสอบสถานะรถยนต์
•ตรวจสอบตำแหน่งของรถ พร้อมบอกเส้นทางไปยังรถยนต์ผ่านฟังก์ชั่น FIND MY CAR
โดยกำหนดให้รถเปิดไฟหน้า ไฟท้าย หรือใช้เสียงแตรผ่านการตั้งค่า
•ตรวจสอบความผิดปกติ และแจ้งสถานะการทำงานของรถ เช่น เครื่องยนต์ ลมยาง และถุงลมนิรภัย
•ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ
•ระบบแจ้งเตือนเมื่อความผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบการทำงาน หรืออุปกรณ์ของรถ
•กำหนดขอบเขตการใช้รถได้ตั้งแต่ 500 ม. ถึง 10 กม. โดยระบบจะแจ้งเตือนเมื่อรถเข้า – ออก ในขอบเขตที่กำหนดไว้

NEW MG VS HEV มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็น รุ่น D และรุ่น X โดยรุ่น D จะมีสีภายในเป็นสีดำล้วน มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี คือ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) และสีแดง (Scarlet Red)

รุ่น X มีสีให้เลือกทั้งแบบโมโนโทนและทูโทน แบบโมโนโทนมีสีภายในเป็นสีดำล้วน มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) และสีแดง (Scarlet Red)

รุ่นทูโทนหลังคาสีดำและมีสีภายในเป็นแบบทูโทนขาวสลับดำ มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเขียว (Mineral Green) สีเทา (Metal Ash Grey) และสีขาว (Arctic White)

NEW MG VS HEV 16

สำหรับราคาจำหน่าย New MG VS HEV รุ่น D อยู่ที่ 859,000 บาท และ รุ่น X ราคา 919,000 บาท

เห็นเพียงข้อมูลก็ว๊าวสุด กับน้องใหม่แบรนด์ MG สำหรับผู้ที่สนใจรุ่นนี้อยู่ เร็วๆนี้ เราจะไปทดสอบสมรรถนะเพื่อมานำเสนอให้อีกครั้งครับ

RELATED ARTICLES

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

Most Popular