Monday, September 22, 2025
Home Blog Page 3

เอเอเอสฯ จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ “Porsche Centre Kanlapaphruek“ โชว์รูมและศูนย์บริการครบวงจรแห่งใหม่อย่างเป็นทางการในย่านฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ

0

เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแห่งแรกในประเทศไทย เดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์เชิงรุกอย่างต่อเนื่อง จัดพิธีวางศิลาฤกษ์โชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ Porsche Centre Kanlapaphruek ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในปี 2569

โชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่นี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่ศักยภาพกว่า 10,000 ตารางเมตร รองรับความต้องการของลูกค้าที่อาศัยอยู่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ครอบคลุมพื้นที่สำคัญอย่างย่านสาทร พระราม 2 และบริเวณโดยรอบที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

Porsche Centre Kanlapaphruek ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Destination Porsche” ที่มุ่งยกระดับให้โชว์รูมและศูนย์บริการแห่งนี้เป็นมากกว่าพื้นที่ให้บริการ แต่เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้ที่หลงใหลในปอร์เช่อย่างแท้จริง พร้อมมอบประสบการณ์ที่ครอบคลุมทั้งในมิติของแบรนด์และไลฟ์สไตล์

ในพิธีครั้งสำคัญนี้ เอเอเอสฯ ได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูงจาก ปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก และ ปอร์เช่ ประเทศไทย เข้าร่วมแสดงความยินดี พร้อมกล่าวถึงวิสัยทัศน์ในการพัฒนาโชว์รูมและศูนย์บริการ Porsche Centre Kanlapaphruek ให้เป็นมาตรฐานระดับโลกที่สะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ปอร์เช่อย่างแท้จริง และเสริมศักยภาพการให้บริการลูกค้าในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ

มร. ฮานเนส รูออฟ (Hannes Ruoff)  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า “พิธีวางศิลาฤกษ์ของ Porsche Centre Kanlapaphruek นับเป็นอีกหนึ่งก้าวที่มีความหมายอย่างยิ่งสำหรับเส้นทางของแบรนด์ปอร์เช่ในประเทศไทย เรารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ร่วมสนับสนุนพันธมิตรที่เราเชื่อมั่นและมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นมายาวนานอย่าง เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเอเอเอสฯ ในการมอบประสบการณ์ระดับลักชัวรี่ให้กับลูกค้าปอร์เช่อย่างแท้จริง โชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่นี้จะช่วยให้ปอร์เช่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งตอกย้ำความแข็งแกร่งของปอร์เช่ในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

มร. ไมเคิล เวตเตอร์ (Michael Vetter) กรรมการผู้จัดการ ปอร์เช่ ประเทศไทย กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็น เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ก้าวไปอีกขั้นอย่างแข็งแกร่งกับ Porsche Centre Kanlapaphruek ซึ่งออกแบบภายใต้แนวคิดที่ทันสมัยอย่าง Destination Porsche โชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่นี้จะไม่ใช่เพียงสถานที่จำหน่ายรถยนต์หรือให้บริการหลังการขายเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ที่มีชีวิตชีวาและสะท้อนจิตวิญญาณของปอร์เช่อย่างเต็มเปี่ยม มุ่งสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เราตั้งตารอที่จะได้เห็นศูนย์แห่งนี้มีบทบาทสำคัญในการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าปอร์เช่ในย่านกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก”

 

นายวุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ ประธานบริหาร บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า “โชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่นี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงของเราในการดูแลลูกค้าปอร์เช่ในประเทศไทย Porsche Centre Kanlapaphruek จะถ่ายทอดวิสัยทัศน์ของเอเอเอสฯ ในการส่งมอบความเป็นเลิศ ทั้งในด้านการบริการและประสบการณ์ระดับพรีเมียม พร้อมตอกย้ำบทบาทของเราในฐานะพันธมิตรที่น่าเชื่อถือของปอร์เช่ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เริ่มต้นบทใหม่อีกครั้ง และได้ถ่ายทอดประสบการณ์เหนือระดับของปอร์เช่ให้กับลูกค้าในย่านฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ มากยิ่งขึ้น”

เมื่อ Porsche Centre Kanlapaphruek แล้วเสร็จ ศูนย์ฯ แห่งใหม่นี้มุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดบรรยากาศอันหรูหราและล้ำสมัย สะท้อนตัวตนและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าปอร์เช่อย่างแท้จริงในทุกมิติ พร้อมให้บริการอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นโชว์รูมสำหรับรถใหม่และรถยนต์ Porsche Approved พื้นที่อเนกประสงค์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกความต้องการ ศูนย์บริการที่ครบถ้วนด้วยเครื่องมือมาตรฐานจากโรงงาน ศูนย์ซ่อมสีและตัวถังที่ทันสมัย ตลอดจนศูนย์ดูแลรักษารถยนต์ระดับพรีเมียมที่พร้อมให้บริการอย่างครบวงจรในทุกรายละเอียด

Porsche Centre Kanlapaphruek แห่งใหม่นี้มีกำหนดเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบภายในปี พ.ศ. 2569 ด้วยเป้าหมายในการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าและเสริมความแข็งแกร่งให้กับภาพลักษณ์ของแบรนด์ปอร์เช่ในประเทศไทยให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน เอเอเอสฯ ขอแจ้งให้ทราบว่า Porsche Centre Pattanakarn ได้กลับมาเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบแล้วอีกครั้ง ภายใต้โฉมใหม่ของโชว์รูมที่ได้รับการรีโนเวท พร้อมศักยภาพด้านการบริการที่ได้รับการยกระดับ หลังจากการขยายศูนย์บริการเมื่อไม่นานมานี้

พร้อมกันนี้ เอเอเอสฯ ได้ดำเนินการก่อสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการรูปแบบใหม่ของ Porsche Centre Bangkok เพื่อเปิดมิติใหม่ของ Customer Experience ทั้งในด้านการขายและการบริการที่ครบครันและทันสมัยยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าปอร์เช่ในประเทศไทยที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม ได้ที่ https://linktr.ee/porscheaas

