TR TRANFORMER II หรือรถยนต์ที่ทุกท่านกำลังสนใจอยู่ในขณะนี้ เป็นการดัดแปลงรูปโฉมใหม่ โดยฝีมือคนไทยซึ่งได้ร่วมกับสถาบันออกแบบจากประเทศอังกฤษตกแต่งใหม่ในรูปแบบของรถตรวจการณ์ ซึ่งการขับขี่ไปไหนมาไหนมีแต่ผู้คนเหลียวมองและให้ความสนใจ โดยภาพรวมคล้ายคลึงกับรถของทหารที่ใช้ในการปฏิบัติภารกิจราชการ และอาจมีส่วนคล้ายกับ HAMMER รถลุยแดนมะกัน ซึ่งพูดได้ว่าเป็นต้นทางก่อนที่จะได้รับการปรับแต่ง
ก่อนหน้านี้ทีมงาน www.autoworldthailand.com เคยได้เข้าร่วมกิจกรรมทดลองขับ TR TRANFORMER II เมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็ยังติดใจอยุ่ไม่น้อยกับสมรรถนะในการลุยเพื่อสะท้อนถึงคำว่ารูปแบบของรถตรวจการณ์ ภารกิจนี้จึงถือกำเนิดพร้อมกับการนำเอารถรุ่นแต่งเต็มของ TR TRANFORMER II ไปใช้เป็นพาหนะ
TR TRANFORMER II คันที่ทุกท่านเห็นได้รับการตกแต่งเพิ่มความดุพร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือสำหรับการลุยหนัก รูปลักษณ์ที่ได้รับการปรับแต่งจากรุ่นแรกลบเหลี่ยมสันจากเดิมไปพอสมควร โดยได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ฮอลลีวู๊ดยอดนิยมเรื่อง IRON MAN มีไฟหน้าแบบแอลอีดีให้ความโดดเด่น มาพร้อมกันชนหน้าฝีมือไทยประดิษฐ์ ทำสีเดียวกับตัวรถพร้อมติดตั้งวินซ์สำหรับลากจูงเมื่อต้องลุยหนักในพื้นที่ทุรกันดาน
รถคันนี้ถือว่าเป็นคันที่ได้รับการตกแต่งเต็มพิกัดในด้านอุปกรณ์ช่วยเหลือเพิ่มเติมในส่วนของสน๊อคเกิลไว้ใช้สำหรับภารกิจลุยโดยเฉพาะ พร้อมติดตั้งชุดยกเพื่อเพิ่มความสูงให้กับตัวรถ รวมถึงล้อและยางออเทอร์เรนสำหรับใช้งานได้ทุกสภาพเส้นทาง นอกจากนี้มุมมองด้านท้ายยังคงให้ความแกร่ง ทั้งไฟท้ายดวงกลมคู่ ฝาหลังเปิดแบบเต็มบานและติดตั้งยางอะไหล่โชว์ไว้อย่างดุดัน
ห้องโดยสารดีไซน์หลังคาทรงสูงแบบ Hi Roof ที่กว้างขวาง โปร่ง โล่งสบาย ในรูปแบบของรถ 5 ที่นั่ง พร้อมมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระมากกว่า รถ PPV ทั่วไป ภานในยังคงรูปแบบของ Hilux Revo ไว้ครบครัน ตกแต่งภายในด้วยสีเมทัลลิก ชุดแดชบอร์ดเป็นจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID ขนาด 4.2 นิ้วคอนโซลฝั่งผู้โดยสารมีช่องเก็บของพร้อมระบบรักษาความเย็น ขับกล่อมความบันเทิงด้วยเครื่องเสียงพร้อมระบบนำทางผ่านดาวเทียม แสดงการทำงานโดยหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว กระจายความเย็นทั่วห้องโดยสารจากระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมแอร์บนเพดาน
ขุมพลังของ TR Transformer II เป็นเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 4 สูบ พร้อมติดตั้งระบบอัดอากาศแบบ VN TURBO ที่หยิบยกมาจาก Toyota รุ่น 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ 1,400-2,600 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
TR TRANFORMER II คันนี้ได้มีการอัพเกรดสมรรถนะของช่วงล่างไปแล้วหลายอย่าง แต่เดิมเป็นแบบอิสระปีกนกคู่พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ด้านท้ายเป็นแบบแหนบซ้อน สำหรับความปลอดภัยติดตั้งถุงลมนิรภัย 3 ตำแหน่ง แบ่งเป็นด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และ บริเวณเข่าคนขับอีก 1 ตำแหน่ง รวมถึงติดตั้งระบบเบรก ABS และ เข็มขัดนิรภัยพร้อมระบบดึงกลับและผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ
เส้นทางสำหรับภารกิจลุยในครั้งนี้อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ปลายทางคืออ่างเก็บน้ำห้วยปรือ จ.นครนายก ซึ่งตอบโจทย์ได้ทุกรูปแบบ เพราะมีทางฝุ่นสำหรับการขับขี่ในสไตล์ครอสสคันทรี รวมถึงทางลุยในรูปแบบออฟโรด แต่ก็ไม่ถึงกับโหดหนักถึงขั้นต้องใช้อุปกรณ์เสริมอย่าง”วินซ์” ที่ติดมากับรถ