“Primus Charity Golf Tournament 2025” สุดยิ่งใหญ่ คัด 12 นักกอล์ฟ ร่วมทริปตีกอล์ฟสุดหรู ที่คุนหมิง

0

ไพรม์มัส กรุ๊ป จัดแข่งขันกอล์ฟการกุศล “Primus Charity Golf Tournament 2025อย่างยิ่งใหญ่  ณ สนามกอล์ฟ “สยาม คันทรี คลับ โอลด์ คอร์ส” พัทยา จ.ชลบุรี  ประชันวงสวิงลุ้นสิทธิ์  12 สุดยอดนักกอล์ฟ ร่วมทริปบินลัดฟ้าเล่นกอล์ฟสุดหรู ที่คุนหมิง ประเทศจีน ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน

นายณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ประธาน บริษัทในเครือ ไพรม์มัส กรุ๊ป  เปิดเผยว่า การจัดแข่งขันกอล์ฟการกุศล “Primus Charity Golf Tournament 2025” ในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยลูกค้ารถยนต์กลุ่มพรีเมี่ยม ในเครือ ไพรม์มัส กรุ๊ป ได้แก่ Mercedes-Benz, Zeekr, MG, Aion และ Deepal ให้ความสนใจและตอบรับเข้าร่วมประชันวงสวิงมากถึง 144 คน เพื่อลุ้นสิทธิ์เป็น 1 ใน 12 สุดยอดนักกอล์ฟ ร่วมเปิดประสบการณ์กับรางวัลแพคเก็จเล่นกอล์ฟสุดหรู ที่สนามกอล์ฟ Spring City Golf & Lake Resort เมืองคุน หมิง ประเทศจีน ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน และรางวัลไฮไลท์ Hole in One รถยนต์แบรนด์ลักชูรีย์ Zeekr 7X Performance AWD รถยนต์ SUV ไฟฟ้า 100% มูลค่า 1,799,000 บาท

การแข่งขันในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นอีกเวทีสำหรับนักกอล์ฟที่จะร่วมประชันฝีมือ แต่ยังเป็นโอกาสในการร่วมทำประโยชน์เพื่อสังคม โดยรายได้จากการแข่งขันทั้งหมด จะมอบให้แก่ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อสนับสนุนงานด้านสาธารณสุข อันเป็นเจตนารมณ์ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมที่ “ไพรม์มัส กรุ๊ป” ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง

“ผมในนามตัวแทนของ ไพรม์มัส กรุ๊ป ต้องขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่สนใจและสนับสนุนการแข่งขันในครั้งนี้ ทำให้ประสบความสำเร็จและบรรจุวัตถุประสงค์เป็นอย่างดี การจัดงานครั้งนี้  นอกจากจะสร้างประสบการณ์สุดพิเศษให้แก่นักกอล์ฟแล้ว ยังเป็นการสะท้อนความมุ่งมั่นของ ไพรม์มัส กรุ๊ป ในการตอบแทนสังคม และมอบความประทับใจที่เหนือระดับให้แก่ลูกค้าคนสำคัญอีกด้วย”

ด้าน นายจิระพล รุจิวิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทในเครือ ไพรม์มัส กรุ๊ป กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการแข่งขันกอล์ฟการกุศลในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้น โดยบรรดาเหล่านักกอล์ฟให้ความสนใจในการร่วมเปิดประสบการณ์สุดพิเศษ กับการแข่งขันที่เน้นความสนุกสนาน ท้าทาย ในสนามกอล์ฟ

“สยาม คันทรี คลับ โอลด์ คอร์ส” พัทยา จ.ชลบุรี เป็นสนามที่ใช้จัดแข่งขันรายการระดับ LPGA และทัวร์นาเมนต์นานาชาติรายการสำคัญหลายรายการ อีกทั้งยังเพิ่มความตื่นเต้น ท้าทาย ด้วยรางวัล Hole in One รวม 3 หลุม   โดยมีรางวัลใหญ่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% Zeekr 7X Performance AWD มูลค่า 1,799,000 บาท  ที่สนับสนุนโดย บริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด (มหาชน) กับแพ็กเกจเล่นกอล์ฟสุดพรีเมียม ที่คุนหมิง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าฟิล์มกรองแสง “ลามิน่า” และ บริษัท เออร์โก ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด ฃึ่ง 2 รางวัลหลังนี้ หากไม่มีผู้ใดทำ Hole in One ได้ จะนำรางวัลดังกล่าวมาจับลุ้นหาผู้โชคดีต่อไป

“การจัดการแข่งขันในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งความตั้งใจของเราที่จะมอบประสบการณ์การแข่งขันกอล์ฟแบบลักชัวรี่ย์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ “ไพรม์มัส กรุ๊ป” ที่จะส่งมอบเอกสิทธิ์พิเศษเหนือระดับ ควบคู่การสร้างความพึงพอใจสูงสุด ทั้งด้านการขายและการบริการหลังการขายที่ครบถ้วน สมบูรณ์แบบสูงสุดให้แก่ลูกค้าคนสำคัญของเรา”

ด้านรายละเอียดการแข่งขัน มีผู้เข้าแข่งขัน รวมทั้งสิ้น 144 คน แบ่งการแข่งขันเป็นประเภทบุคคล ไฟลท์ A, B, และ C แข่งขัน 18 หลุม แบบสโตรคเพลย์ ใช้ระบบแต้มต่อ 36 (36 System) และตัดสินด้วยระบบ Stableford เพื่อคัดเลือกผู้ชนะเลิศอันดับ 1-3 ของแต่ละไฟล์, รางวัล Overall Low Gross และรางวัล Hole in One รวมราคาพิเศษต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท

สำหรับผู้ชนะเลิศในการแข่งขันกอล์ฟการกุศล Primus Charity Golf Tournament 2025 และรับรางวัลแพคเก็จเล่นกอล์ฟสุดหรู ที่คุนหมิง ประเทศจีน ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน พร้อมถ้วยรางวัล ได้แก่

รางวัล Overall Low Gross :     คุณณัฐ  เวสชัชวาล

ไฟลท์ A

ผู้ชนะเลิศคุณประวิทย์ โนภิชัยNet Score 70 คะแนน
รองชนะเลิศ อันดับ 1คุณนิษารัตน์ ฮุยสรวงNet Score 71 คะแนน
รองชนะเลิศ อันดับ 2คุณทรงพล แสงมาศNet Score 71 คะแนน

 

ไฟลท์ B

ผู้ชนะเลิศคุณกรอินทร์ บุษสระเกษNet Score  69 คะแนน
รองชนะเลิศ อันดับ 1คุณธนาเทพ ศิริบุตรNet Score 69 คะแนน
รองชนะเลิศ อันดับ 2คุณชวนากร จันทรตังNet Score 70 คะแนน

 

ไฟลท์ C

ผู้ชนะเลิศคุณสมสมัย แก้วบุตรดีNet Score 71 คะแนน
รองชนะเลิศ อันดับ 1คุณ สหศักย์ ธนาธรณ์Net Score 73 คะแนน
รองชนะเลิศ อันดับ 2คุณโชค กิตติพงษ์ถาวรNet Score 73 คะแนน

 

พร้อมรางวัลพิเศษแพคเก็จเล่นกอล์ฟสุดหรู จากการจับรางวัลผู้โชคดี ได้แก่ คุณนพปฏล ช้างเผือก และ คุณสมเดช สินธุชัย

 

กรังด์ปรีซ์ฯ ประกาศศักยภาพ ยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย สู่เจ้าภาพการจัดงาน “Asia Automotive Award 2025” ครั้งแรกในประเทศไทย

0

งาน Asia Automotive Award (AAA) จัดขึ้นโดย บริษัท ASIAAUTO VENTURE SDN BHD (MOTONATION) ประเทศมาเลเซีย ซึ่ง Mr. Por Boon Kuan ประธานจัดงานฯ ได้เล็งเห็นศักยภาพของบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะองค์กรสื่อ และผู้จัดงานอีเวนต์ยานยนต์ชั้นนำของประเทศไทย  และเป็นผู้จัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ มายาวนานกว่า 46 ปี ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก  นำมาสู่ความร่วมมือในการร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดงานประกาศรางวัล Asia Automotive Award 2025 (ครั้งที่5) ซึ่งเป็นการจัดงานครั้งแรกนอกประเทศมาเลเซีย และยังเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และยังได้รับการสนับสนุนจากสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย (TAPMA) และสมาคมยานยนต์สำคัญอื่นๆ ของไทย ซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการส่งเสริมความเป็นเลิศด้านยานยนต์และขับเคลื่อนความร่วมมือระดับภูมิภาคนับเป็นเกียรติยศ และเป็นการยืนยันถึงความเชี่ยวชาญในวงการยานยนต์ไปสู่เวทีระดับนานาชาติอีกครั้ง ของ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) โดยคุณพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยคุณอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่สายการผลิต ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) อย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา

“Asia Automotive Award (AAA) ” “Asia Automotive Award (AAA) ” เป็นเวทีมอบรางวัลอันทรงเกียรติที่จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูผู้ประกอบการที่มีผลงานโดดเด่นและนวัตกรรมที่เป็นเลิศในระดับภูมิภาคเอเชีย การคัดเลือกผู้ได้รับรางวัลดำเนินการโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายประเทศ ผ่านกระบวนการประเมินอย่างละเอียดและเข้มงวด เพื่อเป็นการยืนยันถึงความเป็นเลิศและความสำเร็จในสาขาต่างๆ ของอุตสาหกรรมยานยนต์ 

งานประกาศรางวัล Asia Automotive Award 2025 (ครั้งที่5) มีกำหนดการจัด งานในวันที่ 17 มกราคม 2569  สำหรับบริษัทที่สนใจเข้าร่วมเสนอชื่อเพื่อเข้ารับรางวัลในสาขาต่างๆ อาทิ ด้านนวัตกรรม (Innovation),   ด้านความยั่งยืน (Sustainability), ด้านมอเตอร์สปอร์ต (Motorsport), ด้านผลิตภัณฑ์หลังการขาย (Aftermarket), ด้านความเป็นผู้นำ (Leadership) และ อื่นๆ รวมกว่า 11 สาขา  สามารถส่งใบเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลได้ที่ https://asiaautomotiveawards.com

หรือสแกนผ่านคิวอาร์โค้ด ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2568  

วิริยะประกันภัย คว้า 3 รางวัล “บริหารงานดีเด่น – ตัวแทนประกันวินาศภัยดีเด่น” ภายในพิธีมอบรางวัลประกันภัยดีเด่นครบวงจร ประจำปี 2568

0

นายอมร ทองธิว กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) รับรางวัล “บริษัทประกันวินาศภัยที่มีการบริหารงานดีเด่น ประจำปี 2567” ภายในพิธีมอบรางวัลประกันภัยดีเด่นครบวงจร ประจำปี 2568 (Prime Minister’s Insurance Awards 2025) ซึ่งจัดขึ้นโดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) พร้อมกันนี้ นางสาวกฤตกา ลุนสายยา ตัวแทนประกันวินาศภัย สังกัดสาขาอุดรราชธานี และนายพรชัย ละมูลพันธ์ ตัวแทนประกันวินาศภัย สังกัดสาขานครราชสีมา ยังได้เข้ารับรางวัล “ตัวแทนประกันวินาศภัยคุณภาพดีเด่น ประจำปี 2567” โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียรติเป็นประธานมอบรางวัล ณ ห้องบางกอกคอนเวนชัน เซ็นเตอร์ เอวัน โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์

ทั้งนี้ รางวัล “บริษัทประกันวินาศภัยที่มีการบริหารงานดีเด่น” และรางวัล “ตัวแทนประกันวินาศภัยคุณภาพดีเด่น” ถือเป็น 2 รางวัลอันทรงเกียรติ ที่สะท้อนความสำเร็จของวิริยะประกันภัย ในการดำเนินธุรกิจประกันวินาศภัยด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรมตามหลักธรรมาภิบาลอย่างแท้จริง มีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และการบริการประกันภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับกับภัยความเสี่ยงรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน พร้อมทั้งมุ่งเน้นการขับเคลื่อนศักยภาพของตัวแทนประกันวินาศภัย ให้มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานอย่างมืออาชีพ เพื่อดูแลผู้บริโภคในทุกช่วงเวลาของการใช้ชีวิต ด้วยแนวคิด “ใช้ทุกวิให้คุ้มค่า : ด้วยบริการที่เป็นเลิศครอบคลุมครบวงจร”