ถึงเวลาที่ได้ใช้ ”เกียร์ฝาก” ภาษาที่ชาวออฟโรดเรียกกันง่ายๆ สำหรับการใช้ระบบขับเคลื่อนในเส้นทางลุย จาก ”ขับสอง” มาเป็น “ขับสี่” ทางลูกรังก่อนเข้าไปในบริเวณของอ่างเก็บน้ำ สภาพเส้นทางเป็นแบบดินฝุ่น พื้นผิวนุ่ม ทำให้ลื่นไถลได้ง่าย ตำแหน่งเกียร์ถูกเปลี่ยนมาที่ตำแหน่ง 4H เพื่อเพิ่มการยึดเกาะ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อรุ่นใหม่ๆ ไม่จำเป็นจะต้องจอดรถสนิทแล้วค่อยเปลี่ยนตำแหน่ง ลองที่ความเร็วประมาณ 20-30 กม./ชม.ก็ยังสามารถทำได้และสะดวกเพียงใช้มือบิด
ระยะทางในการทดลองบนสภาพทางฝุ่นประมาณ 5 กม. อาการดิ้นของช่วงล่างยังคงสัมผัสได้เป็นบางขณะ การที่รถคันนี้ได้อัพเกรดมาในระดับหนึ่ง จาการเปลี่ยนช๊อคอัพและสปริง รวมถึงเพิ่มความสูงให้กับตัวรถ บนถนนหลวงที่เป็นปูนหรือลาดยาง อาจจะแข็งกระด้างไปบ้าง แต่ในสภาพพื้นผิวที่เป็นดินลูกรังแบบนี้ ถือว่าเป็นการตอบโจทย์ได้ตรงจุด เพราะรถทั่วไปอาจต้องขับขี่แบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป แต่ TR TRANFORMER II ที่ได้รับการตกแต่งเต็มพิกัดคันนี้ พูดได้ว่าขับสบายและสนุก
มาถึงเส้นทางรอบอ่างเก็บน้ำ มีทั้งทางลูกรัง และเป็นลานดินกว้างริมตลิ่งที่มีน้ำท่วมขังสูงประมาณเกือบมิดล้อ เรื่องสนุกซึ่งเสี่ยงเหนื่อยได้บังเกิดขึ้น
หลังจากชื่นชมทัศนียภาพบนขอบอ่างเก็บน้ำ หลายคนอาจจะไม่รู้จักที่นี่มากนัก เพราะเลยไปอีกไม่ไกลก็จะถึงกับเขื่อนขุนด่านปราการชล อ่างเก็บน้ำแห่งนี้มีชื่อว่า “หนองปรือ” เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ตั้งอยู่ใกล้กับ”คลองมะเดื่อ” ธารน้ำที่มีต้นสายอยู่บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในช่วงฤดูฝน น้ำจะล้นตลิ่งทำให้เกิดแอ่งน้ำเล็กๆ ความลึกขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำ แต่ในขณะที่นำ TR TRANFORMER II ไปลองลุย ความลึกของระดับน้ำจะอยู่ประมาณ 50 ซม. เทียบง่ายๆคือระดับน้ำเกือบติดกับใต้ท้องรถ
ณ จุดนี้ถือว่านำรถลุยมาลองได้สบาย แต่ก็ต้องเป็นรถที่ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์เสริมอย่าง”วินซ์” เพราะหากเกิดติดหล่มโคลน ทั่วบริเวณจะมีต้นไม้ใหญ่ไว้เป็นหลักในการดึงรถขึ้น ซึ่งจะไม่เป็นภาระทำให้คนอื่นต้องลำบากไปด้วย
การขับในรูปแบบออฟโร๊ดบนเส้นทางดินโคลนที่มีน้ำขังแบบนี้ “เกียร์ 4L” ถือเป็นตัวช่วยในการก้าวข้ามอุปสรรคไปได้อย่างดี อีกอย่างหนึ่งคือการสำรวจพื้นที่ หากเป็นทางบังคับซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ แนะนำว่าให้พิจารณาเส้นทางให้ดีก่อนที่จะขับผ่าน แต่ลานดินริมอ่างเก็บน้ำหนองปรือแห่งนี้ เป็นเพียงน้ำที่เอ่อล้นตลิ่ง สภาพพื้นดินจึงยังไม่นุ่มเข้าขั้นดินโคลน จะมีก็เพียงบางจุด แต่ก็พอให้ถอยเข้าถอยออกและหลุดอุปสรรคนั้นมาได้แบบไม่ยากเย็น และไม่ต้องเหนื่อยกับการลากวินซ์แต่อย่างใด
ภารกิจลุยในครั้งนี้ผ่านไปได้สบายๆ โดย TR TRANFORMER II ที่เป็น Super Hero สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ทำให้ผมประจักษ์ว่า แม้จะเป็นรถทรงกล่องที่ดูเทอะทะไปสักนิด แต่ด้วยความแปลกใหม่ จึงทำให้สะกดสายตาผู้พบเห็นและเรียกเรทติ้งบนถนนได้ดีมาก ส่วนในการลุยนั้นต่องบอกว่าหายห่วง เพราะขุมพลังและสมรรถนะที่เหลือเฟือจากต้นทางเดิม เมื่อได้รับการปรุงแต่งหน้าตา รูปลักษณ์ และยังมีส่วนให้รถมีน้ำหนักเพิ่มมากยิ่งขึ้น แต่ในภารกิจลุยในรูปแบบของรถตรวจการณ์เอนกประสงค์นั้น ก็ไม่ได้ด้อยลงและมั่นใจได้เมื่อต้องใช้รถคคันนี้ไปเป็นพาหนะสำหรับสภาพเส้นทางทุกรูปแบบ