“เอ็มจี” ยังแกร่ง ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในไทยพุ่งอันดับ 1 เติบโตกว่า 70% ตอกย้ำความเชื่อมั่นอยู่คู่ตลาดไทยมากว่า 12 ปี ที่ให้มากกว่าฟังก์ชัน คือความมั่นใจและการดูแลระยะยาว

0
เอ็มจี 1

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์ เอ็มจี ในประเทศไทย เผยความสำเร็จ ก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ประจำเดือนสิงหาคม 2568 ด้วยตัวเลขสูงถึง 2,230 คัน ขณะที่ยอดรวมรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง สิงหาคม มีอัตราการเติบโตกว่าปี 2567 กว่า 70% ตอกย้ำความไว้วางใจจากลูกค้าชาวไทยต่อแบรนด์ ที่ยืนหยัดและเติบโตเคียงคู่ตลาดไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 12 ปี

เอ็มจี 2

เอ็มจี ได้สร้างความเชื่อมั่นและวางกลยุทธ์การวางผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับความคุ้มค่าที่มอบให้ลูกค้า ทำให้ยอดจดทะเบียนในช่วง เดือนสิงหาคม รวมทุกรุ่นอยู่ที่ 2,615 คัน มีรุ่นยอดนิยมอย่าง NEW MG4 ELECTRIC ซึ่งได้อันดับ 1 ในยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และยังมีรุ่นที่เปิดตัวใหม่อย่าง NEW MG S5 EV และ NEW MG IM6 ที่ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของอีวีคุณภาพที่เข้าถึงได้ง่าย และมียอดรวมตั้งแต่เดือน มกราคม ถึง สิงหาคม ปี 2568 รวมแล้วกว่า 15,783 คัน นอกจากนี้ เอ็มจี ถือเป็นแบรนด์เดียวที่กล้ามอบความมั่นใจให้ลูกค้าก้าวเข้าสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างไร้กังวลด้วยการรับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุม ตลอดอายุการใช้งาน (LIFETIME WARRANTY) อีกทั้งยังมีคลังอะไหล่ที่พร้อมส่งเร็วสุดภายใน 24 ชั่วโมง โชว์รูมและศูนย์บริการกว่า 125 แห่ง ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมแผนการขยายเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เอ็มจี จึงไม่เพียงมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ แต่ยังลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการสร้าง MG EV ECOSYSTEM ที่แข็งแกร่งและครอบคลุมในทุกมิติ

์New MG IM6 3

นาย ซู๋ว์ หยิ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ยอดที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและการทุ่มเทของ เอ็มจี ตลอดจนความไว้วางใจที่ลูกค้ามอบให้เสมอมา เอ็มจี มุ่งมั่นที่จะยืนหยัดเคียงข้างลูกค้าในประเทศไทยอย่างยั่งยืน พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในราคาคุ้มค่า ควบคู่ไปกับบริการหลังการขายที่ครบครัน เพื่อมอบประสบการณ์ที่ไม่ใช่แค่ฟังก์ชันหลากหลาย แต่ยังมอบความอุ่นใจตลอดระยะเวลาการเป็นเจ้าของ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ เอ็มจี สามารถเติบโตเหนือกว่าแบรนด์ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาด คือความพร้อมที่จะปรับตัวให้สอดรับกับจังหวะและความเปลี่ยนแปลงของตลาดในทุกสถานการณ์ เพื่อให้แบรนด์ก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคงตลอดเวลา”

์New MG IM6 7

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของ เอ็มจี ได้ที่
Website: www.mgcars.com
Line: @MGThailand
Facebook: www.facebook.com/MGcarsThailand
Twitter: @mg_thailand
Instagram: @mgthailand
Youtube: MG Thailand
TikTok: @mgthailand
Application: MG Thailand

“ฮุนได” เสริมแกร่งขยายพื้นที่บริการหลังการขาย ผ่านกิจกรรม “Hyundai Before Service – ศูนย์บริการเคลื่อนที่ฮุนได” ครอบคลุมกว่า 30 จังหวัดทั่วไทย

0
ฮุนได 1

บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าตอกย้ำกลยุทธ์เสริมสร้างความเชื่อมั่นด้านบริการหลังการขายให้กับลูกค้าทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ผ่านกิจกรรม “Hyundai Before Service – ศูนย์บริการเคลื่อนที่ฮุนได” ขยายขอบเขตการดูแลลูกค้าออกไปสู่นอกพื้นที่ โดยเฉพาะในจังหวัดที่ยังไม่มีศูนย์บริการฮุนไดอย่างเป็นทางการ เพื่อขยายการเข้าถึงและสร้างประสบการณ์การดูแลที่สะดวกสบายและอุ่นใจมากยิ่งขึ้น กิจกรรมนี้ไม่เพียงเป็นการยืนยันถึงความพร้อมของฮุนไดในการมอบบริการที่มีคุณภาพระดับศูนย์บริการมาตรฐานเท่านั้น แต่ยังเป็นการต่อยอดกลยุทธ์ระยะยาวในการขยายเครือข่ายการให้บริการหลังการขาย ตั้งเป้าปี 2568 สามารถครอบคลุมพื้นที่รวม 52 จังหวัดทั่วประเทศ สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าว่าจะได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใดก็ตาม

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โครงการดังกล่าวได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากเจ้าของรถฮุนไดทั่วประเทศ โดยกิจกรรม Hyundai Before Service – ศูนย์บริการเคลื่อนที่ฮุนได จะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง กว่า 50 ครั้ง ประเทศตลอดปี 2568 โดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมจากฮุนไดโดยตรง พร้อมด้วยอะไหล่แท้คุณภาพมาตรฐาน มอบบริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรี 25 รายการ ครอบคลุมตั้งแต่ระบบเครื่องยนต์ ระบบเบรก ช่วงล่าง ไปจนถึงระบบไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังมีบริการเช็กระยะ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ซ่อมบำรุงพื้นฐาน และให้คำปรึกษาเชิงเทคนิคอย่างมืออาชีพ ทั้งหมดนี้ จัดขึ้นเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การดูแลที่เทียบเท่าศูนย์บริการมาตรฐานของฮุนได แม้จะอยู่ในพื้นที่ที่ยังไม่มีศูนย์บริการอย่างเป็นทางการ

ในครึ่งปีแรกของปี 2568 ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – กรกฎาคม ฮุนไดเดินหน้าจัดกิจกรรมศูนย์บริการเคลื่อนที่แล้วกว่า 30 ครั้ง ใน 22 จังหวัดทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง ตะวันออก และใต้ โดยมีจังหวัดสำคัญที่ไปให้บริการ อาทิ เชียงใหม่ (อ.ฝาง), แพร่, น่าน, เพชรบูรณ์, สกลนคร, กาฬสินธุ์, นครพนม, เลย, ศรีสะเกษ, ร้อยเอ็ด, มุกดาหาร, สุรินทร์, ชัยภูมิ, บึงกาฬ, นครราชสีมา (อ.ปากช่อง), อยุธยา, สุพรรณบุรี, สิงห์บุรี, กำแพงเพชร, จันทบุรี, กระบี่ และนครศรีธรรมราช เป็นต้น ความต่อเนื่องของกิจกรรม ไม่เพียงตอกย้ำความพร้อมด้านบริการหลังการขายของฮุนได แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของฮุนไดในการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดในทุกพื้นที่

ความสำเร็จในครึ่งปีแรก ยังนำไปสู่การขยายแผนงานอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 ระหว่างเดือนสิงหาคม – ธันวาคม โดยฮุนไดเตรียมเดินหน้าจัดกิจกรรมศูนย์บริการเคลื่อนที่เพิ่มเติมในอีก 8 จังหวัด และจังหวัดอื่น ๆ รวมกว่า 20 ครั้งทั่วประเทศ โดยมีจังหวัดสำคัญในแผน เช่น ลำพูน, อุทัยธานี, อำนาจเจริญ, ยโสธร, มหาสารคาม, ชุมพร, ชลบุรี (อ.พานทอง) และระยอง (บ้านเพ) เป็นต้น

นอกจากบริการด้านบำรุงรักษารถยนต์แล้ว ศูนย์บริการเคลื่อนที่ ยังจัดขึ้นพร้อมการทดลองขับรถรุ่นใหม่ ให้ลูกค้าได้สัมผัสสมรรถนะจริงของรถฮุนไดอย่างใกล้ชิด และตลอดช่วงเดือนมิถุนายน – ธันวาคม 2568 ฮุนไดยังจัดแคมเปญพิเศษ สำหรับผู้เข้ารับบริการในกิจกรรม “Hyundai Before Service – ศูนย์บริการเคลื่อนที่ฮุนได” โดยมอบสิทธิประโยชน์สุดคุ้ม

สำหรับลูกค้าที่เข้าร่วมกิจกรรมทดลองขับและจองรถฮุนไดภายในงาน และรับรถภายใน 30 วัน
– รับบัตรของขวัญเชลล์ มูลค่า 10,000 บาท เมื่อทดลองขับและจองรถรุ่น STARIA, PALISADE, The all-new SANTA FE
– รับบัตรของขวัญเชลล์ มูลค่า 5,000 บาท เมื่อทดลองขับและจองรถรุ่น CRETA, STARGAZER

สำหรับลูกค้าที่เข้ารับบริการ
– มียอดใช้จ่ายในการบริการ ตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ รับทันที บัตรของขวัญเชลล์ มูลค่า 500 บาท
– มียอดใช้จ่ายในการบริการ ต่ำกว่า 5,000 บาทต่อใบเสร็จ รับฟรี ของสมนาคุณสุดพรีเมียมจากฮุนได

เพิ่มเติม สำหรับลูกค้าที่เข้ารับบริการในกิจกรรม “Hyundai Before Service” และนำรถกลับมาเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการฮุนไดอย่างเป็นทางการ ภายใน 30 วัน และมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ จะได้รับบัตรของขวัญเชลล์เพิ่มอีก 500 บาท สิทธิพิเศษเหล่านี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของฮุนได ในการดูแลลูกค้าอย่างครบวงจร ทั้งนี้เพื่อสร้างความพึงพอใจและมอบความคุ้มค่าแก่ลูกค้าปัจจุบัน และการขยายฐานลูกค้าใหม่ในอนาคต
กิจกรรม “Hyundai Before Service – ศูนย์บริการเคลื่อนที่ฮุนได” ไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมบริการเชิงรุก แต่สะท้อนถึงพันธกิจสำคัญของฮุนได ในการมอบประสบการณ์บริการหลังการขายที่เข้าถึงง่าย ได้มาตรฐานระดับสากล และสร้างความอุ่นใจให้กับลูกค้าในทุกเส้นทาง พร้อมตอกย้ำคำมั่นสัญญาของแบรนด์ว่า “ใกล้หรือไกล…ฮุนไดพร้อมดูแล” อย่างแท้จริง

ลูกค้าสามารถติดตามตารางกิจกรรมครั้งถัดไปและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.hyundai.com/th/th/service/hyundai-service/outreach-program หรือสอบถามข้อมูลที่ Hyundai Call Center โทร. 02-305-8494

 

“GEELY EM-P Super Hybrid” เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดแบบ AWD สมรรถนะสูง ที่ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะและระบบความปลอดภัยขั้นสูง

0
GEELY EM-P Super Hybrid 1

กลุ่มบริษัท GEELY HOLDING ผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำระดับโลกที่มีชื่อเสียงด้านการพัฒนาและนวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์ล้ำสมัย เดินหน้ารุกตลาดพลังงานใหม่อย่างเต็มศักยภาพ โดยมีบริษัท ธนบุรีนอยสเติร์น จำกัด เป็นผู้นำเข้าและผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ตอกย้ำความเชี่ยวชาญด้านการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีระดับโลกอีกครั้งด้วยการเปิดตัวเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน EM-P Super Hybrid ที่พัฒนาขึ้นไปอีกขั้นจากเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน EM-i และพื้นฐานเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม ยานยนต์ไฟฟ้าขั้นสูง GEA (Global Intelligent Electric Architecture) ที่ผสานสมรรถนะอันทรงพลัง เข้ากับความปลอดภัยขั้นสูง และระบบอัจฉริยะที่ช่วยตัดสินใจได้อย่างแม่นยำในทุกสถานการณ์ สำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความเร็ว การควบคุมที่เฉียบคม และมั่นใจในทุกสภาพถนน ตอกย้ำความเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง

GEELY EM-P Super Hybrid 2

สมรรถนะที่มั่นใจได้ ควบคุมได้ทุกสถานการณ์
เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน EM-P Super Hybrid คือ เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสามมอเตอร์ (AWD) ที่ล้ำสมัย สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม. ได้ภายในเวลาเพียง 4.5 วินาที ไม่ว่าจะเป็นการขับบนทางด่วน หรือ บนทางลาดชัน เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน AWD อัจฉริยะแบบ EM-P สามารถปรับแรงบิดให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์การขับขี่ พร้อมการควบคุมที่มั่นใจและการตอบสนองที่แม่นยำ แม้ในสภาวะที่มีพลังงานในแบตเตอรี่ต่ำ ระบบขับเคลื่อน EM-P Super Hybrid ยังคงมอบทั้งสมรรถนะที่เร้าใจ ด้วยอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ยอดเยี่ยมราว 4.8 ลิตรต่อ 100 กม. ตามมาตรฐาน CLTC เหมาะสำหรับการขับขี่ระยะทางไกลที่คุ้มค่าและมั่นใจที่สุดแห่งความปลอดภัยด้วยระบบอัจฉริยะ

GEELY ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมที่ไม่เพียงมุ่งเน้นแต่ในด้านสมรรถนะความเร็ว แต่ยังคำนึงถึงความปลอดภัยและความมั่นใจสูงสุดให้แก่ผู้ขับขี่ เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน EM-P จึงมาพร้อมกับระบบสำรองพลังงานอัจฉริยะจาก 5 แหล่ง ที่ออกแบบให้รถสามารถขับเคลื่อนต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้เกิดเหตุขัดข้องบางส่วนในสถานการณ์ฉุกเฉิน ช่วยให้ผู้ขับขี่ยังคงควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ ถือเป็นมาตรฐานใหม่ด้านความปลอดภัยสำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด นอกจากนี้เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน EM-P ยังได้รับการรับรองความปลอดภัยตามมาตรฐานของระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้อ ด้วยกระบวนการออกแบบและขั้นตอนการทดสอบอย่างเข้มงวด เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินได้อย่างแม่นยำและมั่นใจในทุกสภาพการขับขี่

แกร่งเหนือชั้น มาตรฐานระดับโลก
นอกจากสมรรถนะอันยอดเยี่ยมแล้ว GEELY ยังได้พัฒนาเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน EM-P ให้มีความทนทานต่อทุกสภาพการใช้งาน ผ่านการทดสอบมากกว่า 40 ล้านกิโลเมตร ในกว่า 200 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน EM-P จึงได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความแข็งแกร่งทนทานในทุกสภาพอากาศและทุกสภาพถนน การันตีคุณภาพผ่านการรับรองมาตรฐานระดับ S-class เป็นครั้งแรกของโลก และยังได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมชั้นนำจากหลายหน่วยงาน อาทิ ISO 26262 ASIL D, ISO 21434 CAL 4 และ ASPICE Level 3 ตอกย้ำความเหนือระดับของเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน EM-P ที่มีมาตรฐานเหนือกว่าระบบปลั๊กอินไฮบริดทั่วไป พร้อมนิยามใหม่ของคุณภาพและความปลอดภัยระดับโลก

อัจฉริยะในทุกจังหวะการขับขี่
อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน EM-P คือ ความสามารถในการตัดสินใจแบบเรียลไทม์ ด้วยโหมดการขับขี่ที่ปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย ตั้งแต่โหมดประหยัดพลังงาน โหมดสปอร์ต หรือโหมดออฟโรด ระบบสามารถเลือกและสลับโหมดอย่างเหมาะสมตามสภาพถนน ความชัน และน้ำหนักบรรทุกของรถ พร้อมการกระจายพลังงานอย่างชาญฉลาดผ่านเทคโนโลยี AI อัจฉริยะที่ติดตั้งภายในตัวรถ โดยเทคโนโลยีระบบ AI ของ EM-P จะประมวลผลข้อมูลจากหลายเซ็นเซอร์ ทั้งแรงบิดล้อ การทรงตัว การยึดเกาะถนน และสถานะแบตเตอรี่ เพื่อปรับการทำงานของเครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้า และระบบส่งกำลังแบบสี่ล้อ (AWD) ให้สมดุลที่สุดในทุกสภาวะการขับขี่ โดยสามารถปรับแรงบิด แรงดึง และอัตราการตอบสนองของแต่ละล้อได้แบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจในทุกการเลี้ยว การเร่ง และการเบรก

นอกจากนี้ ระบบ EM-P ยังสามารถปรับการทำงานของโหมดพลังงานสำรองได้อย่างต่อเนื่อง ลดความซับซ้อนในการควบคุม และรักษาสมรรถนะสูงสุดแม้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน การประสานงานระหว่าง AI กับระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริดนี้ ไม่เพียงเพิ่มความแรงและความคล่องตัว แต่ยังคงให้ความมั่นใจสูงสุดด้านความปลอดภัย ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมือง การเดินทางระยะไกล และการขับขี่บนเส้นทางที่ท้าทาย

ทั้งหมดนี้ทำให้เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน EM-P เป็นระบบปลั๊กอินไฮบริดที่ออกแบบมาเพื่อผู้ ขับขี่อย่างแท้จริง ผสานทั้งสมรรถนะ ความปลอดภัย และความอัจฉริยะไว้ในหนึ่งเดียว มอบความมั่นใจสูงสุดในการควบคุมทุกสถานการณ์อย่างแม่นยำ

จุดเริ่มต้นของยนตรกรรมแห่งอนาคต
เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน EM-P Super Hybrid ไม่เพียงเป็นระบบขับเคลื่อนแห่งอนาคตเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของ GEELY ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมระบบการขับเคลื่อนแบบ ปลั๊กอินไฮบริด เพื่อมุ่งสร้างยนตรกรรมที่ผสานสมรรถนะการขับขี่ที่ดีที่สุดกับสุดยอดเทคโนโลยีระบบความปลอดภัย พร้อมมอบประสบการณ์ขับขี่ที่เหนือระดับในทุกเส้นทาง ทั้งถนนที่เปิดโล่ง ทางโค้งบนภูเขา และพร้อมรับทุกสภาพอากาศ การันตีความมั่นใจด้วยผลการทดสอบอย่างเข้มข้นและหลากหลายผลการรับรองตามมาตรฐานระดับสากล
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่าเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน EM-P คือ มาตรฐานใหม่ของยานยนต์ไฟฟ้า ที่มอบประสบการณ์ขับขี่ที่สมบูรณ์มากขึ้นกว่าเดิม และก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ เพื่อมุ่งสู่อนาคตของโลกยานยนต์อย่างแท้จริง

“นิสสัน ประเทศไทย” ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งสำคัญด้วยการรวมสายการผลิตได้สำเร็จ สายการผลิตแบบบูรณาการใหม่นี้พร้อมรองรับการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ในอนาคต

0
นิสสัน 1

นิสสัน ประเทศไทย ฉลองความสำเร็จครั้งสำคัญในวันนี้ ด้วยการดำเนินโครงการรวมสายการผลิตที่โรงงานจังหวัดสมุทรปราการเสร็จสมบูรณ์ โครงการดังกล่าวเริ่มต้นในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2568 โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผน Re:Nissan ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยกระดับประสิทธิภาพ และความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งเตรียมความพร้อมสำหรับการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ในอนาคต   

นิสสัน 2

โทชิฮิโระ ฟูจิคิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย และนิสสัน อาเซียน เปิดเผยว่า “ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโต และดำเนินการผลิตในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง นิสสันได้ดำเนินโครงการรวมสายการผลิตจนเสร็จสมบูรณ์ได้ตามกำหนด การยกระดับสายการผลิตในครั้งนี้จะช่วยให้เราสามารถปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของตลาด รวมทั้งเพิ่มความสามารถในการแข่งขันเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืนต่อไปทั้งในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน”

ความสำเร็จในการดำเนินโครงการเชิงกลยุทธ์นี้ เป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นของบริษัทที่มีต่อศักยภาพและความเชี่ยวชาญของพนักงานในประเทศไทย จึงได้จัดพิธีฉลองที่โรงงาน โดยมีผู้บริหาร และพนักงานมาร่วมในพิธี และยังได้รับเกียรติจากผู้บริหารของกลุ่มสยาม มอเตอร์ ซึ่งเป็นพันธมิตรของนิสสันมานาน มาร่วมงาน นำโดย ดร.พรเทพ พรประภา ประธานกรรมการ กลุ่มสยาม มอเตอร์ และ นายประกาสิทธิ์ พรประภา กรรมการผู้จัดการ

นิสสัน 3

“การที่นิสสันประสบความสำเร็จครั้งสำคัญในประเทศไทยนี้ ต้องขอขอบคุณความร่วมมือร่วมใจจากพันธมิตรและความทุ่มเทของพนักงานในโรงงานผลิตของเราทุกคน ความมุ่งมั่นของพนักงานที่พร้อมจะปรับตัวเสมอ จะเป็นแรงบันดาลใจให้นิสสันเดินหน้าสร้างการเติบโตไปพร้อมกับสังคมไทย สร้างคุณค่าให้แก่ลูกค้า พนักงาน พันธมิตร และสังคมอย่างต่อเนื่องต่อไป” มร.ฟูจิกิกล่าวเสริม

นิสสัน 4

การรวมสายการผลิตเป็นการดำเนินการเชิงกลยุทธ์ที่จะทำให้นิสสันมีสายการผลิตที่มีประสิทธิภาพ มีความคล่องตัวมากขึ้น ทำให้โรงงานแห่งนี้มีความพร้อมและศักยภาพที่จะรองรับการผลิตรถยนต์รุ่นหลักๆ ได้แก่ อัลเมร่า คิกส์ อี-พาวเวอร์ นาวารา และเทอร์ร่า ตลอดจนรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ในอนาคต รวมถึงรุ่นที่ใช้เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า นอกจากจะผลิตรถยนต์เพื่อป้อนตลาดในประเทศแล้ว โรงงานแห่งนี้จะผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกไปยังตลาดทั่วโลกกว่า 100 แห่ง สำหรับในประเทศไทย นิสสันจำหน่ายรถยนต์หลายรุ่น ได้แก่ อัลเมร่า คิกส์ อี-พาวเวอร์ นาวารา และเทอร์ร่า และรุ่นที่นำเข้ามาได้แก่ นิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ และเซเรน่า ใหม่ เครื่องยนต์ S-Hybrid

“อีซูซุ” จัดสปอร์ตเดย์สุดมันส์ “The TRUSTED BUDDY Match 2025” กระชับมิตรกับสื่อมวลชน

0
อีซูซุ 1

บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด จัดงาน “Isuzu – Press Sports Day 2025” ในธีม “The TRUSTED BUDDY Match” กระชับมิตรภาพกับสื่อมวลชนสายยานยนต์ ภายใต้แนวคิด “Isuzu Trusted Buddy… อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย” โดยมี มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ และคุณสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย ร่วมเป็นประธานในพิธีการแข่งขัน และร่วมสร้างสีสัน ในงานกีฬาที่จัดขึ้นอย่างเป็นกันเอง ณ สนามฟุตบอล Super Star Arena

อีซูซุ 2

กิจกรรมปีนี้อัดแน่นไปด้วยความมันส์ครบรส เริ่มต้นด้วยเกมไทยปิดท้ายด้วยเกมจากญี่ปุ่น ผสมผสานทั้งกีฬาและเกมอันเป็นเอกลักษณ์ทั้งสองประเทศ

อีซูซุ 4

เปิดงานด้วยเกม “Peak & Kick Hole-in-Fun Challenge” ที่รวมกีฬากอล์ฟและฟุตบอลเข้าด้วยกัน ผนึกกำลังระหว่างสื่อมวลชนอาวุโสและผู้บริหารอีซูซุเพื่อแข่งกันทำคะแนน นำทีมโดย มร. ทาคาชิ ฮาตะ โชว์สกิลฟาดแข้ง แม่นเหมือนจับวาง ต่อด้วยเกมสนุก ๆ แบบไทย ๆ “D-Max ดีจริง วิ่งให้มันส์” หรือเกมวิ่งเปี้ยว ที่เด็กไทยทุกคนต้องรู้จัก แมตช์นี้ได้เห็นแผนการวิ่งแบบคาดไม่ถึงจนกองเชียร์เฮลั่นสนาม เกมถัดมาคือ “MAXFORCE… MAX SMASH พลังตบกำหนดโลก” เน้นความสนุกมากกว่าการแข่งขันโชว์สกิลตบลูกขนไก่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร ต่อด้วยกีฬาฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศ “The TRUSTED BUDDY Match” ระหว่างทีมสื่อมวลชนสายรถยนต์และทีมอีซูซุ ที่เรียกเสียงเชียร์ลั่นเหมือนแมตช์ชิงแชมป์โลกเลยทีเดียว พิเศษสำหรับปีนี้กับศึก “ฟุตบอลหญิง” ระหว่างทีมสื่อมวลชนสายยานยนต์และทีมอีซูซุ ที่มาเรียกเสียงฮาดังสนั่นสนามฟุตบอล ปิดท้ายกิจกรรมด้วยเกมแบบญี่ปุ่น “King of Basket ศึกตะกร้าฟ้าสะเทือน” หรือ เกมโยนลูกบอลลงตะกร้า (Tamaire) กิจกรรมยอดฮิตของงานกีฬาในโรงเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น กติกาดูง่ายแต่ท้าทายไม่เบา

อีซูซุ 4

ก่อนปิดงานทีมผู้บริหารอีซูซุได้มอบรางวัลให้กับผู้เข้าแข่งขันตามคะแนนสะสมอันดับ 1 ถึง 4 ตลอดทั้งกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋ากีฬา หมวก ผ้าเช็ดตัว รวมถึงบัตรกำนัลต่าง ๆ และของรางวัลน่ารัก ๆ อย่างตุ๊กตาและพวงขนมที่เรียกรอยยิ้มจากทุกคนได้เป็นอย่างดี บรรยากาศยังไม่จบเพียงเท่านั้น หลังพิธี มอบรางวัลทุกคนยังได้อิ่มท้องกับอาหารอร่อย ๆ ส่งท้ายวันแห่งความสนุกและความสุข ก่อนแยกย้ายกลับบ้านด้วยหัวใจเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความประทับใจ

อีซูซุ 6

ร่วมติดตามและอัพเดทข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com หรือ LINE: @isuzuthai

“Leapmotor B10” ออกเดินทางสู่ตลาดโลกอย่างเป็นทางการ! พร้อมเผยโฉมที่งาน IAA MOBILITY 2025 มิวนิก, เยอรมนีเป็นครั้งแรก ในเดือนกันยายนนี้

0
Leapmotor B10 1

Leapmotor B10 ก้าวกระโดดสู่ตลาดโลกอย่างมั่นใจ Leapmotor B10 รถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์อัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุด ที่พัฒนาบนสถาปัตยกรรมล้ำสมัย LEAP 3.5 ได้ออกเดินทางสู่ทวีปยุโรปอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมเผยโฉมคันจริงครั้งแรกที่งาน IAA MOBILITY 2025 เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 8–14 กันยายน 2568 และเตรียมส่งมอบให้ลูกค้าชาวยุโรปภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้     

ลิฟมอเตอร์ 2

จาก “การส่งออกสินค้า” สู่ “การส่งออกคุณภาพ” การเปิดตัว Leapmotor B10 ในครั้งนี้ ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางเทคโนโลยีและกลยุทธ์ระดับโลกของ Leapmotor เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานยานยนต์ไฟฟ้าสู่ระดับโลกอย่างแท้จริง Leapmotor B10 จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งนวัตกรรมและคุณภาพ ที่พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาด SUV อัจฉริยะทั่วโลก

ลิฟมอเตอร์ 3

เครือข่ายระดับโลก ขยายสู่กว่า 30 ประเทศ ปัจจุบัน Leapmotor International มีโชว์รูมและศูนย์บริการกว่า 700 แห่งในกว่า 30 ตลาดทั่วโลก ภายในปี 2025 Leapmotor B10 จะเปิดตัวในกว่า 30 ประเทศและภูมิภาค อาทิ ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา เอเชียแปซิฟิก และอเมริกาใต้ โดยตลาดยุโรปถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่ Leapmotor มุ่งมั่นขยายธุรกิจอย่างเต็มกำลัง

ลิฟมอเตอร์ 4

ราคาที่แข่งขันได้ในตลาดยุโรป ในงาน IAA MOBILITY 2025 Leapmotor International ได้ประกาศราคาจำหน่าย Leapmotor B10 เริ่มต้นที่ 29,900 ยูโร (ราคาอาจแตกต่างไปตามแต่ละประเทศและอัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้น) ถือเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่มีความคุ้มค่าและสามารถแข่งขันได้อย่างแท้จริงในตลาดยุโรป
อนาคตที่มุ่งสู่ความยั่งยืนและความเป็นสากล Leapmotor International จะยังคงเดินหน้าพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าที่ล้ำสมัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยกระดับประสบการณ์การขับขี่ เพื่อก้าวสู่การเป็นแบรนด์ระดับสากลที่ลูกค้าทั่วโลกไว้วางใจ

ลิฟมอเตอร์ 5

พบกับการเปิดตัว Leapmotor B10 อย่างยิ่งใหญ่ที่บูธ Stellantis ในงาน IAA MOBILITY 2025 เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 8–14 กันยายน 2568